ประชากรไทยจะเพิ่มเป็นเกือบ 70 ล้านคนในปี 2025!!
ฟังดูอาจรู้สึกเหมือนว่าประชากรไทยจะล้นเมืองยังไงๆ ก็ไม่รู้ แต่ความจริงแล้ว พอมามองการเติบโตของประชากรไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ขอบอกว่าลดลงทุกๆ ปีเข้าให้แล้ว
- ปี 2019 ที่ผ่านมา จำนวนประชากรไทยเพิ่มขึ้นเพียง 0.18%
- ปี 2018 จำนวนประชากรไทยเพิ่มขึ้น 0.21%
- ปี 2017 จำนวนประชากรไทยเพิ่มขึ้น 0.25%
- ปี 2016 จำนวนประชากรไทยเพิ่มขึ้น 0.30%
- ปี 2015 จำนวนประชากรไทยเพิ่มขึ้น 0.43%
Worldometers คาดการณ์ว่า ประชากรไทยจะเพิ่มขึ้นสูงสุดเกือบ 70 ล้านคน (69,685,486 คน) ในปี 2025 ก่อนที่จะมีแนวโน้มลดลงเหลือ 65,372,345 คน ในปี 2050 และจะหล่นไปอยู่อันดับที่ 31 ของโลก จากเดิมไทยรั้งอันดับที่ 20 ประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก และครองอันดับที่ 4 ในแถบอาเซียน
จำนวนคนที่ลด ก็คงมาจากสถานเดียว คือ ‘ตายจ้า’ และผลที่ตามมาจากการลดของประชากร คือ แล้วการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศจะเป็นอย่างไร?
เพราะอย่างที่รู้กันตอนนี้ สังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยปัจจุบันมีผู้สูงอายุราว 1 ใน 10 ของประชากรเข้าไปแล้ว
และในอนาคตอันใกล้นี้ เรามีโอกาสเจอผู้สูงอายุได้ถึง 1 ใน 3 นึกไม่ออกเลยว่า เมื่อถึงตอนนั้นสังคมเราจะเป็นยังไงต่อไป ถ้ามีแต่คนแก่ล้นเมือง โดยไร้คนหนุ่มสาว
จริงๆ แล้ว การที่ประชากรลดลงทุกปี มีต้นตอหนึ่งมาจาก ‘จำนวนคนเหงา’
จากงานวิจัยเจาะลึกตลาดคนเหงา (Lonely in the Deep) โดยวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ระบุว่า
มีคนไทยถึง 40.4% ที่เป็นคนเหงาในทุกๆ ระดับ ตั้งแต่เหงาเล็กน้อยไปจนถึงเหงามาก หรือคิดเป็น 26.57 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งประเทศกว่า 66 ล้านคน
ช่วงอายุที่มีแนวโน้มมีความเหงาสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- กลุ่มวัยทำงาน อายุระหว่าง 23 - 40 ปี = 49.3%
- เยาวชนวัยเรียน อายุระหว่าง 18 - 22 ปี = 41.8%
- และวัยผู้ใหญ่ อายุระหว่าง 41 - 60 ปี = 33.6%
ในผลวิจัยมีตัวเลขที่น่าสนใจ คือ ครึ่งหนึ่ง หรือ 50% ของคนเหงาเป็นผู้ที่อยู่ในสภาพหย่าร้าง หรือเป็นโสด
ครึ่งหนึ่งของประเทศเลยนะนั่น!!!
ความน่าสนใจกว่านั้น คือ บรรดา ‘คนเหงา’ ทั้งหลาย จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่กับคนใหม่ๆ ได้ยากมาก
โดยเฉพาะความสัมพันธ์แบบคนรัก เพราะคนกลุ่มนี้จะมีอาการกลัวการเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ที่ทวีตัวเพิ่มขึ้น จนเริ่มมีอาการเรียกสิ่งนี้ว่า ‘โรคกลัวการผูกมัด’
โรคกลัวการผูกมัด ไม่ใช่โรคที่เพิ่งค้นพบ แต่หลายคนมีอาการนี้มานานแล้ว เพียงแค่คนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจเท่านั้นเองว่าโรคนี้มีอยู่จริง
อาการของโรคกลัวการผูกมัดเป็นอย่างไร?
สังเกตได้จาก ถ้าคนประเภทนี้ถูกฝ่ายตรงข้ามชักชวนให้คบหาแบบระยะยาว และจะเริ่มรู้สึกอึดอัดใจ ถ้ายิ่งถูกชักจูงให้เกิดการผูกมัด เช่น แต่งงานกันไหม เป็นแฟนกันนะ ไปเจอผู้ใหญ่ฝั่งเราหน่อย ก็จะยิ่งหาทางหนีออกมา เพราะคนกลุ่มนี้ เกลียดคำสัญญาและการถูกคาดหวังเป็นที่สุด
แต่ถ้าเกิดคนกลุ่มนี้ ชอบใครขึ้นมา ก็จะรู้สึกหวาดระแวงไปหมดเช่นกัน จนกลายเป็นไม่กล้าเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อนอีกด้วย
คนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่า คนที่เป็นโรคกลัวการผูกมัด คือคนที่รูปร่างหน้าตาไม่ดี ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลยไม่กล้าคบใคร แต่ไม่ใช่ เพราะโรคนี้เกิดได้ทั้งในเพศหญิง เพศชาย ทุกช่วงอายุ และทุกรูปร่างสีผิว
สาเหตุของ ‘โรคกลัวการผูกมัด’ เกิดจากอะไร?
แต่ละคนจะได้รับต้นตอที่ไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่คล้ายกันคือเคยมีอดีตความหลังฝังใจที่ไม่ดีมาก่อน เช่น
- ถูกคนรักทิ้งไปโดยไม่บอกลา
- เคยถูกคนรักหักหลัง
- ครอบครัวมีปัญหาด้านความสัมพันธ์
- เคยถูกทำร้ายร่างกา
- คู่รักไม่สนใจ
- ความหลังฝังใจที่ถูกแกล้ง
- หรือความทรงจำที่ไม่ดีในสมัยเด็ก ก็มีส่วนทำให้กลายเป็นโรคกลัวการผูกมัดได้เช่นกัน
ช่วยคนเหล่านี้ยังไง?
วิธีบรรเทาและช่วยเหลือให้คนที่เป็นโรคกลัวการผูกมัดหาย ต้องบอกตามตรงว่า ‘ไม่มี’
เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของจิตใจ หากใครสักคนคิดที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์กับคนลักษณะนี้ คุณต้องทำให้เขาไว้ใจ เชื่อใจ จนกล้าเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ และยิ่งเข้าใจปมอดีตที่เคยพบมา จากนั้นก็ช่วยรักษารอยแผลตรงนั้นได้ เขาก็จะกลับมาเป็นคนปกติที่ไม่กลัวการผูกมัดได้เอง
แต่ข้อสังเกต คือ ห้ามกระทำการอะไรที่เป็นการบังคับ เพื่อให้ผู้อยู่ในอาการนี้หาย เพราะจะยิ่งทำให้โรคกลัวการผูกมัดทวีความรุนแรงขึ้น
เรื่องบางเรื่อง ก็ต้องการเวลาเนาะ ใครเจอเพื่อนที่มีอาการแบบนี้ กำลังใจและการสร้างความเชื่อใจสำคัญที่สุดเลยละ…
อ้างอิง: www.worldometers.info