โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

คว้าชัยรอบ15ปี! ‘เอกนิษฐ์’ ซัดตุงแรกนามทีมชาติพาทัพ ‘ช้างศึก’ เปิดรังเชือด ‘ยูเออี’ 2-1 ยึดจ่าฝูงกลุ่ม

MATICHON ONLINE

อัพเดต 16 ต.ค. 2562 เวลา 15.46 น. • เผยแพร่ 15 ต.ค. 2562 เวลา 13.56 น.
23BA28E1-F471-4316-86B0-CA994C17E730

“ช้างศึก” ทีมชาติไทย ลงสนามพบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มจี นัดที่ 3 ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม

สถิติที่ทีมชาติไทย เคยพบกับ ยูเออี ตามที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ให้การรับรอง เคยเจอกันก่อนหน้านี้ 13 นัด ปรากฏว่า ไทย ชนะ 2 นัด เสมอ 4 นัด และยูเออี ชนะ 7 นัด โดยนัดล่าสุดเจอกันในศึกเอเชี่ยน คัพ 2019 รอบแบ่งกลุ่ม ผลเสมอ 1-1 ส่วนในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย เจอกัน 2 ครั้ง นัดแรก ไทยบุกแพ้ 1-3 ก่อนเปิดบ้านเสมอ 1-1

เกมนี้ อากิระ นิชิโนะ กุนซือช้างศึกชาวญี่ปุ่นจัดทัพ 11 ผู้เล่นลงสนามในระบบ 4-2-3-1 ดังนี้ ผู้รักษาประตู “แชมป์” ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (กัปตันทีม) / กองหลัง แบ๊กซ้าย “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน, แบ๊กขวา “นนท์” นิติพงษ์ เสลานนท์, คู่เซ็นเตอร์ “ตั้ม” ธนบูรณ์ เกษารัตน์ จับคู่กับ มานูเอล ทอม เบียห์ร

ขณะที่คู่กองกลางเป็น “เต้” พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล, “ตังค์” สารัช อยู่เย็น ลงทำหน้าคุมเกมในแดนกลาง ส่วนผู้เล่นแนวรุก “บุ๊ค” เอกนิษฐ์ ปัญญา, “เช็ค” สุภโชค สารชาติ, “พี” ศศลักษณ์ ไหประโคน และกองหน้าตัวเป้า “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ลงไล่ล่าตาข่าย

ขณะที่ทีมยูเออีภายใต้การคุมทัพของ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวก์ กุนซือชาวดัตช์จัดผู้เล่น 11 ตัวจริงนำโดย อาลี มับคุต กองหน้าจอมแสบที่ชอบยิงใส่ทีมไทย และโอมาร์ อับดุลราห์มาน มิดฟิลด์กัปตันทีม ส่วนคนอื่นมี ผู้รักษาประตู คาลิด เอซ่า, โมฮาเหม็ด ซาเลห์, โมฮัมหมัด โอมาร์, อาลี ฮัสซัน, คาลิฟา มูบารัค, อาห์เหม็ด บาห์มาน, คาลิล อิบราฮิม, อัลฮาซาน ซาเลห์ และอาลี ซาเลห์

เกมครึ่งแรกทีมไทยครองบอลบุกได้ลุ้นก่อนในนาทีที่ 5 จากจังหวะที่ สุภโชค สารชาติ ได้บอลหลุดขึ้นไปทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนโยนเข้ากลางเขตโทษให้ ธีรศิลป์ แดงดา ได้โอกาสแปบอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 13 ไทยได้ลุ้นต่อเนื่องจาก สารัช อยู่เย็น ง้างเท้าสับไกยิงนอกเขตโทษ แต่นายด่านทีมยูเออีทุบบอลทิ้งออกมาได้

นาทีที่ 20 เอกนิษฐ์ ปัญญา อาศัยความคล่องตัวกระชากบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายฉีกหนีผู้เล่นยูเออีตัดเข้ากลางแล้วซัดบอลข้ามคานออกไป จนกระทั่งนาทีที่ 26 ในที่สุดทัพช้างศึกพังประตูขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จจากจังหวะที่ เอกนิษฐ์ ปัญญา ตักบอลเข้าเขตโทษให้ ธีรศิลป์ แดงดา สลัดหนีตัวประกอบก่อนลอยตัวขึ้นโขกบอลเข้าไปตุงตาข่าย

