โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

ความรัก, Brassac และฤดูร้อน : คุยกับ “วี วิโอเลต” เรื่องเพลงใหม่ที่ได้ทำตามใจฝัน

LINE TODAY

เผยแพร่ 18 มี.ค. 2563 เวลา 17.05 น.

ถ้าจะพูดถึงนักร้องสาวที่ทั้งเสียงดีและมีเสน่ห์ ในวงการเพลงบ้านเรา ‘วี-วิโอเลต วอเทียร์’ ก็เป็นหนึ่งในความคิดถึงนั้น หลังจากเจ้าตัวซุ่มทำเพลงใหม่มาสักพักก็เพิ่งเปิดตัวซิงเกิล Brassac ไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งผลตอบรับก็ดีเกินคาด จนแฟนคลับพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คุ้มค่าการรอคอย! 

ด้วยกลิ่นอายของเพลงที่ตลบอบอวลไปด้วยเรื่องราวของความรักในฤดูร้อนที่เมือง Brassac ประเทศฝรั่งเศสกลายมาเป็นเพลงใหม่ล่าสุดของวีได้อย่างไร อะไรคือแรงบันดาลใจ จะใช่เพราะอินเลิฟอยู่ด้วยหรือเปล่า LINE TODAY พร้อมเสิร์ฟคำตอบของเธอแล้ว

ฟีดแบ็ก Brassac เพลงใหม่ดีเกินคาด

ผลตอบรับดีค่ะ รู้สึกดีใจมาก ตอนที่จะปล่อยเพลงคือประหม่ามาก เพราะเราไม่ได้ปล่อยเพลงมาเป็นปีเต็ม ๆ เหมือนกัน พอปล่อยออกมาก็รู้สึกว่าอัลบั้มเราพร้อมแล้วจริง ๆ สองปีที่ผ่านมาที่ซุ่มทำอยู่ มันก็เลยตื่นเต้นเพราะไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงบ้าง หลายอารมณ์มากทั้งกลัว ดีใจ ทั้งโล่งในเวลาเดียวกัน

เรื่องราวของเพลงนี้เกิดจาก เมื่อสองปีที่ผ่านมาช่วงซัมเมอร์ วีไปเที่ยวฝรั่งเศสมา มันจะมีปาร์ตี้ช่วงหน้าร้อนของแต่ละเมือง และพอดีกันกับที่เราได้ไปเมือง Brassac มันสนุกมาก เลยคิดว่าเรายังไม่เคยมีเพลงซัมเมอร์เลยนะ  ยังไม่มีเพลงเร็วด้วยซ้ำ พอกลับมาก็นึกถึงโมเมนต์นั้นที่รู้สึกสนุก ถ้าหยิบจับมาทำเพลงแบบซัมเมอร์โรแมนซ์คงจะโรแมนติกมาก ก็เลยออกมาเป็นเพลง Brassac ค่ะ 

การเดินทางคือแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงหรือเปล่า

ส่วนมากเป็นเรื่องของประสบการณ์ของเราเอง ไม่ใช่แค่เรื่องการเดินทางเท่านั้น สิ่งสำคัญคือความคิดเห็นของเราต่อเรื่องนั้นมากกว่า แม้ว่าเรื่องเล่านั้นจะเป็นของใครก็ตาม แต่ถ้าเราใส่มุมมองหรือความคิดเห็นของเราลงไป มันก็จะเป็นเรื่องของเรา เพลงของเรา และมันจะเป็นตัวเราทันที

มีความคาดหวังหรือความกังวลต่อการทำเพลงเป็นภาษาอังกฤษของเราไหม เพราะแฟนเพลงเป็นคนไทย

จริง ๆ คาดหวังว่ามันจะไปได้ไกลและกว้างขึ้นมากกว่าในไทยนะ แต่ความกังวลจริง ๆ น่าจะเป็นการต่อสู้กับความคาดหวังเดิมที่เราเคยมีมามากกว่า ตอนเราทำเพลงไทยมันไปถึงสิบล้านวิว ร้อยล้านวิวบ้าง ติดชาร์ตบ้าง มันเลยกลายเป็นว่ามาตรฐานเราสูงตามไปด้วย พอทำเพลงภาษาอังกฤษก็เลยรู้สึกว่า ทำไมยอดวิวขึ้นช้าจัง ทั้ง ๆ ที่เราควรจะภูมิใจด้วยซ้ำ เพราะถ้ามองย้อนกลับไปวันที่เราเพิ่งเข้ามายืนในวงการนี้ว่าเรามาไกลแค่ไหนแล้ว ณ ตอนนี้เรากลับมาเป็นตัวเราเอง มาเริ่มใหม่มากกว่า เหมือนเซ็ตมาตรฐานให้กับตัวเองใหม่ว่า โอ้โห แสนวิวแล้วนะ ดีใจจัง เพราะเราคงไม่รู้จักคนมากถึงแสนคนแน่นอน 

