โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ความรัก แพชชั่น ความสวยความงามกับ June JellyJune

LINE TODAY

เผยแพร่ 08 พ.ค. 2561 เวลา 08.26 น. • Double T. | @mintnisara | th.hanabi

เธอคือเมคอัพอาร์ทิสต์มากความสามารถที่สั่งสมประสบการณ์เกี่ยวกับความสวยความงามจนกลายมาเป็นบิวตี้อินฟลูเอนเซอร์แถวหน้าคนหนึ่งของเมืองไทย มีคนติดตามผลงานของเธอเป็นหลักแสน แถมเรื่องราวความรักที่แฟนๆ ทุกคนกำลังติดตามกันอย่างเหนียวหนึบ วันนี้ LINE TODAY มีนัดกับเธอพอดี เราเลยขอมานั่งเม้าธ์ทุกเรื่องกับ “จูน” JellyJune พร้อมชาเลนจ์สนุกๆ ที่ชวนเธอมาช่วยเมคโอเวอร์สาวนักบัญชี Liner ของเรา จะเป็นยังไง อ่านต่อด้านล่างได้เลย!

ความเป็นมาของชื่อ “JellyJune"

"2-3 ปีก่อน เราเปิดบล็อกชื่อว่า JellyFatFish ที่มาของชื่อนี้ก็มาจากความชอบแมงกะพรุนเฉยๆ ไม่มีอะไรอะไรซับซ้อน แต่พอเริ่มมีคนติดตามมากขึ้น ก็รู้สึกอยากให้คนจำชื่อเราได้ จึงเปลี่ยนมาเป็น JellyJune เพิ่งเปลี่ยนเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมานี้เองค่ะ" 

เส้นทางการมาเป็นเมคอัพอาร์ทิสต์

“เรียนสายศิลปะมาก่อน และมีความรักสวยรักงามตามประสาผู้หญิง ชอบสะสมเครื่องสำอาง สมัยเรียนมหาวิทยาลัยได้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ ก็เริ่มเรียนรู้การแต่งหน้าจากตอนนั้น เริ่มจากแต่งหน้าให้ตัวเองแล้วพัฒนามาเป็นแต่งหน้าให้เพื่อน แต่งหน้าให้รุ่นพี่ตอนรับปริญญา ฝึกฝนมากว่า 2 ปีถึงกล้ารับเป็นงานแบบคิดเงิน ตอนนั้นก็คิดไม่แพง หน้าละ 300 บาท จนกระทั่งเรียนจบก็ไปทำงานออฟฟิศ เป็น AE ได้ฝึกทักษะการพูดคุย ได้เรียนรู้เรื่องของโซเชียลมีเดียบ้าง แต่ตอนนั้นก็ยังรู้สึกว่างานออฟฟิศยังไม่เหมาะกับเรา จึงตัดสินใจลาออกไปเรียนแต่งหน้าอย่างจริงจัง พอจบหลักสูตรก็รับงานเป็นเมคอัพอาร์ทิสต์แบบเต็มตัว"

"ส่วนการก้าวมาเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์นั้น เริ่มต้นมาจากเมื่อเรามีผลงานแต่งหน้าเยอะขึ้น เราก็อยากมีพื้นที่สำหรับโชว์ผลงานของเรา ก็เริ่มมาจากจีบัน จากนั้นเราก็รู้สึกอยากเขียนเป็นไดอารี่ของเราด้วย ก็ได้พี่ที่เป็นโปรแกรมเมอร์สนิทกันมาช่วยในเรื่องของเว็บไซต์ ก็เริ่มมีคนตาม มีคนรีเควสต์ให้เราแต่งหน้าตัวเองให้ดูในแบบนั้นแบบนี้ ก็กลายเป็นบล็อกเกอร์ไปในตัว จนมาถึงยุคที่คอนเทนต์วิดิโอได้รับความนิยม เราก็พัฒนาผลิตคลิปสอนแต่งหน้าในแบบต่างๆ ค่ะ” 

คิดว่า “ปัง” เพราะคอนเทนต์ไหน

"คอนเทนต์ที่ทำให้เป็นที่รู้จักเลยคือแต่งหน้ารับปริญญา 3 ลุค สมัยนั้นหาคอนเทนต์แนวนี้ได้ไม่มากนัก อีกทั้งเราใช้กล้องและการจัดไฟที่พิถีพิถัน เพลงประกอบที่เราเลือกเอง เป็นสไตล์ของเรา ภาพที่ออกมาเลยดูง่าย และคนก็เลยจำเราได้จากคลิปนี้ และมีทั้ง 3 ลุค ดูคลิปเดียวแต่งหน้าได้หลายแบบเลย หลายคนก็เลยชอบ"

