โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

คิดจะบุกตลาดออนไลน์จีน ต้องรู้จัก ‘เมืองแต่ละโซน’

กรุงเทพธุรกิจ

เผยแพร่ 17 ม.ค. 2563 เวลา 01.40 น.

เพราะแต่ละโซนมีการเติบโตที่เกี่ยวข้องกับความเจริญที่แตกต่างกัน หนึ่งในเรื่องสำคัญที่หลายคนมักเข้าใจผิดเมื่อเข้าไปบุกตลาดจีน คือ ความต้องการที่มีความหลากหลายอย่างมากของผู้บริโภค เนื่องจากตลาดจีนแต่ละแห่งนั้นไม่เหมือนกันครับ

ก่อนบุกตลาดจีน เราต้องรู้จักกับ "ระดับ" ของ "แต่ละเมือง" ในจีน รวมถึง "แต่ละโซน" เพื่อเพิ่มโอกาสในการบุกตลาดจีน และช่วยลดความเสี่ยงด้วย

อันดับแรกต้องเข้าใจก่อนว่าประเทศจีนไม่ใช่เอกภาพทั้งหมด มีพื้นที่กว้างใหญ่มหาศาลเป็นอันดับ 3 ของโลก มีประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน มากกว่าประเทศไทย 20 เท่า ที่สำคัญ คือ เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 4,000 ปี

ถือว่าเป็นหนึ่งในแหล่งต้นทางอารยธรรมของโลก อีกทั้งแต่ละพื้นที่แม้จะผ่านกาลเวลามาแล้ว แต่ยังมีความซับซ้อนหลากหลายมิติ ทั้งผู้คน สถานที่ วิถีชีวิต วัฒนธรรม

ดังนั้นในแต่ละโซนจึงมีการเติบโตที่เกี่ยวข้องกับความเจริญในภาพรวมของประเทศที่แตกต่างกัน

ปัจจุบัน จีนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก แต่ละเมืองและแต่ละภูมิภาคมีการเติบโต จุดแข็ง จุดด้อย และลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนกันเลย แม้เชื้อสายที่สำคัญอันดับหนึ่ง คือ ชาวฮั่น ซึ่งถือเป็นกลุ่มประชากรมากกว่า 92% ประชากรของจีนทั้งหมดก็ตาม

ถ้าจะเริ่มการบุกตลาดจีน สิ่งที่เราควรทราบก่อนก็คือ ความแตกต่างของพื้นที่แต่ละโซนอย่างคร่าวๆ อย่างน้อยที่สุดก็ช่วยให้เราประเมินโอกาสและความเสี่ยงได้ครับ

  • ปักกิ่ง และ โซนภาคเหนือ

เริ่มที่ "กรุงปักกิ่ง" กับ โซนภาคเหนือ ภาคเหนือของจีน โดยเฉพาะตั้งแต่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนที่มีความคับคั่งมาก ไปจนถึง "ฮาร์บิน" ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ติดกับประเทศมองโกเลีย พื้นที่ทางเหนือนี้มีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นบ่อยครั้ง และยังเป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตที่สำคัญ

กรุงปักกิ่ง ถูกสถาปนาเป็นนครหลวงของจีนมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงเมื่อประมาณ 600 ปีก่อน เป็นแหล่งรวมความเจริญและศูนย์กลางปกครองของประเทศจีน ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการต่างๆ และมีการจัดงานมหกรรมสำคัญเช่นโอลิมปิก

ปัญหาที่เกิดในช่วงหลายปีหลัง คือ เรื่องสภาพภูมิอากาศและความแออัดในเมืองหลวง แม้ว่าปัจจุบันได้รับการรณรงค์ป้องกันสภาพอากาศที่เป็นมลภาวะมากก็ตาม รวมถึงยังมีแผนการที่จะขยายความเจริญไปยังเมืองใหม่ที่จะตั้งขึ้นทางใต้ของปักกิ่งด้วย เพื่อลดความแออัดในปักกิ่งลงด้วย

อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพอากาศในภาคเหนือของจีนค่อนข้างแปรปรวน และมีลมหนาวเย็นมาแต่ไหนแต่ไร โดยเฉพาะในหน้าหนาว อุณหภูมิจะลดต่ำลงถึงติดลบ มีหิมะตก

ในแง่การท่องเที่ยวทำให้ในภูมิภาคนี้มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากภาคอื่นๆ คือ เมื่อถึงช่วงฤดูหนาว คนจีนที่มีรายได้ดีและมีฐานะมักส่งพ่อแม่ที่ชราแล้วให้เดินทางออกนอกประเทศเพื่อหนีสภาพอากาศ แล้วไปอยู่อาศัยในต่างประเทศ

โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีอุณหภูมิอบอุ่นและติดทะเลอย่างน้อย 2-4 เดือนต่อปี ไม่ว่าจะเป็น ประเทศไทย เกาะไหหลำ (ไห่หนาน) เกาะบาหลี เป็นต้น

และเนื่องจาก กรุงปักกิ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางความเจริญและเป็นศูนย์รวมของการบริหารประเทศ จึงยังคงความเป็นจีนใน่แง่ของชาติที่มีความเข้มข้นสูงดังนั้นคนต่างชาติที่เดินทางมาต้องปรับตัวพอสมควร แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งมหานครสำคัญที่สุดของจีนที่มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะพัฒนาและปกป้องสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ไว้มากที่สุดด้วย

  • เสฉวน และ โซนภาคตะวันตก

ส่วน "เมืองเสฉวน" กับ โซนภาคตะวันตก โซนนี้จะแบ่งเป็นสองส่วนสำคัญ คือ โซนตะวันตกทางเหนือ และตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ เมื่อขึ้นไปทางเหนือของโซนนี้ในอดีตเมื่อ 2,000 กว่าปีที่แล้วก็คือ "เส้นทางสายไหม" ที่พระเจ้าฮั่นอู่ตี้แห่งราชวงศ์ฮั่นได้ดำเนินโครงการเพื่อเชื่อมต่อประเทศจีนกับโลกภายนอกไปจนถึงทวีปยุโรปเอาไว้

แต่ที่อยากจะเน้นหนัก คือ ทางตะวันตกตอนในและตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งมีสองหัวเมืองที่สำคัญอันดับต้นๆ ของจีนซึ่งคนไทยเราก็คุ้นชื่อกันดี นั่นคือ "นครเฉิงตู" และ "คุนหมิง"

ด้าน นครเฉิงตู เป็นหัวเมืองเอกของมณฑลเสฉวน หรือที่หลายคนรู้จักเนื่องจากในประวัติศาสตร์นี่ก็คือเมืองหลวงของอาณาจักรจ๊กก๊ก (สู่) ที่ก่อตั้งโดย "เล่าปี่" ในยุคสามก๊กนั่นเอง เมืองนี้จึงมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและยังเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวอันดับต้นๆของจีนด้วย

สภาพภูมิประเทศนั้นเต็มไปด้วยภูเขาล้อมรอบจำนวนมาก มีแหล่งธรรมชาติ แม่น้ำตัดผ่าน สภาพภูมิอากาศค่อนข้างสบายคล้ายเซี่ยงไฮ้ ลักษณะการใช้ชีวิตของผู้คนฝั่งนี้ค่อนข้างอยู่กินอย่างสบายๆ แม้จะเป็นเมืองใหญ่ แต่การแข่งขันยังไม่รุนแรงมากเหมือนกรุงปักกิ่ง หรือนครเซี่ยงไฮ้ เพราะที่เสฉวนยังมีลักษณะของการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายอยู่นั่นเอง

ปัจจุบัน เฉิงตู ได้พัฒนาขึ้นจนกลายเป็นแหล่งนำเข้าและส่งออกที่สำคัญของจีน เนื่องจากเป็นเส้นทางสำคัญสำหรับยุทธศาสตร์ "One Belt Road" รวมถึงมีเส้นทางรถไฟเดินทางไปถึงทวีปยุโรปด้วย ที่นี่จึงเป็นเส้นทางผ่านสำหรับจีน-ยุโรปที่สำคัญ แล้วยังสามารถเดินทางลงมายังภูมิภาคอาเซียนได้ด้วย แต่ก็เป็นแหล่งที่มีภัยธรรมชาติเช่นแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง ที่เฉิงตูนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ในยุคสามก๊กที่โดดเด่นด้วย