เราต้องรื้อความคิดตัวเองใหม่อยู่เหมือนกัน หันมาวัดความสุขตัวเองใหม่จากความเป็นตัวของตัวเอง ทำแล้วแฮปปี้มากกว่าไปยึดยอดวิวอย่างเดียว แล้วทุกครั้งที่เราร้องเพลงตัวเองเราจะรู้สึกภูมิใจมาก ๆ 

ที่ผ่านมามันมีการทะเลาะกับตัวเองอยู่ตลอดเวลา บางทีก็น้อยใจทำไมเราไม่เคยได้รางวัลอะไรกับเขาบ้างเลย อะไรแบบนี้ แต่สุดท้ายก็เลยกลับมาวัดความสุขตัวเองด้วยการเป็นเราอย่างเต็มที่ มีคนฟังเพลงของเรา มีคนชอบเพลงของเรา ก็ถามตัวเองว่านี่ไม่ใช่เหรอ ความตั้งใจแรกที่เราเข้ามาในวงการเพลง

ความท้าทายของการเป็นศิลปินหญิงในเมืองไทย

เราเป็นศิลปินผู้หญิงมันทำให้เรารู้สึกเหมือนกันในบางครั้งว่าไม่แฟร์ อย่างเวลาออกงานก็ต้องหาชุด แต่งหน้า ทำผม เยอะแยะมากมายกว่าจะได้ไป แต่ศิลปินชายใส่สูทตัวเดียวจบแล้ว ทำไมเราทำไม่ได้ (หัวเราะ) แล้วศิลปินหญิงมักจะไม่โดนมองแค่เรื่องผลงานอย่างเดียว เช่นใน MV ล่าสุดก็มีคอมเมนต์ประมาณว่า ทำไมพระเอก MV ไม่เอาแฟนตัวเองมาเล่นน่าจะน่าดูกว่านี้ เราก็รู้สึกว่า ความตั้งใจของเราคืออยากขายเพลง ขายผลงาน ไม่ใช่เอาความสัมพันธ์มาเป็นตัวตั้ง แต่ต้องยอมรับว่าผู้หญิงจะตกเป็นเป้าของการซุบซิบได้มากกว่า ทำเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ แต่เราก็เอาที่เราสบายใจดีกว่า ภูมิต้านทานสูงมากแล้วตอนนี้ 

อาจจะเป็นเพราะเราคาบเกี่ยวเรื่องผลงานด้วย คือเราทำทั้งเพลงและการแสดง การอยู่ในวงการบันเทิงมันเลยจำเป็นต้องเจอเรื่องแบบนี้ บางคนมองว่าเราเป็นนักแสดงที่ร้องเพลง หรือบางคนมองว่าเป็นนักร้องที่เป็นนักแสดง มันแล้วแต่คนมองค่ะ เราเลยรู้สึกว่าคนมองเราอยู่ตรงกลาง อาจจะเพราะเราเป็นลูกครึ่ง จะฝรั่งก็ไม่ฝรั่ง จะไทยก็ไม่ไทย เราก็เลยพยายามทำทุกอย่างให้ดีจะดีกว่า

วีก็มองตัวเองว่าเราเป็นทั้งศิลปินและนักแสดง ไม่จำเป็นต้องมองอย่างเดียว เพราะเราก็สามารถทำได้หลายอย่าง มันเป็นความโชคดีของเรา แต่ตอนเด็กเรารู้สึกว่ามันไม่ดีนะ ไม่รู้สึกว่าเป็นอะไรสักอย่างเลย แต่โตมาก็มองมุมบวก เราทำของเราไป ทำให้ดีเดี๋ยวคนก็มองเห็นเอง