จากบิวตี้บล็อกเกอร์ สู่ความเป็นไลฟ์สไตล์บล็อกเกอร์

"มีช่วงหนึ่งที่เราไปเรียนต่อที่อังกฤษ ก็จะห่างหายไปจากการทำบล็อกประมาณปีครึ่งในขณะที่บิวตี้บล็อกเกอร์หน้าใหม่ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่ติดตามเราก็ติดตามบิวตี้บล็อกเกอร์ท่านอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน เราก็เลยอยากหาอะไรที่แปลกใหม่ ก็เลยหันมาเริ่มทำคอนเทนต์ที่เป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น แต่ก็ยังคงมีความผู้หญิงอยู่ เช่นช่วงคริสต์มาสที่หลายคนทำคลิปสอนแต่งหน้า เราก็ทำคลิปแต่งรูป ฉีกเนื้อหาออกไปให้ไม่น่าเบื่อ" 

แต่ก่อนเวลาเราจะแต่งหน้าให้ใครเราจะคิดว่าจะแต่งอย่างไรให้เขาสวย แต่ตอนนี้เราเปลี่ยนความคิดเป็นว่า เราจะดึงสิ่งที่สวยงามที่เขามีอยู่แล้ว ให้โดดเด่นขึ้นได้อย่างไร ให้เขาสวยในแบบที่เขาเป็นได้มากยิ่งขึ้น การไปอยู่เมืองนอกของจูนครั้งนั้นให้อะไรมากกว่าเพื่อนใหม่ แต่ยังให้เราได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กว้างขึ้นด้วย

เปิดมุมมองใหม่ๆ ในต่างแดน

“เราไปเรียนภาษา อยากฝึกทักษะการฟัง และพูดให้ดีกว่านี้ เพื่อพัฒนาตนเอง การได้ไปอยู่ในสังคมใหม่ๆ ก็ได้ซึมซับการใช้ชีวิตในมุมมองใหม่ๆ อยู่เมืองไทยอากาศร้อน เราจะไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะก็คงไม่ไหว ที่พึ่งของชาวเมืองก็ไม่พ้นห้าง หรือหาขนมกินตามคาเฟ่น่ารักๆ เดินเล่นโทรศัพท์มือถือ แต่พอไปอยู่ที่อังกฤษเราได้ซึมซับบรรยากาศที่นั่น ได้ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ เดินเล่นในแกลเลอรี่ ได้เปิดโลกกว้าง ได้เห็นอะไรด้วยตาของตัวเอง ไม่ใช่เพียงการดูจากหน้าจอ มันมีอะไรน่าสนุกกว่าให้ทำอีกมากมาย” 

“และเพราะในแถบยุโรปจะมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ เรื่องของความสวยความงามจึงไม่มีกฎเกณฑ์หรือรูปแบบที่ตายตัว ไม่เหมือนเมืองไทย ที่คนสวยจะต้องขาวต้องผอม ต้องหน้าเรียว แต่ในฝั่งยุโรป ผู้หญิงทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง มีความเป็นธรรมชาติเป็นเสน่ห์เฉพาะตัว แต่ก่อนเวลาเราจะแต่งหน้าให้ใครเราจะคิดว่าจะแต่งอย่างไรให้เขาสวย แต่ตอนนี้เราเปลี่ยนความคิดเป็นว่า เราจะดึงสิ่งที่สวยงามที่เขามีอยู่แล้ว ให้โดดเด่นขึ้นได้อย่างไร ให้เขาสวยในแบบที่เขาเป็นได้มากยิ่งขึ้น การไปอยู่เมืองนอกของจูนครั้งนั้นให้อะไรมากกว่าเพื่อนใหม่ แต่ยังให้เราได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กว้างขึ้นด้วย”

บิวตี้ทิปส์ของ JellyJune

"นอกจากทิปส์ทั่วไปเช่นดื่มน้ำมากๆ หมั่นทาครีมเป็นประจำ อีกหนึ่งสิ่งที่ที่สำคัญคือ การดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากควาเครียด จะช่วยให้หน้าดูอ่อนเยาว์ได้จริงๆ โชคดีที่จูนไม่ชอบปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความเครียดนานเกินไป จะพยามดึงตัวเองออกมา ทำงานที่เรารัก อยู่กับสิ่งสวยงามก็ช่วยให้สุขภาพใจดี เมื่อสุขภาพใจดีแล้ว สุขภาพกายก็ดีไปด้วย สังเกตว่าเวลาที่เราเครียด หน้าเราจะหมอง ทั้งๆที่เราใช้ครีมเหมือนเดิมทุกอย่าง กลับกันเมื่อเรามีความรัก ผิวเราก็เปล่งปลั่งสดใส อีกอย่างหนึ่งคือเราไม่ค่อยได้ออกแดด ริ้วรอยก็เลยมาช้าค่ะ