รายงานจากปี 2560-2561 ระบุว่า นครเสฉวนเป็นแหล่งสำคัญที่ผู้คนนิยมจับจ่ายซื้อสินค้าแบรนด์ "Luxury" ที่มาแรงและน่าจับตามองมากที่สุด ซึ่งบรรดาแบรนด์ชื่อดังที่เข้ามาในตลาดจีนมักทดลองทำทางการตลาดรูปแบบต่างๆ กับที่เสฉวนนี้ก่อนจะไปที่อื่น

  • กว่างโจว เซินเจิ้น และโซนภาคใต้

เมืองกว่างโจว เซินเจิ้น และโซนภาคใต้ ภาคใต้ของจีนถือเป็นประตูสำคัญสำหรับการติดต่อค้าขายกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทย โดยคนจากมณฑลกวางตุ้งที่อยู่ทางใต้ของจีน คือกลุ่มคนที่เข้ามาเมืองไทยมากที่สุด

กล่าวได้ว่า เมืองกว่างโจวและเซินเจิ้นกลายเป็นสองเมืองสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยไม่สามารถมองข้าม หรือเรียกได้ว่าเป็น "ไฟท์บังคับ" ถ้าจะบุกตลาดจีนเลยก็ว่าได้

เดิมทีนครเซินเจิ้นขึ้นชื่อว่า เป็นเมืองแห่งการผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภคในอันดับต้นๆ ของจีน ทั้งยังสามารถเดินทางติดต่อกับเกาะฮ่องกงได้ ขณะที่กว่างโจวซึ่งอยู่ในมณฑลกวางตุ้งนั้นก็เป็นจุดศูนย์กลางในการค้าขายของจีน แต่ละปีจะมีการจัดงานมหกรรมแสดงสินค้า "Canton Fair" สองครั้งต่อปี ซึ่งได้รับความสนใจจากนักธุรกิจ นักลงทุน จากทั่วทุกมุมโลก

ทุกวันนี้นครเซินเจิ้นและเมืองหางโจวเป็นเมืองสำคัญด้านอุตสาหกรรม การผลิต ทั้งเป็นที่ตั้งของบริษัทเทนเซนต์ ซึ่งเวลานี้เป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดของจีน ขณะที่เมืองหางโจวเองก็เป็นที่ตั้งของเครืออาลีบาบาซึ่งเป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซจีน

ปัจจุบันมีสถานกงสุลที่ "กว่างโจว" เพื่อช่วยเหลือ

ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการไปทำธุรกิจหรือบุกตลาดจีน

นอกจากนี้ สองเมืองนี้ยังมีความสำคัญในแง่ของการเป็นเมืองแห่งโรงงานและการผลิต สำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะนำเข้าสินค้าจากจีน สองเมือง คือ ช่องทางสำคัญที่จะต้องติดต่อ ขณะเดียวกันมีราคาค่อนข้างถูก แม้ว่าในอดีตจะมีปัญหาในเรื่องคุณภาพสินค้าอยู่บ้าง จากการที่มีคำล้อเลียนว่า เป็นของก็อปจากเซินเจิ้น แต่ทุกวันนี้ทางเซินเจิ้นก็ได้พยายามที่จะยกระดับคุณภาพสินค้าให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น ทว่าสำหรับผู้ประกอบการไทยเองก็ยังต้องระวังในการมองหาสินค้าต่างๆ จากที่นี่เช่นกัน

ในบรรดาเมืองต่างๆ คนไทยมีโอกาสไปทำธุรกิจที่สองเมืองนี้ได้สะดวกกว่าที่อื่น เนื่องจากปัจจุบันมีสถานกงสุลที่กว่างโจวเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ต้องการไปทำธุรกิจหรือบุกตลาดจีน