กลายเป็นว่าคนที่กดดันที่สุดคือตัวเองมากกว่าจะเป็นคนอื่น

ย้อนกลับไปตอนเด็กต่อให้มีเรื่องอะไรถาโถมเข้ามาเราก็ไม่สนใจ เพราะเราคิดว่าเรายังเด็ก เราติสท์ แต่พอโตขึ้นบวกกับอยู่ในวงการมันทำให้เราค่อนข้างคิดมากในการใช้ชีวิต เพราะเราไม่ชอบดรามา เราเลยพยายามวางตัวหรือหาทางเดินให้ตัวเองแบบที่จะไม่ก่อให้เกิดดรามา มันทำให้เราพารานอยด์โดยไม่รู้ตัว มันเครียดมาก คิดแล้วคิดอีก ก็เลยกลับมาทบทวนตัวเองว่าต้องผ่อนคลายตัวเองลงบ้าง เราเลยชอบไปเมืองนอกบ่อย ๆ เพราะเรารู้สึกว่าได้พัก แต่คำถามคือทำไมเรากลับไม่รู้สึกแบบนี้ที่บ้านตัวเอง ทั้ง ๆ ที่บ้านควรจะเป็นที่ที่เราได้พักไม่ใช่เหรอ ก็เลยมองย้อนกลับไปหาตัวเองในอดีต ตอนทำเพลงใหม่ ๆ เห็นตัวเองมีความสุข เลยถึงบางอ้อว่า แค่นี้เองนี่นา เราก็โฟกัสแค่บางเรื่องก็พอ มันก็จะมีความสุขเอง

เป้าหมายการทำเพลงของวี

เราก็ทำเพลงเพื่อตัวเอง ทำแล้วมีความสุข ถ้าคนชอบ เราก็ยิ่งมีความสุข อย่าไปคาดหวังความต้องการคนอื่น ลองคิดดูว่าถ้าเรามัวแต่ทำในแบบที่คนอื่นชอบ แต่มันฝืนเราเอง แล้วเพลงนั้นมันเกิดดังขึ้นมา เราต้องร้องมันซ้ำ ๆ ทั้งที่เราไม่ชอบก็ไม่มีความสุข ไม่เป็นตัวของตัวเองเลยนะจะทำได้หรอ วีเลยทำเพลงให้ตัวเองเป็นหลักเพื่อที่เราจะได้ร้องมันจากใจได้ในทุกครั้ง 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

#thisiscat #catradio #catexpo6 #catexpo 📸 @ittinan_oat

โพสต์ที่แชร์โดย Violette Wautier (@violettewautier) เมื่อ พ.ย. 24, 2019 เวลา 8:03pm PST

วีบนเวทีที่มี ‘Energy’ ไม่เหมือนใคร

วีชอบอยู่บนเวทีนะ มันมีพลังงานที่ดี แล้วเวลาคนที่มาดูมี 'Vibe' ที่ดี มันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า 'เธออยากได้อะไร ฉันให้เธอได้ทุกอย่าง! เอาไปเลย!' แล้ววีชอบเวลาอะดรีนาลีนพวกนั้นมันหลั่ง คือวีเข้าใจเลยว่าคำว่า 'High on Live' มันเป็นยังไง รู้สึกว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะได้สัมผัสความรู้สึกนี้ ความรู้สึกของการที่เราปล่อยไมค์แล้วคนร้องตามเพลงที่เราเขียน เป็นคำของเราที่เขาเอาไปโพสต์ เอาไปร้อง หรือเอาไปพูดกัน มันมีความหมายมาก วีชอบการเล่นสดมาก

เวทีในฝัน

เอาจริง ๆ วียังไม่อยากพูดว่าอยากไปเวทีไหน คือแค่ได้ไปเทศกาลดนตรีเมืองนอกวีก็กรี๊ดมากแล้ว เราชอบพวกเทศกาลดนตรีทั้งหลาย ไม่ว่าจะที่ต่างจังหวัดหรือที่ไหนก็ตามวีจะชอบมาก ขอให้เป็นเฟสติวัลและจัดแบบที่โล่ง ๆก็พอ เพราะเพลงของเรามีเป็นเพลงที่มีเรื่องราวกว้างมาก ดังนั้นการที่เราไปเล่นหรือไปปลดปล่อยในที่กว้าง ๆ แบบเทศกาลดนตรีมันถึงเหมาะกว่ามาก

ศิลปินที่วีรัก

ตอนนี้ที่หนึ่งในใจคือ Taylor Swift แต่วีก็ชอบ Lorde, Lana Del Rey, Maggie Rogers และวง Haim ส่วนศิลปินชายที่ชอบมาก ๆ คือ Lauv วีรู้สึกว่าเขาเป็นคนร้องเพลงเรียบง่าย แต่เขียนเนื้อได้มีกึ๋น มีศิลปะในการเล่า

ส่วนคนนี้คือศิลปินที่อยากร่วมงานด้วย

ตอนนี้วีคิดว่า Lauv วีชอบเขามากกก ที่จริงมีหลายคนนะที่คิดไว้ในใจว่าอยากร่วมงานด้วย อย่างศิลปินไทยวีอยากทำเพลงกับพี่ธีร์ ไชยเดช อินดี้ไปเลย วีชอบเพลงพี่เขามาก คือมันน้อยแต่มาก มันแตะหัวใจเรามาก แล้ววีว่าวีเป็นคนเสียงเศร้าเหมือนเขา ทุกเพลงที่วีเขียนจะมีความหนืด ช้า ลอยบางอย่าง ขนาดเพลงล่าสุดยังลอยเลย ซึ่งเพลงที่ธีร์ก็มีความช้า เบา ลอย อิ่ม วีรู้สึกว่าจริงๆ เราฟีลเดียวกันน่ะ

