โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันที่ 11 ธันวาคม 2561

JS100

เผยแพร่ 11 ธ.ค. 2561 เวลา 00.46 น. • JS100:จส.100
ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันที่ 11 ธันวาคม 2561
ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันที่ 11 ธันวาคม 2561

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จัดงานวันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธันวาคม ประจำปี 2561 “70 ปี ปฏิญญาสากล : สิทธิมนุษยชนก้าวไกลสู่สังคมไทยยั่งยืน” ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น

นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 13 เมษายน 2562 โรงพยาบาลเอกชนกว่า 100 แห่ง จะแจ้งค่ายา และค่ารักษาพยาบาลผ่านเว็บไซต์กลางและเว็บไซต์ของโรงพยาบาล เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาค่ายาและค่ารักษาพยาบาลสูงเกินจริง ตามที่มีประชาชนร้องเรียนมา และเพื่อให้ประชาชนสามารถเปรียบเทียบราคาค่าใช้จ่ายได้

ส่วนกรณีกรมบัญชีกลางจ่ายเงินตามมาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายช่วงปลายปีให้แก่ผู้มีรายได้น้อยคนละ 500 บาท ให้ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเริ่มกดได้ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา และไม่จำกัดเวลาใช้ ไม่มีการดึงเงินกลับ ซึ่งจะต่างจากวงเงินสวัสดิการซื้อสินค้าธงฟ้า 200-300 บาท ซึ่งต้องใช้จ่ายภายในเดือนนั้น

ซึ่งนอกจากนี้แล้ว ยังมีค่าเช่าบ้านผู้สูงอายุ 400 บาท/คน/เดือน ที่จะเริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม ค่าเดินทางไปรักษาสุขภาพผู้สูงอายุ 1,000 บาท/คน ที่จะเริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม ส่วนค่าไฟฟ้าและค่าน้ำเริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการทางการคลังเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเป็นมาตรการที่ประเมินแล้วว่ามีความจำเป็น

นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเปิดเผยว่าการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐถือเป็นเรื่องที่ทำได้ เพราะเศรษฐกิจฐานรากยังไม่เข้มแข็ง แม้ว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2560 ทั้งต้องดึงคนยากจนเข้ามาอยู่ในฐานข้อมูลเพิ่มขึ้น ส่วนการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำควรเป็นมาตรการชั่วคราว เพราะภาคเกษตรทุกประเภทมีปัญหาราคาและผลผลิตผันผวน จึงควรเป็นการดูแลในลักษณะของกองทุน

ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เมื่อวานนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.ฐานะรอง ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และนายอิง ฮั่น ตาน ผู้แทนสถาบันภาษาจากประเทศจีน ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายหวัง จี่ อายุ 27 ปี น.ส.ฮวง ลี่ อายุ 27 ปี น.ส.หลิน เจี่ย อายุ 28 ปี น.ส.เชิน จวน อายุ 33 ปี สัญชาติจีนและนายเหยา ไมเคิล หลี่ สัญชาติอเมริกัน อายุ 30 ปี ผู้ต้องหารับจ้างสอบภาษาแทนบุคคลอื่นโดยใช้หนังสือเดินทางปลอมเพื่อแสดงตนเข้าสอบ พร้อมของกลางพาสปอร์ตปลอม 15 เล่ม ตามที่ตำรวจ ตม.นครปฐม รับแจ้งจากสถาบันการทดสอบระดับอุดมศึกษาสหรัฐอเมริกา (เอซีที) ที่จัดการสอบวัดระดับทักษะการสื่อสารสำหรับศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกาจัดที่มหาวิทยาลัยมหิดลวิทยาเขตศาลายา จ.นครปฐม พบว่ามีชาวจีนรายหนึ่งชำระเงินค่าสอบผ่านบัตรเครดิตให้กับชาวจีนที่เป็นผู้เข้าสอบทั้ง 5 ราย ซึ่งทั้งหมดไม่สามารถตอบคำถามข้อมูลส่วนตัวตรงตามที่พาสปอร์ตระบุไว้ จึงประสานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ทั้ง 5 คน รับสารภาพว่ารับจ้างมาเข้าสอบแทนผู้สมัครตัวจริง โดยมีเอเยนต์ในจีนหาลูกค้านักศึกษาชาวจีน พร้อมหาที่พัก ค่าเดินทาง และหนังสือเดินทางปลอมที่มีชื่อและข้อมูลของผู้สมัครสอบตัวจริง แต่รูปในหนังสือเดินทางจะเป็นรูปของผู้รับจ้างมาสอบ โดยเดินทางเข้ามาไทยด้วยพาสปอร์ตและวีซ่าจริง เมื่อทดสอบเสร็จจะนำพาสปอร์ตปลอมทิ้งก่อนกลับประเทศด้วยหนังสือเดินทางจริง ได้รับค่าจ้าง 10,000-20,000 หยวน หรือประมาณ 40,000-80,000 บาท

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมผ่านมา ผู้จัดสอบเอซีที โรงเรียนนานาชาตินิสท์ สุขุมวิท ซ.14 เขตวัฒนา กทม. ตรวจสอบผู้เข้าสอบชาวจีน 2 ราย คือ นายเหอ หลิน อายุ 28 ปี และนายฮวง เสี่ยวฟาน อายุ 39 ปี ไม่สามารถตอบคำถามข้อมูลส่วนตัวตรงตามหนังสือเดินทางเช่นเดียวกัน เมื่อสอบสวนขยายผลพบว่านายเหอ หลิน มีหนังสือเดินทางปลอมถึง 8 เล่ม รับสารภาพว่าเคยไปสอบแทนที่ประเทศฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม และอีกหลายประเทศ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0