เคยมีคำเปรียบเปรยที่ว่า “ชีวิตคนเรา..ไม่ต่างจากตัวบทในหนังหรือละคร” มีความโลดโผน ตื่นเต้น มีซึมเศร้า มีขึ้นสุดลงสุด เป็นวิถีของปุถุชนคนทั่วไป
…..ชีวิตของ “พี่แหลม” นายวิศักดิ์ศิลป์ วังเอก ชายหนุ่มจากศรีสะเกษวัย 31 ปีก็เช่นกัน เคยผ่านร้อนผ่านหนาวไต่เต้ามาจากดิน ก่อนจะกลายเป็นดาวดังครองใจคนไทยไปค่อนประเทศ
เคยมีรักแรกวัยใส เมื่อตอนเรียนมัธยมปลายปีที่ 5 ก็เพราะสาวเจ้าบ้านเดียวกัน ปากเปราะเลาะรานมาจีบใส่ สุดท้ายจึงได้ใจของชายหนุ่มแสนซื่อบื้อไปครอง วันหนึ่งหนุ่มชาวไร่ผู้ใช้วิชาชีพชกมวยไทยหากินแถวบ้าน ตามประสาคนจนมองอนาคตไม่ออก ว่าหากยังกัดก้อนเกลือกินเช่นนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่
ว่าแล้วจึงพาสาวเจ้าคนรักขึ้นรถไฟไปเผชิญโลกใหม่ในเมืองกรุง มุ่งหวังไปตายเอาดาบหน้า ตามประสาหนังไทยน้ำคร่ำสมัยก่อนที่ชอบสร้างกัน รับจ้างทำงานเป็นยามรักษาความปลอดภัย ไม่วายยังมีคนขยายความ ลำบากขนาดต้องคุ้ยขยะหาของกินเสริมชีวิตกลายเป็นดราม่าไปโน่น..!!
ยอมทนลำบากทุกอย่างก็เพียงเพื่อ”คนรัก”คนเดียวที่ไว้ใจ (เธอไม่ต้องทำงานอะไร) ลงทุนไปเป็นบันไดให้มวยสร้างญี่ปุ่นอุ่นเครื่องทุบเป็นว่าเล่น เจ็บระบมหมดค่าตัวไปกับค่ายารักษา ถึงกับต้องรำพึงในใจว่า
“..แต่นี้ไป กูจะไม่ยอมเจ็บตัวแพ้ใครแบบนี้อีก !!”
กลับมากัดฟันซ้อมหนัก จากมวยนอกนอกสายตากลายเป็นแชมป์โลก เป็นเศรษฐีย่อมๆ มีเงินมีบ้านสร้างคอนโดได้อยู่สมใจ แต่แล้วคู่ชีวิตที่เคยฝากใจ ร่วมสุข ร่วมทุกข์กันมากว่า 18 ปีก็พาลเปลี่ยนใจ ทำรักล่มล้มกระดานตีจากกันไปดื้อๆ
“ความรัก” เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นบทเรียนสอนใจของคนสองคนที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน ขออวยพรให้ “ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น” มีความสุขใช้ชีวิตที่ยั่งยืนกับสาวเจ้า ที่คิดว่า”ใช่”แล้วในวันนี้
ขอแสดงความยินดี จากใจ ไว้ ณ ที่นี้ นะครับ
สอดสร้อย สาวสังเวียน