โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2563

JS100

อัพเดต 11 ก.ค. 2563 เวลา 01.21 น. • เผยแพร่ 10 ก.ค. 2563 เวลา 12.09 น. • JS100:จส.100
ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2563
ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2563

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2563

ที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาล ออกมาตรการขยายเวลาชำระหนี้ -ปล่อยเงินกู้ช่วยเอสเอ็มอี +การท่องเที่ยว

          หลังการประชุมทีมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เป็นการทำงานในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ และเป็นการหารือทุกภาคส่วน ทั้งรัฐและเอกชน เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือและฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ข้อเสนอที่น่าสนใจ คือ การตั้งศูนย์ฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังสถานการณ์โควิด-19 โดยนายกรัฐมนตรีรับข้อเสนอและเตรียมพิจารณาเรื่องข้อกฎหมายว่าจะพิจารณาอย่างไรต่อไปบ้าง พร้อมตั้งทีมรวบรวมข้อมูลเพื่อติดตามปัญหาอย่างรวดเร็ว รวมถึงยังมีมาตรการดูแลเอสเอ็มอี ซึ่งกำลังพิจารณาถึงการขยายเวลาการชำระหนี้ ที่จากเดิมจะสิ้นสุดในเดือนตุลาคมนี้ และการเพิ่มสภาพคล่องผ่านกองทุนต่าง ๆ  คาดว่าจะใช้เงินงบประมาณจาก พ.ร.บ.กู้เงิน 400,000 ล้านบาท

         เบื้องต้นอาจให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาช่วยค้ำประกัน ตามมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (soft loan) เนื่องจากมาตรการเดิมธนาคารแห่งประเทศไทย ปล่อยสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ย ไม่เกินร้อยละ2  ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี แต่หากธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ปล่อยสินเชื่อต่อ ก็จะให้ บสย.เข้ามาช่วยค้ำประกันในปีถัด ๆ ไป เพื่อให้ธนาคารมีความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น

          ส่วนภาคการท่องเที่ยวมีแนวคิดที่จะหามาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในวันธรรมดาและการกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง รวมถึงมาตรการชิม ช้อป ใช้ เพื่อช่วยเหลือภาคประชาชน ตลอดจนการทำแพลตฟอร์มของโรงแรมภายในประเทศไทยเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและโรงแรมต่าง ๆ และช่วยให้โรงแรมที่ไม่ถูกกฎหมายให้สามารถเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือของรัฐได้มากขึ้น

          สำหรับข้อเสนอต่าง ๆ จะมีการหารือรายละเอียดกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก่อนนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจต่อไป โดยเรื่องแรกที่คาดว่าจะต้องพิจารณา คือ เรื่องการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ต่อไปจะเป็นการช่วยเหลือเรื่องการท่องเที่ยว ที่ประชุมยังเป็นห่วงบัณฑิตจบใหม่ที่ปีนี้มีถึง 500,000 คน และคาดว่าจะมีผู้ตกงานหลายแสนคน จึงต้องหามาตรการรองรับและดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

          ส่วนประเด็นเกี่ยวกับการเมือง หลังการลาออกของกลุ่ม 4 กุมาร นายกอบศักดิ์ ปฏิเสธตอบคำถาม พร้อมยกมือไหว้ผู้สื่อข่าวขอบคุณที่ไม่ถามเรื่องการเมือง เพราะขอไม่ตอบเรื่องนี้

หุ้นไทยปิดลดลง15จุด นักลงทุนรอผลปรับครม. -โควิดระบาด

          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,350.50 จุด ลดลง 15.31 จุด มูลค่าการซื้อขาย 64,196.73 ล้านบาท หุ้นไทยปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกันทั่วหน้า ปัจจัยในประเทศมาจากนักลงทุนยังไม่มั่นใจที่จะเข้ามาลงทุน เพราะต้องจับตาปัจจัยการเมืองการปรับคณะรัฐมนตรี รวมถึงการทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/63 ของกลุ่มธนาคาร

          แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า  ตลาดฯมีโอกาสที่จะผันผวนได้ แต่ก็ยังมองในทิศทางขาขึ้นมากกว่าลง คาดว่าจีนจะประกาศตัวเลข GDP ออกมาดี  แต่ตลาดก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯที่น่าจะยังสูงขึ้น

          ส่วนดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ เพราะนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกรุงโตเกียวที่เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ดัชนีนิกเกอิปิดร่วง 238.48 จุด ที่ 22,290.81 จุด

          ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดร่วงลงเกือบร้อยละ 2 ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบกว่า 1 สัปดาห์ หลังจากหนังสือพิมพ์ไชน่า ซิเคียวริตีส์ของทางการจีนได้เตือนให้นักลงทุนรายย่อยลงทุนด้วยความระมัดระวัง หลังเจ้าหน้าที่กำกับดูแลของจีนวางแผนออกมาตรการกวาดล้างผู้ให้บริการที่ผิดกฎหมายที่ปล่อยเงินกู้เพื่อใช้ในการซื้อหุ้น ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดร่วงลง 67.27 จุด แตะที่ 3,383.32 จุด

          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลดลง หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในฮ่องกงเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งทำให้ทางการฮ่องกงวิตกกังวลว่าจะเกิดการแพร่ระบาดอีกเป็นวงกว้าง ล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการฮ่องกงประกาศให้โรงเรียนทุกแห่งปิดการเรียนการสอนตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 ก.ค. เป็นต้นไป ดัชนีฮั่งเส็งร่วงลง 482.75 จุด ปิดวันนี้ที่ 25,727.41 จุด

คนไทยกลุ่มตัวอย่างกว่า 400,000คน การ์ดตก ประมาทไม่ป้องกันตัว เพราะมั่นใจรัฐบาลรับมือระบาดรอบ 2 ได้

          ผลสำรวจเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ในระหว่างมาตรการผ่อนปรน ระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม – 2 กรกฎาคม 2563 จำนวน 407,008 ตัวอย่าง ในวันนี้ 10 กรกฎาคม 2563  นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พบว่า คนไทยยังมีความกังวลว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอก 2 ในประเทศ มากที่สุดจากกลุ่มผับ บาร์ คาราโอเกะ รองลงมาตลาดสด ศูนย์เด็กเล็ก และโรงเรียนตามลำดับ รวมถึงยังกังวลมาก หากประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 รายต่อวัน แม้จะยังกังวล แต่มั่นใจในมาตรการของรัฐบาลว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ โดย มั่นใจมากร้อยละ 14.8 มั่นใจร้อยละ 40.5 ไม่มั่นใจนักร้อยละ 28.6 ไม่มั่นใจเลยร้อยละ 10.2 ไม่ทราบ/ไม่แสดงความคิดเห็นร้อยละ 5.9

          ด้านผลการสำรวจพฤติกรรมการป้องกันตนเองภาพรวมมีแนวโน้มลดลง จากร้อยละ 85.3 ในสัปดาห์ที่ 1 ลดลงเป็นร้อยละ 80.7 ในสัปดาห์ที่ 7 แบ่งเป็นพฤติกรรม 5 ด้าน ได้แก่ การใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าตลอดเวลา ร้อยละ 87.9 การกินอาหารร้อนช้อนตนเอง ร้อยละ 86.2 การล้างมือบ่อยๆ ร้อยละ 84.9 การระวังตัวไม่อยู่ใกล้ผู้อื่นในระยะ 2 เมตร ร้อยละ 73.4 และการระวังไม่เอามือจับหน้า จมูก ปาก ร้อยละ 72.4

          นอกจากนี้ยังพบว่าประชาชนมีแนวโน้มเกิดการรวมกลุ่ม และไปต่างจังหวัดมากขึ้น ส่วนสาเหตุการไม่ลงทะเบียนเข้าออกผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะ เนื่องจากลืม ไม่มั่นใจความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว และร้านไม่มีคิวอาร์โค้ดหรือสมุดลงชื่อไว้ให้

          นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถาม ร้อยละ 88 สนับสนุนการรับคนไทยกลับจากต่างประเทศ และร้อยละ 80 คิดว่ามาตรการ Travel Bubble จะสามารถกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศได้ แต่ร้อยละ 70 ไม่สนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยกับประเทศที่ยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19

WHO ตำหนิใคร? ขาดภาวะผู้นำขอให้ทุกประเทศทั่วโลกรวมพลัง ชนะโรคโควิด-19

          กว่า 6 เดือนนับแต่พบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ทั่วโลกยังคงหาทางควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-16 จนถึงบัดนี้นายแพทย์ เทดรอส อะห์ดานอม เกบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก(WHO) แถลงในนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตำหนิเรื่องการขาดภาวะผู้นำในการต่อสู้กับการแพร่บาดของโรคโควิด-19 พร้อมขอให้ทุกประเทศทั่วโลกรวมพลังเป็นหนึ่งเดียวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยบอกว่า ภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่ทั่วโลกประสบอยู่ในขณะนี้ไม่ใช่แต่เฉพาะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่คือการขาดภาวะผู้นำ และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการแก้ไขปัญหา ทั้งในระดับชาติและระดับทั่วโลก