 

พรีเวดแบบกันเอ๊ง กันเองงงง ❤ #TakeJuneToGreece #PStheWedding160219

A post shared by JellyJune (@june.jellyjune) on Apr 15, 2018 at 11:26pm PDT

บอกเล่าเรื่องราวความรักแสนอบอุ่นสุดฟิน 

“พบกับแฟนคนนี้จากแอปค่ะ ไม่น่าเชื่อใช่ไหม (หัวเราะ) เพราะเราเองก็ไม่เชื่อในแอปพลิเคชั่นหาคู่แนวนี้อยู่แล้ว เพราะได้ยินว่ามักจะมีแต่คนแปลกๆ แต่แอปนี้มีเพื่อนแนะนำให้ลอง เพราะเขาเจอคู่จริงๆ ได้แต่งงานกัน เราก็ลองโหลดมาเล่นดูบ้าง แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะหาคู่แบบจริงจังนะ เจอก็เจอ ไม่เจอก็ช่าง แล้วก็บังเอิญได้เจอคนนี้ ที่เขาทักเข้ามา ลองคุยกันแล้วคลิก เขาเป็นชาวต่างชาติแต่อยู่ที่ไทย 3ปีแล้ว เขาเป็นผู้ใหญ่มาก โตกว่าเรา 5ปี แล้วด้วยความเป็นผู้ใหญ่ของเขา เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องของความรัก เพราะเขาไม่เหลวไหล เราสามารถเอาเวลามาโฟกัสที่เรื่องของงานได้เต็มที่ ความรักครั้งนี้ก็เลยแฮปปี้ มีความสุขค่ะ (ยิ้ม)”

พี่หมี คือผู้ชายที่เราไม่เคยมีความลังเลสงสัย เขาทำให้เรามั่นใจในความรักครั้งนี้มากๆ เราไม่เคยต้องตั้งคำถาม เพราะที่เขาทำมันชัดเจนทุกสิ่งทุกอย่าง ความน่ารัก ดูแลใส่ใจ จากวันแรกจนถึงวันนี้ มีแต่เพิ่มขึ้น ไม่มีวันไหนเลยที่ลดลง ถึงจะต้องไกลกันบ้างห่างกันบ้าง ในหน้าที่การงาน แต่เขายังทำให้เรารู้สึกอบอุ่นใจและให้เกียรติเราเสมอ รวมถึงการใส่ใจความรู้สึกของคนในครอบครัวเรา ให้เรารู้ว่าเขาแคร์เรามากจริงๆ มันทำให้เรารักผู้ชายคนนี้มากพอที่จะตอบตกลงแต่งงาน ได้อย่างไม่ลังเล …ในวันที่เขาขอเราแต่งงาน(จริงๆคือ 14 กุมภาพันธ์) เขาบอกว่า เขาอยากใช้เวลาต่อจากนี้ไปกับเรา "เมื่อเจอคนที่ใช่ คนที่มั่นใจ ในเวลาที่เหมาะสม มันไม่มีเหตุผลใดๆที่จะต้องรอ เราไม่มีทางรู้อนาคตได้หรอกว่าจะดีหรือร้าย แต่เรารู้ว่าปัจจุบันเรามีความสุข และเราอยากใช้ความสุขนี้ร่วมกับคนที่เรารัก เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตกันและกันอย่างสมบูรณ์" …และในวันนี้ วันที่เขาขอสวมแหวนหมั้นอย่างเป็นทางการ ต่อให้เราคิดมาตลอดว่า จะยิ้มสวยๆหวานๆอย่างงั้นอย่างงี้ กลายเป็นว่ามันไม่ใช่เลย …ทุกคำพูดที่เขาบอก เราจำไม่ได้นะ จังหวะนั้น หูอื้อตาลายไปหมด ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก รู้แค่ว่าน้ำตาไหลพรากๆ ดีใจปนตื่นเต้นสุดๆ มันเป็นความสุขความตื้นตันเอ่อล้นออกมาจากใจจริงๆ💗 …ขอบคุณทุกคนที่มาแสดงความยินดีให้จูนกับพี่หมี และติดตาม #MissJAndMrS นะคะ ถึงจะยังไม่ได้ตอบกลับ แต่เราอ่านคอมเมนต์ของทุกคนเลย ขอบคุณมากจริงๆที่อยู่ด้วยกันตรงนี้ ขอบคุณจากใจ เดี๋ยวไว้ทำคลิปเล่าให้ฟังอีกทีนะ เราตื่นเต้นมากๆที่จะได้ทำคลิปซีรีย์เกี่ยวกับงานแต่งงานของเรา(ซักที^^) #PStheWedding160219