วามภูมิใจในเพลง Brassac

Brassac เป็นเพลงที่วีภูมิใจมาก มันมีประโยคนึงที่วีชอบมากคือคำว่า 'France' กับ 'Romance' คือประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งความรักมาก ๆ ซึ่งฉันสามารถเอาสองคำนี้มาอยู่รวมกันในเพลง แล้วคล้องจองกันด้วยนะ

เมื่อเราถามว่าเป็นเพราะอินเลิฟอยู่หรือเปล่าก็ได้คำตอบว่า..

วีเขียนไว้นานแล้ว ไม่เกี่ยวกับอินเลิฟอะไรนะ ประเด็นคือเพลงต่าง ๆ นานามันไม่ใช่ปัจจุบัน มันคือวีในอดีต แล้ววีทำงานกับมันมาสองปีแล้ว ถ้าจะฟังของปัจจุบันต้องรออนาคต ต้องรอวีตกตะกอนก่อน

ดูโพสต์นี้บน Instagram

วันนี้มาหาที่ท่าช้างเชียงใหม่หน่อยสิ คิดถึง โชว์สุดท้ายของปีนี้ละ 📸 @saofaifar

โพสต์ที่แชร์โดย Violette Wautier (@violettewautier) เมื่อ ธ.ค. 16, 2019 เวลา 12:56am PST

เนื้อเพลงที่ใครก็อินได้

วีเชื่อว่ามันต้องมีคนที่รู้สึกร่วมกับเพลงหรือเคยเจอโมเมนต์เดียวกันกับเพลงที่วีแต่ง ทั้งผู้ชายหรือผู้หญิงแหละ มันต้องมีคนที่รู้สึกว่านี่คือซาวด์แทร็กของชีวิตเขา ซึ่งมันเป็นเรื่องของการแสดงออกทาง ความรู้สึกไปพร้อม ๆ กับเพลง

ทั้ง ๆ ที่บางความรู้สึกมันไม่ใช่เรื่องดีด้วยซ้ำ อย่างเช่น เพลง Drive เราพูดถึงความอกหักที่เศร้ามากเลย แต่เรารู้สึกว่านี่คือความรู้สึกของเรานะ และเรากล้าหาญพอที่จะแสดงมันออกมา ซึ่งทุกคนเป็นแบบนั้นอยู่แล้วแหละ เราจะมามองมุมบวกตลอดเวลามันก็ไม่ได้ใช่ไหม เราแค่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเองก็เพียงพอแล้ว

เป้าหมายในการเป็นศิลปินของ 'วี วิโอเลต'

วีอยากทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ถ้าสักวันมีคอนเสิร์ตของตัวเองก็ดี แต่ที่จริงดนตรีพาเราไปไหนเราก็จะไปที่นั่น ซึ่งหวังว่าจะได้ไปด้วยกันนาน ๆ ทั้งในวัยนี้ วัยหน้า วัยอื่น ๆ เพราะเรารู้สึกว่าหนีไม่พ้นกับดนตรีหรอก มันเป็นสิ่งที่อยู่กับเรามาตลอด ถ้าให้ตัดทิ้งไปเลยคงรู้สึกเหมือนตัดแขนทิ้งไปข้างนึงเหมือนกัน

ยังไงเราก็อยู่กับมันแหละ แต่จะอยู่แบบไหนเดี๋ยวลองดู อย่างตอนนี้เห็นคอร์สออนไลน์ของพวกธุรกิจดนตรีวีก็สนใจนะ มั่นใจว่ายังไงเส้นทางข้างหน้าก็จะยังเกี่ยวกับดนตรีแน่นอน ตอนแก่ตัวก็จะทำ

คำถามสุดท้ายละ ถ้าหากเปรียบความรักของวี วิโอเลต กับเพลง ๆ หนึ่ง…

ที่จริงก็ได้ทุกเพลงนะ เพราะมันมีโมเมนต์ที่แตกต่างกัน ความรักมันมีหลายแบบ ในตอนนี้คงเหมือนในเพลง Brassac ไปก่อนแล้วกัน ยังไงก็ฝากเพลงใหม่ไว้ด้วยนะคะ ♡

"Brassac" ซิงเกิ้ลใหม่จาก วี วิโอเลต วอเทียร์ ฟังได้บน Apple Music, Spotify, Joox และ YouTube

.

ขอบคุณ SIRI HOUSE ที่เอื้อเฟื้อสถานที่น่ารัก ๆ ให้กับเรา

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0