จุดเริ่มต้นของการลงทุนมักเริ่มจากความหวัง…เช่น หวังว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดี หวังจะมีอิสระเสรีในการใช้ชีวิต เป็นต้น
แต่ความหวังอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอจะทำให้เกิดการลงทุน ต้องมีความเชื่อด้วย…เชื่อว่าการเลือกลงทุนของตนเองนั้นถูกต้อง
แต่ในความเป็นจริงนั้น การลงทุนจะสร้างผลตอบแทนที่ดีจริงหรือไม่ ยังมีปัจจัยให้พิจารณาอีกมากมาย นั่นคือเหตุผลที่ทำให้คนบางคนประสบความสำเร็จ แต่บางคนก็ล้มเหลว
วิธีการป้องกันความล้มเหลวหรือลดความเสี่ยงที่จะล้มเหลว ที่นักธุรกิจหรือนักลงทุนมักยึดถือปฏิบัติก็คือ แทนที่จะใช้ความหวังและความเชื่อเป็นเครื่องนำทาง ก็เลือกที่จะใช้ความจริงเป็นเครื่องนำทาง แล้วจึงสร้างความหวังและความเชื่อตามมาอีกที
ที่มาของความจริงที่จะใช้เป็นเครื่องนำทางก็คือกระบวนการเดียวกับการทำวิจัยนั่นเองครับ คือเริ่มจากการกำหนดปัญหา หรือตั้งคำถามในสิ่งที่เราต้องการแสวงหาความจริง แล้วก็ลงมือค้นหาข้อมูลด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อตอบโจทย์หรือตอบคำถามนั้น
ยกตัวอย่างเช่น ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารต่ำเตี้ยแบบนี้ เราอยากจะลงทุนในอะไรซักอย่างที่ให้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 5% ต่อปี…นี่คือโจทย์ คำถาม หรือปัญหา ที่จะต้องแสวงหาคำตอบ
ในกระบวนการวิจัยนั้น จะใช้วิธีตั้งสมมติฐานเพื่อตีกรอบในการค้นหาไม่ให้เคว้งคว้างจนเกินไป เช่น ผลตอบแทนที่คาดหวัง 5% ต่อปีนั้นจะศึกษาผลตอบแทนของการลงทุนในหุ้นและกองทุนรวมประเภทต่างๆ เท่านั้น ไม่รวมถึงการลงทุนทำธุรกิจทำการค้าด้วยตนเอง เพราะจะทำให้กรอบการศึกษากว้างเกินไป
หากจะศึกษาการลงทุนทำธุรกิจการค้าก็ต้องตั้งต้นจากคำถามที่เจาะจงมากกว่านี้ เช่น อาหารจานด่วนชนิดใดเป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดของพนักงานออฟฟิศในรัศมี 500 เมตร จากร้านอาหารที่ตนเองจะลงทุนเปิดร้าน ซึ่งคำถามที่กำหนดกรอบแบบนี้ จะได้คำตอบที่เป็นประโยชน์มากกว่าคำถามกว้างๆ
เห็นมั้ยครับว่า ถ้าเราตั้งคำถามได้ดี ก็มีโอกาสที่จะได้รับคำตอบที่มีประสิทธิภาพ และสามารถลดความเสี่ยงที่จะล้มเหลวในการลงทุนได้
แต่อย่างไรก็ตาม ในกระบวนการค้นหาความจริง หรือการสำรวจวิจัยในเรื่องต่างๆ นั้น ใช่ว่าจะได้คำตอบที่ถูกต้อง *100% นะครับ เพราะเราหาความจริงจากกลุ่มตัวอย่างจำนวนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่จากองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ดังนั้นความถูกต้องย่อมขึ้นอยู่กับกลุ่มตัวอย่างที่เราเลือก ขึ้นอยู่กับเอกสารที่เราศึกษา และขึ้นอยู่กับคนที่เราถาม *
วกกลับมาที่เรื่องของการลงทุน การแสวงหาความจริงจากเอกสาร บทวิเคราะห์วิจัย ก็ต้องเลือกแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ การสอบถามความเห็นของนักวิเคราะห์การลงทุน ก็ต้องถามคนที่น่าเชื่อถือ ความจริงที่ได้จึงจะเป็นประโยชน์และมีโอกาสผิดพลาดน้อย
แม้ว่ายุคสมัยนี้ใครต่อใครจะสามารถนำเสนอผลงาน เสนอข่าวสาร เสนอความเห็นของตัวเองบนโลกออนไลน์ได้ก็จริง แต่ใช่ว่าข้อมูลที่ปรากฏจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด เพราะมีข้อมูลข่าวสารจำนวนมากที่ผิดเพี้ยน บิดเบือน หรือเลวร้ายถึงขนาดสร้างข้อมูลข่าวสารปลอมที่ไม่มีข้อเท็จจริงเจือปนแม้แต่น้อย ดังนั้น สิ่งที่ผู้รับสารหรือผู้แสวงหาความจริงจะทำได้ก็คือการรู้เท่าทันหรือรู้จักกลั่นกรองว่าข้อมูลข่าวสารใดจริง ไม่จริง มีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์
เมื่อเราแสวงหาจนพบความจริงแล้ว ที่เหลือก็ปล่อยให้ความหวังและความเชื่อเป็นตัวขับเคลื่อนต่อไปครับ
