ตอนเด็ก ๆ เราโตมากับประโยคที่ครูพร่ำบอกว่า "อย่าพูดคำหยาบ มันไม่ดี"
เราโดนแม่ตีเพราะเผลอพูดคำไม่ดีออกไป
ภาษาแรง ๆ หยาบ ๆ อาจจะไม่เป็นที่ปรารถนาในสังคมและการรักษาสันติภาพสักเท่าไร แต่มีงานวิจัยล่าสุดที่ออกมาคอนเฟิร์มว่าการสบถคำหยาบในบางครั้งก็อาจจะมีข้อดีอยู่บ้าง เพราะจากงานวิจัยที่ศึกษาเรื่องจิตวิทยาของการพูดคำหยาบ การโพล่งมันออกมาในบางสถานการณ์ช่วยเพิ่มพลังทางกายและทำให้เราฮึกเหิมขึ้นได้จริง!
คิดง่าย ๆ เลยอย่างเช่นเวลาที่คุณต้องออกแรงผลักรถที่จอดขวาง หรือเวลาที่ต้องยกของหนัก ๆ ถ้าคุณเปล่งเสียงสบถออกมา คุณจะมีแรงมากขึ้นโดยอัตโนมัติเลย งานวิจัยโดย ศาสตราจารย์ริชาร์ด สตีเฟนส์ นักจิตวิทยาประจำมหาวิทยาลัย Keeles ประเทศอังกฤษ ทดลองให้เป็นรูปเป็นร่างมากกว่านี้นิดนึงโดยการชวนคน 29 คนมาทำการทดสอบปั่นจักรยาน ส่วนอีก 52 คนมาทำแบบทดสอบบีบมือจับ
แบบทดสอบเริ่มต้นด้วยการให้ผู้ทำการทดลองเลือกคำมา 2 คำ คำแรกเป็นคำหยาบที่ตัวเองมักหลุดอุทาน ส่วนคำที่ 2 เป็นคำที่อธิบายลักษณะของโต๊ะ (ซึ่งเป็นคำอะไรก็ได้ที่ผู้พูดจะนึกถึง เช่น ไม้, ใหญ่, สวย) ระหว่างที่ทำกิจกรรมทั้ง 2 ประเภท แต่ละคนจะต้องพูดคำที่เลือกซ้ำไปซ้ำมาโดยรอบแรกใช้คำหยาบส่วนรอบที่ 2 ใช้คำอธิบายโต๊ะ
"เราทำแบบทดสอบแยกกันโดยให้ทุกคนทวนคำเหล่านี้เรื่อย ๆ ในโทนเสียงที่นิ่งและไม่ใส่อารมณ์" ศาสตราจารย์ริชาร์ดกล่าว และผลการทดลองก็เป็นไปตามคาดว่าการพูดคำหยาบทำให้ผู้ทดลองมีแรงปั่นจักรยานได้เร็วขึ้น โดยจุดพีคอยู่ที่ 24 วัตส์ภายในเวลา 30 วินาที ส่วนการบีบมือก็แรงขึ้นเช่นกัน
การทดลองนี้อธิบายประสบการณ์การปั่นจักรยานข้ามประเทศจากเมืองเรดดิ้งถึงบาร์เซโลนาของมาร์ก ฟูล์กส์ เพื่อนของศาสตราจารย์ริชาร์ดได้เป็นอย่างดี เขาบอกว่าการสบถในช่วงเวลาที่ยากลำบากช่วยให้เขาปั่นผ่านเนินสูงและเส้นทางยาก ๆ ได้ ข้อสรุปง่าย ๆ ก็คือคำหยาบเป็นตัวช่วยเพิ่มพลังทางกายได้ดีทีเดียว
ขอยืมคำพูดจันจิมาว่า "ทุกอย่างมี 2 ด้าน" หากพูดผิดกาลเทศะ อาจจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง แต่หากพูดในสถานการณ์ที่เหมาะสม คำหยาบก็อาจจะเป็นประโยชน์ที่ช่วยให้เราทำอะไรสำเร็จก็ได้เหมือนกันนะ!
แหล่งที่มา