A post shared by JellyJune (@june.jellyjune) on Apr 3, 2018 at 4:22am PDT

ต่างชาติ ต่างภาษา ทว่าเข้ากันได้ดี

“จูนมองว่าคนเราจะเป็นแฟนกัน มันต้องมีทั้งความต่างและความเหมือนกัน อย่างจูนเองกับแฟน จะมีความเหมือนกันในเรื่องของการทำงาน คือต้องเดินทางบ่อย และเราทั้งคู่มี passion ในการทำงาน ความแตกต่างของเราจะเป็นเรื่องของภาษา ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าเป็นอุปสรรค แต่เรากลับมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เราได้ปรับเข้าหากัน ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน อย่างน้อยก่อนพูดกันเราต้องใช้สติ ไม่ได้พูดไปแบบไม่ได้คิด เราได้เบรกตัวเองก่อนพูดออกไป เขาอาจจะคิดไม่เหมือนเรา เราก็จะลดโอกาสเกิดการทะเลาะกัน เปลี่ยนมาเป็นถามกันดีๆ ว่าทำแบบนี้ทำไม เขาคิดอย่างไร เราคิดอย่างไร ก็ได้ปรับเข้าหากัน ยกตัวอย่างเรื่องหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ตลกมากคือเขาทำเครื่องสำอางเราพัง ตอนที่เราไม่อยู่ ด้วยความมือของเขาใหญ่ทำให้เล็บของเขาขูดกับไฮไลท์ที่เราเพิ่งซื้อมา พอกลับมาถึงบ้านเขาก็บอกว่า ‘มีอะไรจะบอก’ เราเห็นก็ตกใจแต่พูดไม่ออก เขาก็ถามเราว่าของชิ้นนี้ราคาเท่าไหร่ แล้วก็เดินไปหยิบเงินมาให้เรา แต่แทนที่เขาจะเอาเงินมาให้กับมือ กลับทิ้งเงินไว้ที่โซฟา (เหมือนโยน) ก็เลยได้คุยกันยาวในเรื่องของวัฒนธรรม ซึ่งทางเขาไม่ถือแต่บ้านเราถือ เพราะการโยนเงินให้กันเหมือนเป็นการดูถูก พอเขารู้เข้าก็ตกใจ เพราะเขาไม่ได้คิดอะไรเลย เขาก็ขอโทษ จากแทนที่จะเป็นการทะเลาะกัน ก็เป็นการได้สอนเขาแทน การมีแฟนต่างชาติจึงเป็นเรื่องที่มีข้อดี เพียงแต่เราต้องใจเย็น”

“เสน่ห์” ของผู้หญิงในสายตาต่างชาติ

 “มีเพื่อนๆ ชาวต่างชาติหลายคนเคยแชร์ความคิดเห็นกันว่า ผู้หญิงทุกคน (ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่คนไทย) แค่พวกเธอรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และมีความพยายามที่จะมุ่งไปยังจุดมุ่งหมาย มันเซ็กซี่ยิ่งกว่าผู้หญิงที่แต่งตัวเซ็กซี่ด้วยเสื้อผ้าเสียอีก และในอีกส่วนหนึ่งที่จูนมองว่าผู้หญิงไทยค่อนข้างได้เปรียบคือ เราส่วนใหญ่จะติดนิสัยชอบดูแลเทคแคร์คนอื่น ซึ่งทางฝั่งยุโรป อเมริกา เขาไม่เป็นกัน ดังนั้นหากเรามีความมั่นใจ มุ่งมั่นไปยังเป้าหมายชีวิต บวกกับความเอาใจใส่ ดูแลเทคแคร์คนรอบข้าง จะทำให้เรามีเสน่ห์เป็นสองเท่า เอาชนะใจชายได้ไม่ยากเลยค่ะ"

ติดตามเคล็ดลับความงาม ไลฟ์สไตล์เก๋ๆ และความน่ารักของคู่รักคู่นี้ ได้ที่เฟซบุคแฟนเพจ JellyJune, YouTube แชนแนล JellyJune และอินสตาแกรม @june.jellyjune นะจ๊ะ

บทความโดย Double T. วีดีโอโดย @mint.nisara และ th.hanabi

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0