           เขาตั้งคำถามอย่างมีอารมณ์ว่า ยากลำบากนักหรือที่คนเราจะหันมาแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อต่อสู้กับศัตรูร่วมกันคือโรคโควิด-19 ที่คร่าชีวิตคนจำนวนมาก เรายังไม่สามารถจะแยกแยะ หรือรู้จักศัตรูร่วม หรืออย่างไร ระบุว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เพื่อนๆของเราหลายคนเสียชีวิต เพิ่มเติมว่าพวกเราไม่อาจจะเอาชนะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้สำเร็จ ถ้าหากทุกประเทศทั่วโลกยังมีปัญหาแตกแยก ไม่ประสานความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด

          นพ.เทดรอส พูดเรื่องนี้ หลังรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯชี้แจงต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯและองค์การสหประชาชาติว่าสหรัฐฯขอถอนตัวจากการเป็นสมาชิก WHO อย่างเป็นทางการ ในปัจจุบันมีผู้ป่วยสะสม12,291,645 คนทั่วโลก เสียชีวิต 555,486 ราย ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดคือ สหรัฐฯ บราซิลและอินเดีย

มหาวิทยาลัยญี่ปุ่น เผยผลศึกษา พบว่า ยาAviganไม่มีประสิทธิภาพรักษาโควิด-19ในระยะเริ่มต้น

          มหาวิทยาลัยสุขภาพฟูจิตะ เปิดเผยในวันนี้ว่า จากการศึกษายาต้านไวรัส Avigan ทางคลินิก ไม่พบว่ายาดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในระยะเริ่มต้น หลังจากเปรียบเทียบผู้ป่วยโควิด-19 ที่ได้รับยากับผู้ป่วยที่ไม่ได้รับยาเป็นระยะเวลา 6 วัน

ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายเดือนพ.ค.ที่ รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจเลื่อนการอนุมัติยา Avigan เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ออกไปก่อน จากเดิมตั้งใจว่าจะอนุมัติภายในสิ้นเดือนพ.ค.

          Avigan เป็นยารักษาไข้หวัดใหญ่ที่ผลิตโดยบริษัทฟูจิฟิล์ม โทยามะ เคมิคัล ในเครือบริษัทฟูจิฟิล์ม โฮลดิงส์ และปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิกในญี่ปุ่น เพื่อใช้รักษาโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังผลการศึกษาจากประเทศจีนระบุว่า ยาตัวนี้มีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วย

          ก่อนหน้านี้ นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้แสดงความหวังว่า ยา Avigan จะได้รับการอนุมัติเพื่อใช้รักษาโรคโควิด-19 ภายในสิ้นเดือนพ.ค. แต่ผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งมีความกังวลว่า รัฐบาลอาจรีบร้อนเกินไป

          ด้านบริษัทฟูจิฟิล์มเองก็อยู่ระหว่างการทดลองยา Avigan ทางคลินิกเช่นกัน โดยมีรายงานว่า บริษัทฟูจิฟิล์ม โฮลดิงส์ จะยังคงทำการทดสอบทางคลินิกสำหรับยา Avigan ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในเดือนก.ค. จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย. เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนข้อมูลที่เพียงพอ ก่อนหน้านี้ ฟูจิฟิล์มมีกำหนดสิ้นสุดการทดสอบทางคลินิกสำหรับยา Avigan ในสิ้นเดือนนี้หลังจากได้เริ่มต้นโครงการในเดือนมี.ค.  นอกจากนั้น ยังพบว่า การลดลงของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในญี่ปุ่น ทำให้บริษัท ขาดผู้ป่วยที่จะเข้าร่วมโครงการตามเป้าหมาย 96 ราย โครงการดังกล่าวเลยล่าช้าออกไป

รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียพบผู้ป่วยใหม่ 288 คน สูงสุดตั้งแต่เกิดโควิด-19ระบาด

           นายแดเนียล แอนดรูว์ส มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลีย แถลงข่าวยืนยันพบผู้ป่วยใหม่โรคโควิด-19 วันนี้  288 คน นับเป็นตัวเลขการติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่สูงที่สุดในรอบ 1วัน นับตั้งแต่รวบรวมสถิติเมื่อเกิดโรคโควิด-19 เริ่มระบาดในออสเตรเลีย ทำให้เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนโรคว่า พวกเขาติดเชื้อโรคมาได้อย่างไร

          ด้านนายเบร็ทท์ ซัตตัน หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐวิกตอเรีย เตือนว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในรัฐวิกตอเรียจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมเปรียบเทียบด้วยว่า ตัวเลขผู้ป่วยใหม่ในรัฐวิกตอเรีย เมื่อเทียบกับตัวเลขผู้ป่วยใหม่ในสหรัฐฯเฉลี่ยทุกๆ 10 นาที นับว่า ยังโชคดีที่ออสเตรเลียมีผู้ป่วยใหม่ไม่มากเท่าสหรัฐฯ แต่ก็ยังต้องบังคับใช้มาตรการซ้ำตั้งแต่การล็อกดาวน์ที่เริ่มตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันพุธ เพื่อลดการแพร่ระบาด  ออสเตรเลีย มีผู้ป่วยสะสม 9,359 คน เสียชีวิต 106 ราย

ผลศึกษาของอิตาลีเผยเชื้อโรคโควิด-19 สามารถแพร่จากแม่สู่ลูกในครรภ์

          ผลการศึกษาโดย นพ.คลาวดิโอ เฟนิเซีย และทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิลาน ทางภาคเหนือของอิตาลี ระบุว่าจากการศึกษากลุ่มสตรีมีครรภ์ 31 คนที่ติดโรคโควิด-19 และมีอายุครรภ์แก่ใกล้คลอดในช่วงที่มีการแพร่ระบาดหนักสุดในอิตาลี ระหว่างมีนาคมถึงเมษายน ทีมนักวิจัยพบทารก 2 คนที่คลอดออกมา แล้วติดโรคโควิด-19 ทำให้เห็นว่าเชื้อไวรัสสามารถแพร่ผ่านรกในครรภ์มารดาไปสู่ทารกได้
          ทีมนักวิจัยระบุว่า แพทย์ได้ตรวจโรคอย่างละเอียด ทั้งมารดา,ทารก พร้อมนำชิ้นเนื้อจากรกในครรภ์มารดา,เลือดจากสายสะดือที่เชื่อมระหว่างมารดาและทารก ตลอดถึงน้ำคร่ำและน้ำนมของมารดาไปตรวจ พบว่า มีตัวอย่างหลายส่วนที่ติดโรคโควิด-19 และครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีการศึกษาวิจัยเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ
          ทีมวิจัย ระบุว่า โชคดีสตรีกลุ่มนี้ ติดโรคโควิด-19 ในช่วงที่ใกล้คลอด เชื้อไวรัสจึงไม่ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ ต่างจากเชื้อไวรัสซิกา (Zika) ที่จะแพร่เชื้อจากมารดาสู่ทารกในครรภ์ ทำลายสมองของทารกอย่างรุนแรง ทำให้ทารกมีขนาดศีรษะเล็กกว่าเด็กทั่วไป กระทบต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก เช่นเดียวกับเชื้อไวรัสเอชไอวี หรือโรคเอดส์ สามารถจะแพร่เชื้อจากมารดาสู่ทารกในครรภ์ เช่นเดียวกัน

          สำหรับยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาหรือ โควิด-19 ทั่วโลกอยู่ที่ 12,420,013 คน มีผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 558,090 ราย สหรัฐฯมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (3,220,559) รองลงมาคือบราซิล (1,759,103), อินเดีย (798,128), รัสเซีย (713,936), เปรู (316,448) และชิลี (306,216)

          นอกจากนี้ สหรัฐฯยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (135,828) ตามมาด้วยบราซิล (69,254), สหราชอาณาจักร (44,602) อิตาลี (34,926) และเม็กซิโก (33,526)

9 ส.ค.เลือกตั้งซ่อม ส.ส.สมุทรปราการ เขต 5

          ผลการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง หลังมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ  เขตเลือกตั้งที่ 5 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. 2563 จากนั้นได้มีมติออกประกาศกกต. กำหนดให้อาทิตย์ที่ 9 ส.ค.นี้ เวลา 08.00-17.00 น. เป็นวันและเวลาในการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 5 จังหวัดสมุทรปราการแทนตำแหน่งที่ว่าง และ กำหนดเปิดรับสมัครใน วันที่ 16-20 ก.ค. เวลา 08.30-16.30 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 5 กำหนด
          สำหรับการเตรียมการเลือกตั้งส.ส.ครั้งนี้  สำนักงานกกต. ได้มีมาตรการเพิ่มเติมภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ของกระทรวงสาธารณสุข กำหนดพื้นที่ต่อคน การเว้นระยะห่างระหว่างคน และการกำหนดจุดตรวจคัดกรองพร้อมแอลกอฮอล์เจล เช่น สถานที่และการรับสมัคร การกำหนดหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้ง การออกเสียงลงคะแนนในวันเลือกตั้ง การนับคะแนน และการส่งหีบบัตรเลือกตั้งและวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้ง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0