เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ สน.บุคคโล นายชัยพล พรรณา หรือคิว อายุ 29 ปี เจ้าของบ้านที่จัดปาร์ตี้ย่านบางบัวทอง พร้อม นายนที สถิตย์พงษ์สถาพร หรือตี๋ รุ่นพี่ที่สนิท และน.ส.เฟิร์ส แฟนสาวนายคิว เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม
นายชัยพล กล่าวว่า ไม่ทราบว่าตำรวจเรียกสอบปากคำในประเด็นใด แต่ส่วนตัวก็เตรียมชี้แจงเรื่องนาฬิกาสีทอง ที่เป็นกระแสโซเชียลว่ามีคนอื่นนอกจากน้ำอุ่น ไปลูบใบหน้าเบล ขณะที่มีภาพวงจรปิดในลิฟท์ที่เห็นน้ำอุ่นสวมนาฬิกาสีดำ ซึ่งได้นำคลิปหลักฐานมามอบให้กับตำรวจ เพื่อยืนยันว่า เจ้าของนาฬิกาคือน้ำอุ่น ไม่ใช่ตนอย่างแน่นอน เนื่องจากนาฬิกาที่ใส่ประจำเป็นเรือนทองสายหนัง และไว้เล็บยาว ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เชื่อว่าน้ำอุ่นต้องเปลี่ยนนาฬิกา น่าจะเกิดจากตอนที่ตนลื่นล้มในปาร์ตี้แล้วน้ำอุ่นมาช่วยดึงไว้จนสายนาฬิกาขาด จึงไปเปลี่ยนนาฬิกาสายสีดำที่คนเล่นฟิตเนสชอบใช้ เพราะตนเห็นตอนน้ำอุ่นเอาออกมาจากกระเป๋ายิม และเชื่อว่าน้ำอุ่นน่าจะเป็นคนติดนาฬิกาจึงต้องนำมาสวมใส่ ซึ่งคาดว่าตอนเปลี่ยนนาฬิกาอาจจะเป็นในรถหลังจากน้ำอุ่นออกจากบ้านแล้ว
นายชัยพล กล่าวอีกว่า เรื่องอาชีพที่บอกว่าตนเล่นหุ้นนั้นเป็นความจริง แต่ตนยังซื้อบิทคอยน์ และขายของในเกมส์ออนไลน์ด้วย ยืนยันไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนการว่าจ้างพริตตี้ ค่าเหล้าค่าอาหารนั้นก็ช่วยกันออกเงินกับนายตี๋ จากเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้ตนรู้สึกหนักใจมากที่ตกเป็นจำเลยสังคม ทั้งนี้จากผลตรวจเบื้องต้นที่ระบุ เบล เสียชีวิตเนื่องจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทางตำรวจก็ได้สอบปากคำทุกคนในบ้านครบแล้ว ส่วนในเรื่องคดีความยอมรับว่ามีความกังวลอยู่บ้าง
นายชัยพล เผยอีกว่า ส่วนประเด็นภาพวงจรปิดที่มีภาพชายคนหนึ่ง อยู่กับน้ำอุ่นตอนที่อุ้มเบลขึ้นรถหน้าบ้านนั้น เป็นคนรู้จักกับพวกตน ชื่อปิงปอง ที่กำลังจะเข้ามาเอากุญแจรถที่บ้าน โดยน้ำอุ่นบอกว่าเป็นแฟนกัน ชายคนดังกล่าวไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร ก็เลยถือรองเท้าไปให้ ซึ่งตำรวจได้เรียกสอบปากคำปิงปองไปแล้ว
