“ลองดูเราจริงๆก่อนไหม ก่อนจะตัดสินเรา”
เรื่องราวในครอบครัวของเขาตกเป็นข่าวมาต่อเนื่องและยาวนาน ซึ่งจากการนั้น สงกรานต์ เตชะณรงค์ บอกตรงๆว่าส่งผลกระทบต่อจิตใจ
“เรื่องครอบครัวเป็นเรื่องหลักของเรา พอมีปัญหา ก็มีผลต่อใจ” เขาว่า
หากกระนั้นชีวิตก็ต้องไปต่อ ทุกวันนี้เขาจึงพยายามทำหน้าที่ที่ต้องทำ ทั้งในส่วนงานโครงการสร้างที่พักอาศัย ซึ่งรับช่วงต่อมาจากครอบครัว
“ทุกคนคิดว่าผมสบาย มีคนมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ แต่ธุรกิจไม่ได้มอบให้แล้วอยู่ได้ มันต้องเข้าไปดูแลตลอดเวลา” สงกรานต์เผยความรู้สึก
และด้วยเหตุนั้นชีวิตส่วนใหญ่ในทุกวันนี้ของเขาจึงมักหมดไปกับงาน
“สไตล์ผมเน้นงานเป็นหลัก เพราะเราอยู่ในวัยทำงาน ก็ต้องใช้งานพิสูจน์ตัวตน”
และจัดสรรเวลาอีกส่วนเพื่อออกกำลังกาย ตามที่ถูกปูพื้นฐานมาตั้งแต่เด็กๆ ว่าเป็นกิจกรรมต้องทำทุกวัน ไม่ต่างจากการทานอาหารเพื่อยังชีพ
ทั้งนี้ขณะที่เรื่องงานซึ่งดูเหมือนจะไปได้ดี แต่ชีวิตครอบครัวก็เป็นอย่างที่รู้ๆจากข่าว
โดยกับ แอฟ ทักษอร นั้น สงกรานต์บอกว่ายังคุยกันอยู่บ้าง โดยส่วนมากคุยกันเรื่องลูก
“ไม่ได้คุยเรื่องความรู้สึก”
ส่วนลูกสาวคือ น้องปีใหม่ นั้น ได้เจอกันทุกสัปดาห์
“เขาเป็นเหมือนกำลังใจ เป็นคนที่ทำให้เรารู้สึกห้ามยอมแพ้”
พร้อมกันนั้นก็ยังเป็นคนทำให้เขาระมัดระวังในเรื่องการกระทำต่างๆมากขึ้น
“เพราะเรามีลูก และโลกมันออนไลน์ ทุกอย่างถูกบันทึก เราจะทำอะไร วันหนึ่งเขาอาจจะเปิดมาเจอ ก็ต้องระวังตัวมากขึ้น”
กับเรื่องต่างๆนานาที่ได้เจอในชีวิต สงกรานต์บอกเลยบางครั้งอดคิดไม่ได้ว่า เขาน่ะเป็นคนโชคร้าย
ซึ่ง“ก็ทำให้ท้อบ้าง แต่เราไม่สามารถอ่อนแอได้”
และเมื่อถามไปว่า ถึงวันนี้มุมมองความรักของเขาเปลี่ยนไปไหม?
“เปลี่ยนไป” เขาบอก
“เหมือนกับให้ความสำคัญกับความรักมากขึ้น ถึงแม้เราจะเสียไป และทำให้เราแย่มากๆ แต่ก็เรียนรู้และเข้าใจว่าควรดูแลรักษาให้ได้”
อย่างไรก็ตาม ยังดีที่เรื่องความสุขในชีวิตนั้น สงกรานต์บอก “มีความสุขตลอดเวลาครับ”
“เราผ่านช่วงแย่ๆที่สุดของชีวิตมาได้ เราสามารถผ่านมาได้ เราจะรู้ว่าทุกวันคือวันที่ดี สามารถมีความสุขได้ และทุกอย่างที่เราทำคือสิ่งที่เรารัก ถามว่าลำบาก ยากไหม แต่ถ้าทำในสิ่งที่รัก ก็ไม่รู้สึกว่าตรงนั้นคืออุปสรรค”
และเมื่อถามว่ามีอะไรที่อยากบอกกับคนอื่นๆที่ไม่เคยรู้จัก แต่มองมา และพิจารณาความเป็นเขาจากใดๆก็ตามบ้างหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่า “อยากให้เข้าใจเรามากขึ้น ลองดูเราจริงๆก่อนไหม”
“ก่อนจะตัดสินเรา”