  • นครเซี่ยงไฮ้ และโซนภาคตะวันออก

ภาคตะวันออกเป็นแหล่งความเจริญและการลงทุนจากต่างแดนของจีน โดยเฉพาะที่ "นครเซี่ยงไฮ้" ซึ่งนับว่าเป็นเมืองสำคัญที่สุด ไม่ใช่แค่ในภาคตะวันออก แต่ยังสำคัญเป็นอันดับหนึ่งประเทศจีนด้วย ปัจจุบันเป็นเมืองสำคัญในด้านเศรษฐกิจ และการเป็นแหล่งลงทุนจากต่างประเทศ

นอกจากนี้ มหานครเซี่ยงไฮ้ยังเป็นเมืองสำคัญทางด้านการลงทุนของจีน ที่ปัจจุบันมีชาวต่างชาติเข้าไปใช้ชีวิตอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกและง่ายที่สุด มีการเปิดกว้างด้านวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ต่างๆ ไปจนถึงมีบางเขตที่สามารถเปิดให้บริการใช้งานโซเชียลมีเดียสำหรับชาวต่างประเทศด้วย

มากกว่านั้นนครเซี่ยงไฮ้ยังเป็นเมืองใหญ่ที่มีอาณาเขตติดกับมหาสมุทร จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญอย่างมากด้านการส่งออกและนำเข้า ไปจนถึงระบบโลจิสติกส์และการเชื่อมต่อกับประเทศอื่นๆ ในภาคตะวันออกของเอเชีย โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี ฯลฯ

ปัจจุบันมีชาวต่างชาติเข้าไปใช้ชีวิตอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกและง่ายที่สุด มีการเปิดกว้างด้านวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ต่างๆ ไปจนถึงมีบางเขตที่สามารถเปิดให้บริการใช้งานโซเชียลมีเดียสำหรับชาวต่างประเทศด้วย

ปัจจุบัน เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองใหญ่ที่มีค่าครองชีพสูงสุดอันดับต้นๆของจีน มีจีดีพีสูงถึง 9.1 ล้านล้านหยวน หากไม่นับปักกิ่งแล้ว ถือว่าเซี่ยงไฮ้มีส่วนสำคัญมากที่ทำให้ภูมิภาคนี้มีศักยภาพในระดับการเป็นนครหลวงจีน

การเข้ามาลงทุนที่นี่จึงจำเป็นต้องพิจารณาให้รอบคอบอย่างมาก เพราะการแข่งขันสูง ความเสี่ยงสูง แม้ว่าจะมีโอกาสที่ดี เพราะเมืองนี้ค่อนข้างจะมีความเป็น "International" ผู้คนในส่วนต่างๆ สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีกว่าเมืองอื่นๆ และมีการพัฒนาใกล้เคียงกับฮ่องกงมาก

โดยสิ่งบ่งชี้อย่างหนึ่งคือ เซี่ยงไฮ้เป็นแหล่งที่บริษัทซีพี(C.P.) หรือที่ในภาษาจีนเรียกว่าเจิ้งต้า ได้เข้าไปทำการเปิดห้างสรรพสินค้าระดับหรูคือ ซุปเปอร์แบรนด์มอลล์ที่ใจกลางนครเซี่ยงไฮ้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยสรุปแล้ว โซนทางตะวันออกของจีนจึงนับเป็นเฮดควอเตอร์ที่สำคัญทางด้านเศรษฐกิจและการลงทุนจากต่างแดน ซึ่งเวลานี้อัตราส่วนทางเศรษฐกิจของจีนกว่า 50% มาจากแหล่งการเข้ามาลงทุนจากต่างชาติ ทำให้เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่สร้างรายได้ให้กับประเทศจีนมากที่สุด และมีบริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนและปักหลักอยู่มากที่สุดด้วย

เราจะเห็นได้ว่าแต่ละพื้นที่และภูมิภาคต่างๆ ของจีน มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร ดังนั้นก่อนจะบุกตลาดจีน จึงต้องทำความเข้าใจตลาดที่เราจะเข้าไปด้วยครับ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0