 

ทีมไทยโหมบุกต่อเนื่อง และได้ลุ้นในช่วงนาทีที่ 31 สุภโชค สารชาติ ยิงบอลแฉลบแนวรับทีมเยือนเปลี่ยนทางไปชนเสา และจากการเปิดบอลของ ธีราทร บุญมาทัน ให้ มานูเอล ทอม เบียห์ร เติมเกมรุกขึ้นมาโหม่งไม่โดนบอล ทำให้ชวดไปประตูที่ 2 อย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 35 ยูเออี ได้ลูกฟรีคิกนอกเขตโทษด้านซ้าย และเป็น โอมาร์ อับดุลราห์มาน ยิงบอลเฉียดคานบนออกไปนิดเดียวเท่านั้น

นาทีที่ 36 ทีมไทยได้ลูกฟรีคิกนอกเขตโทษด้านขวา และเป็น ธีราทร บุญมาทัน รับหน้าที่เปิดบอลเข้าไปให้ ธีรศิลป์ แดงดา โขกสะบัดไปชนคานอย่างจัง แต่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 45+2 ยูเออีได้ประตีเสมอ 1-1 อัลฮาซัน ซาเลห์ ผ่านบอลให้ อาลี มับคุต ได้ขึ้นโขกคนเดียวส่งบอลตุงตาข่าย และเป็นการยิงใส่ทีมไทยได้เป็นลูกที่ 5 ในการเจอกัน 4 นัดหลังสุด และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ช่วงครึ่งหลังเริ่มมาทีมไทยบุกใส่ทันที และได้ลุ้นในนาทีที่ 47 จากจังหวะที่ สารัช อยู่เย็น ทำชิ่งกับ ศศลักษณ์ ไหประโคน ก่อนลากบอลเข้าไปยิงหลุดกรอบไป นาทีที่ 52 ทีมไทยซัดประตูขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 นิติพงษ์ เสลานนท์ เติมเกมรุกขึ้นมาครอสบอลให้ เอกนิษฐ์ ปัญญา พุ่งชาร์จบอลเข้าไปเป็นประตูแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ของดาวรุ่งวัย 19 ปีรายนี้อีกด้วย

นาทีที่ 58 ไทยบุกขึ้นมาทางฝั่งขวา นิติพงษ์ เสลานนท์ โยนบอลให้ ธีรศิลป์ แดงดา เข้าชาร์จบอลหลุดกรอบไปอีก นาที่ 73 ยูเออี เกือบได้ประตูตีเสมอ อาเหม็ด คาลิล ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามได้ยิงบอลลอดขา ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน แต่บอลหลุดเสาออกไป ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมผลัดกันบุก แต่ไม่มีประตูเพิ่มเติม

จบเกม ทีมชาติไทย เอาชนะ ยูเออี 2-1 ซึ่งนับเป็นการคว้าชัยชนะเหนือ ยูเออี ในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่ทำได้เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ปี 2004 ในศึกฟุตบอลโลก 2006 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย โดยครั้งนั้น ทีมชาติไทย เปิดบ้านถล่ม ยูเออี ขาดลอย 3-0

ส่วนผลอีกคู่ในกลุ่มจี อินโดนีเซีย แพ้ เวียดนาม 1-3 ทำให้ตารางคะแนน ทีมชาติไทย ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงหลังลงเตะ 3 นัด มี 7 แต้มเท่ากับ เวียดนาม แต่ประตูได้เสียทีมไทยดีกว่า 1 ลูก (ไทย+4, เวียดนาม+3) ส่วน ยูเออี ตามมาเป็นอันดับ 3 มี 6 แต้ม, อันดับ 4 มาเลเซีย มี 3 แต้ม และอันดับสุดท้าย อินโดนีเซีย ลงเตะพ่ายรวด 4 นัด ยังไม่มีแต้ม โดยโปรแกรมนัดต่อไป ทีมชาติไทย จะบุกเยือน มาเลเซีย ในวันที่ 14 พฤศจิกายน ขณะที่ เวียดนาม จะเปิดบ้านพบ ยูเออี ในวันเดียวกัน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0