การลงพื้นพบปะประชาชนย่านสยามสแควร์ของแกนนำพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย คู่สมรส นายสมยศ ลีลาปัญญาเลิศ ร่วมด้วยบุตรชายและบุตรสาว คือ นายภูมิภัทร, นายพีรภัทร, น.ส.ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ ลงพื้นที่พบปะวัยรุ่น คนรุ่นใหม่และประชาชนตั้งแต่สยามสแควร์วัน ลานสยามพารากอน และสยามเซ็นเตอร์ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงนโยบายสนับสนุนการสร้างโอกาสทำมาหากินของคนรุ่นใหม่ และคนที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ที่ทำให้ธุรกิจหลายสาขาต้องลดอัตราตำแหน่งงานลง และจะทำให้มีคนตกงานในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าเพิ่มขึ้นเป็นแสนคน ผู้ที่จบใหม่จะหางานได้ยากขึ้น จึงต้องวางนโยบายเพื่อช่วยเหลือในเรื่องนี้ เช่น การตั้งกองทุนสร้างเจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่หรือเถ้าแก่ใหม่ การสมัครใจรับราชการแทนการเกณฑ์ทหาร หรือเลือกที่จะเข้ารับการอบรมเพื่อเพื่อสร้างธุรกิจรุ่นใหม่ ที่จะต้องขอแบ่งงบจากกระทรวงกลาโหมมาสนับสนุน รวมถึงจะทำแบรนด์ไทยแลนด์ พาคนตัวเล็ก ๆ ออกไปขายของในตลาดโลกโดยใช้เทคโนโลยีมาสนับสนุน
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่จตุจักร ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้และการลงพื้นที่จตุจักรของพรรคพลังประชารัฐในวันนี้ ว่าเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าทั้งหมดเป็นเนื้อเดียวกัน และพิสูจน์ให้เห็นว่า การร่างกติกา และตั้งโรดแมพก็เพื่อนำไปสู่การคืนอำนาจของผู้มีอำนาจ ส่วนการที่มีข้าราชการร่วมขึ้นเวลาปราศรัยของพรรคการเมืองต่าง ๆ คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่าเจ้าหน้าที่รัฐต้องเป็นกลาง แต่แม้จะถูกเอารัดเอาเปรียบแต่จะขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด พร้อมถามถึงความเหมาะสมในการใช้อำนาจเต็มของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้า คสช. นายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐสมควรหรือไม่ และถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้จนถึงวันเลือกตั้งหรือไม่ พร้อมระบุว่าตนเองทำงานทางการเมืองมา 27 ปีก็ไม่เคยเจอเช่นนี้ ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่การเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีมีอำนาจเต็มในการ อนุมัติงบประมาณและโยกย้ายข้าราชการ และมีอำนาจม.44 อีกด้วย … ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี
