โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ความหมายของ ‘กระดาษเปล่า’ ในผลสอบคดีนาฬิกายืมเพื่อน

The MATTER

อัพเดต 15 มิ.ย. 2562 เวลา 15.22 น. • เผยแพร่ 15 มิ.ย. 2562 เวลา 06.22 น. • Pulse

จากมือสั่นระริกพร้อมหัวใจระทึก เต้นไม่เป็นจังหวะ กลายเป็นมืออ่อนแรงและหัวใจเหี่ยวเฉา

เมื่อกว่าครึ่งปีที่เรารอคอย ‘ผลสอบ’ คดีนาฬิกายืมเพื่อนจาก ป.ป.ช. ผลลัพธ์ที่ได้คือเอกสารสำคัญกว่าครึ่ง เป็นเพียง ‘กระดาษเปล่า’

1.

หลังจาก The MATTER ทราบมติ 5 ต่อ 3 ของ ป.ป.ช. ไม่รับไต่สวนคดีนาฬิกายืมเพื่อนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมของปี 2561 เราก็เร่งร่างเอกสารขอใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับมติดังกล่าวเสร็จภายในคืนนั้น และส่งไปรษณีย์ไปขอข้อมูลจาก ป.ป.ช.ในอีกไม่กี่วันถัดมา

เพราะก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.เคยออกระเบียบว่า คดีใดที่ตีตกไปแล้วหรือไม่ไต่สวนต่อ ประชาชนทั่วไปสามารถขอดูเอกสารที่เกี่ยวข้องได้ นัยว่าเพื่อสร้างความโปร่งใส ให้สาธารณชนไว้วางใจการทำงานขององค์กรอิสระนี้

แต่ตลอดครึ่งปีแรกของปี 2562 กลับมีแต่ความเงียบ ป.ป.ช.ไม่เคยติดต่อกลับมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เราจึงทำหนังสือร้องเรียนไปยังคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ (กขร.) ให้ช่วยติดตามการขอข้อมูลดังกล่าวถึง 2 ครั้ง เขียนข่าวทวงถามและโทรศัพท์ไปสอบถามจากผู้เกี่ยวข้องอยู่หลายครั้ง

ที่สุด ซองไปรษณีย์ที่บรรจุเอกสารสำคัญตีตรา ‘ลับ’ เกี่ยวกับคดีนาฬิกายืมเพื่อนที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ก็ส่งมาถึงสำนักงานของ The MATTER ช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2562

เอกสารลับดังกล่าวมีทั้งสิ้น 29 หน้า แต่ส่วนที่เป็นสาระสำคัญว่าด้วยข้อเท็จจริงและมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับคดีนาฬิกายืมเพื่อน กลับมีอยู่เพียง 14 หน้า และในนั้นกว่าครึ่งเป็น ‘กระดาษเปล่า’ ส่วนที่มีตัวหนังสือก็เป็นข้อมูลที่เคยเปิดเผยกับสาธารณชนไปแล้ว!

ภาพ พล.อ.ประวิตรยกมือป้องแดด ที่กลายเป็นที่มาของ 'คดีนาฬิกายืมเพื่อน' ในเวลาต่อมา เมื่อสาธารณชนช่วยกันตรวจสอบว่า เจ้าตัวได้แจ้งการครอบครองนาฬิกาหรูไว้ในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.หรือไม่ (ที่มาภาพ: โพสต์ทูเดย์)

2.

เมื่อเจอกระดาษเปล่า หลายคนอาจรู้สึกผิดหวัง ไปต่อไม่ได้ ไม่รู้จะเอาข้อมูลไปใช้ประโยชน์ต่อดี

แต่ The MATTER กลับเห็นประเด็นที่น่าสนใจจากกระดาษเปล่าเหล่านั้น

เพราะตั้งแต่เริ่มทำข่าวเกี่ยวกับคดีนาฬิกายืมเพื่อน ตลอด 1 ปีครึ่ง สิ่งที่เราสนใจไม่ได้มีแค่ พล.อ.ประวิตรจะมีความผิดหรือไม่ แต่ยังรวมถึงว่า ป.ป.ช.จะทำคดีนี้ด้วยความตรงไปตรงมาและโปร่งใสเพียงใดต่างหาก

และถ้าว่ากันตามจริง – กรณีหลังอาจเป็นสิ่งที่เราจับตามากกว่า เสียด้วยซ้ำ

ข้อมูลที่ The MATTER ยื่นขอเกี่ยวกับคดีนาฬิกายืมเพื่อนไป มีทั้งสิ้น 6 รายการ ได้แก่

เหตุผลที่ยกคำร้องคดีนี้โดยละเอียด ไม่ใช่แค่ที่ปรากฏในเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ คำวินิจฉัยส่วนตนของกรรมการ ป.ป.ช.ที่ให้ยกคำร้อง ไม่ไต่สวนต่อ รายงานสรุปการแสวงหาข้อเท็จจริง และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง คำชี้แจงทั้งหมดของ พล.อ.ประวิตร ยี่ห้อ รุ่น และมูลค่ารวมของนาฬิกาที่ พล.อ.ประวิตรยืมมา รายชื่อเพื่อนคนอื่นที่เคยได้ยืมนาฬิกาจากปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.ยอมส่งเอกสารให้เพียงรายการที่ 1. และ 2. เท่านั้น ส่วนรายการอื่นๆ ปฏิเสธจะเปิดเผย

ขณะที่ข้อมูลสำคัญๆ ในเอกสารรายการที่ 1. ก็อย่างที่เห็นว่า เอกสารสำคัญหลายหน้าถูกทำให้เป็นกระดาษเปล่า โดย ป.ป.ช.อ้างว่าจำเป็นต้องปกปิดข้อมูลของบุคคลตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 36

ทั้งที่หากไปดูเนื้อหาในมาตราดังกล่าว จะห้ามเปิดเผย ‘ข้อมูลเฉพาะของบุคคล’ ทั้งผู้กล่าวหา ผู้แจ้งเบาะแส รวมถึงพยาน ที่น่าจะหมายถึง ชื่อ-นามสกุล รูปถ่าย ทะเบียนบ้าน เลขบัตรประชาชน ฯลฯ หรือข้อมูลอื่นใดที่ทำให้รู้ถึงตัวตนของบุคคลนั้นๆ เสียมากกว่าคำให้การหรือข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับจากบุคคลเหล่านั้น

3.

เราเกือบจะไม่ได้รู้จักคดีนาฬิกายืมเพื่อนแล้ว, หาก พล.อ.ประวิตรยกมือบังแดด จนทำให้เห็นนาฬิกาหรูในข้อมือขวา ช้าลงกว่าเดิม 1 ปี

เหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น?

นั่นเพราะกลางปี 2561 มีการออกกฎหมาย ป.ป.ช.ฉบับใหม่ ที่ตามมาด้วยระเบียบที่ว่าด้วยการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่จะทำให้บัญชีทรัพย์สินฯ ของรัฐมนตรีที่เคยแสดงไว้บนเว็บไซต์ของ ป.ป.ช.ก่อนหน้านี้ ถูกถอดลงทั้งหมด

เช่นเดียวกับบัญชีทรัพย์สินฯ ของผู้ที่จะยื่นหลังจากนี้ไป ที่จะแสดงอยู่บนเว็บไซต์ของ ป.ป.ช. เพียง 180 วันเท่านั้น ก่อนจะถูกเอาลง

หากใครอยากตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินที่ถูกนำลงจากเว็บไซต์ ต้องไปที่สำนักงานของ ป.ป.ช. สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี ไม่มีวิธีอื่นอีก (และตามปกติเอกสารที่ถูกเก็บไว้เกินสิบปีก็จะถูกนำไปทำลาย)

ในความเป็นจริง – พล.อ.ประวิตรโชว์นาฬิกาหรูปลายปี 2560, ถูกชาวเน็ตจับผิดว่าเคยใส่นาฬิกาหรูถึง 25 เรือนที่ไม่ได้ยื่นไว้ในบัญชีทรัพย์สิน ตอนเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เมื่อปี 2557, เกิดกระแสกดดันจากสังคมจน ป.ป.ช.เข้ามาทำคดีว่าเจ้าตัว ‘ยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ’ หรือไม่ (และคดี ‘รับทรัพย์สินเกิน 3,000 บาท’ ในเวลาต่อมา ซึ่งคดีนี้ยังไม่มีข้อยุติ)

ในสถานการณ์สมมุติ – หาก พล.อ.ประวิตรโชว์นาฬิกาหรูปลายปี 2561 ก็อาจจะไม่มีใครเห็นถึงความผิดปกติ เพราะบัญชีทรัพย์สินที่เจ้าตัวยื่นไว้ตอนปี 2557 จะไม่ถูกแสดงไว้บนเว็บไซต์ของ ป.ป.ช. ผลสุดท้าย เราอาจจะไม่มีโอกาสได้รู้จักกับ 'คดีนาฬิกายืมเพื่อน'

วรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. เคยชี้แจงว่า เหตุที่ต้องนำข้อมูลบัญชีทรัพย์สินฯ ลง เพราะเคยมีมิจฉาชีพนำข้อมูลดังกล่าวไปหาประโยชน์ และคิดว่าเวลา 180 วันที่ปรากฏบนเว็บไซต์ ก็เหมาะสมกับความสนใจของผู้คน รวมถึงตามปกติสื่อมวลชนก็มักจะรายงานข่าวเพียงไม่กี่วัน หลังมีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินฯ ต่างๆ อยู่แล้ว

“แต่หากพบว่า การปรับเปลี่ยนนี้ทำให้เกิดปัญหา เราก็ยินดีจะทบทวนในอนาคต” เลขาฯ ป.ป.ช.กล่าว

ผลสอบคดีนาฬิกาหรูที่ ป.ป.ช. ส่งให้กับ The MATTER หลังยื่นขออยู่ครึ่งปี บางส่วน (แต่เป็นส่วนที่สำคัญ) จะเป็น 'กระดาษเปล่า' โดย ป.ป.ช.อ้างว่า จำเป็นต้องปิดข้อมูลเฉพาะของบุคคล

4.

เรา - The MATTER ได้ยื่นอุทธรณ์การไม่เปิดเผยข้อมูล (หรือเปิดเผยข้อมูลเพียงบางส่วน) ของ ป.ป.ช. ไปยังคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการ (กวฉ.) แล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอผลการวินิจฉัย

คดีนาฬิกายืมเพื่อน ของ พล.อ.ประวิตร กรณีไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ ต่อให้ผิดจริง ก็มีโทษจำคุกแค่ 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าเป็นความผิดครั้งแรก ที่ผ่านมาศาลก็มักจะตัดสินให้รอลงอาญาไว้แทน

พูดง่ายๆ คือ ไม่ใช่คดีใหญ่อะไรนัก

และอีกไม่กี่ปี พล.อ.ประวิตรก็จะพ้นจากตำแหน่งสำคัญทางการเมืองอยู่แล้ว ทั้งจากความผันผวนทางการเมือง และจากปัจจัยเรื่องอายุกับสุขภาพของเจ้าตัว

หากเทียบกับความโปร่งใสและความตรงไปตรงมาในการทำงานของ ป.ป.ช. องค์กรอิสระที่มีหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งจะต้องอยู่คู่กับประเทศไทยไปอีกยาวนาน

ยิ่ง ป.ป.ช.มีอำนาจมาก ยิ่งต้องถูกตรวจสอบ และยิ่งต้องเปิดเผยข้อมูล เพื่อสร้างความเชื่อใจและไว้ใจจากสังคม เพราะตัว ป.ป.ช.เองนั่นแหละที่รู้ดีว่า หลายๆ คดีต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนในการชี้เบาะแสหรือให้ข้อมูล จะไปทำเองด้วยกำลังทั้งสำนักงานเพียงไม่กี่พันคนก็คงจะไม่ไหว-ไม่ได้แน่ๆ

คดีนาฬิกายืมเพื่อนเป็น ‘บททดสอบ’ ครั้งสำคัญของ ป.ป.ช. แต่ปฏิกิริยาต่อข่าวนี้จากสาธารณชนในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็ดูเหมือนว่าองค์กรอิสระนี้จะยังสอบตก

ใช้การเปิดเผยข้อมูลตามที่เราร้องขอไป ช่วยเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยน เรียกคืนความเชื่อมั่นต่อ ป.ป.ช.กลับมา

ยิ่ง ‘กระดาษเปล่า’ มีจำนวนหน้ามากเท่าไร ความไว้วางใจจากสาธารณชน ยิ่งมีลดน้อยลงเท่านั้น

Illustration by Waragon Keeranan

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0