โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ความชาญฉลาดที่อยู่บนมือเรา กำลังเป็นโอกาสใหม่ในการพัฒนาประเทศ

Money2Know

เผยแพร่ 17 ต.ค. 2561 เวลา 00.30 น. • money2know - เงินทองต้องรู้
ความชาญฉลาดที่อยู่บนมือเรา กำลังเป็นโอกาสใหม่ในการพัฒนาประเทศ
*ความฉลาดและรวดเร็วในการเชื่อมต่อ Mobile Internet และปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังทำให้มวลมนุษยชาติเปลี่ยนผ่านสู่โลกยุคใหม่ ที่มนุษย์ทุกคนกำลังจะมีเครื่องมืออันทรงพลังที่มีราคาถูกมากบนมือ และสามารถทำงานในอาชีพใหม่ๆ มีวิธีการหาความรู้ที่ง่ายดายและทันสมัย *

เพียงใช้นิ้วสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นใคร อายุเท่าไร อยู่ที่ใด และเวลาใดก็ตาม ดังนั้นนโยบายของประเทศต่างๆ จึงต้องเปลี่ยนแปลงและปรับโครงสร้างให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ด้วยการทำให้เกิดการร่วมกันสร้างโดยรัฐต้องทำการปลดล็อคให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการสร้างเศรษฐกิจใหม่ ด้วยการผลักดันและสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน

การใช้ Mobile Internet จะกลายเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวัดการเข้าถึงและความคุ้มค่าที่สร้างขึ้นโดยอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมทั้งการมีส่วนร่วมในเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDG)

นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดการพัฒนาระบบนิเวศดิจิทัลอย่างกว้างขวาง จากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ใน e-commerce, fintech และการส่งมอบบริการและเนื้อหาดิจิทัลรูปแบบใหม่

หลังจากที่มีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มากกว่า 5 พันล้านคน ในปี 2017 แล้ว อุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลกจะบรรลุเป้าหมายที่สำคัญในอีก 8 ปีข้างหน้า ด้วยจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวน 5,900 ล้านรายภายในปี 2025 หรือประมาณ 71% ของประชากรโลก และสองในสามของการเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลก (ไม่รวม IoT) จะอยู่บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง

การเติบโตนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะประเทศอินเดีย, จีน, ปากีสถาน, อินโดนีเซีย และบังคลาเทศ รวมถึงภูมิภาคแอฟริกาทางตอนใต้ และละตินอเมริกา

มีการคาดการ์ว่าจะมีการเปิดตัว 5G ในเชิงพาณิชย์ในหลายประเทศทั่วโลกใน 1-3 ปีนี้ โดยเกิดขึ้นในอเมริกาเหนือและในตลาดหลักทั่วทวีปเอเชีย (รวมทั้งประเทศไทย) และยุโรป ซึ่งประเทศจีน, สหรัฐฯ และญี่ปุ่น จะเป็นประเทศผู้นำในการเชื่อมต่อ 5G ภายในปี 2025 ในขณะที่ในทวีปยุโรปโดยรวมจะมีการใช้งาน 5G เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมทั้งประเทศจีน, สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น และยุโรป ที่จะมีจำนวนการเชื่อมต่อประมาณร้อยละ 70 ของการเชื่อมต่อ 5G ทั่วโลก (คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนการเชื่อมต่อ 5G ทั่วโลกประมาณ 1.2 พันล้านการเชื่อมต่อ)

จำนวนการเชื่อมต่อ Internet of Things (IoT) ทั้งบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ และไม่ต้องใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่าทั่วโลก ระหว่างปี 2017 ถึง 2025 ซึ่งจะมีจำนวน 25 พันล้านการเชื่อมต่อ ในขณะที่ IoT กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีหลักสำหรับตลาดผู้บริโภค

อย่างเช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์สำหรับผู้บริโภคและบ้านอัจฉริยะ ส่วน IoT ในภาคอุตสาหกรรมยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นพัฒนา แต่จะกลายเป็นแหล่งการเชื่อมต่อที่ใหญ่ที่สุดในอนาคต โดยการเชื่อมต่อ IoT ในภาคอุตสาหกรรมจะแซงหน้าการเชื่อมต่อ IoT สำหรับผู้บริโภค ภายในปี 2023

การพัฒนาสู่เทคโนโลยี 5G ที่ผนวกเข้ากับปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะทำให้เศรษฐกิจและสังคมของมวลมนุษยชาติเกิดความชาญฉลาดขึ้นอย่างแพร่หลายและรวดเร็วในทศวรรษนี้ เพราะ 5G จะทำให้อุปกรณ์บนมือของเรา รวมไปถึงอุปกรณ์สวมใส่ตามร่างกาย ไปจนถึง sensor ตามสถานที่และในอุปกรณ์ต่างๆ เชื่อมโยงกันและส่งข้อมูลในรูปแบบ Big Data Analytics จนทำให้องค์ความรู้ต่างๆ และนวัตกรรมทั่วโลก ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วแบบอัตราเร่ง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าด้วยอัตราเร่ง จึงทำให้รูปแบบการทำงานและอาชีพต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ระบบการศึกษาในปัจจุบันกำลังถูกท้าทายและจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตอันใกล้หากเราไม่เปลี่ยนรูปแบบการสอน เพราะแนวทางและสิ่งที่เราสอนเด็กใน Generation alpha ที่มีช่วงอายุตั้งแต่เกิดถึงประมาณ 8 ขวบในวันนี้ ซึ่งหากเราไม่สามารถทำให้พวกเขามีความสามารถทำงานร่วมกับเครื่องจักรแบบอัตโนมัติและ AI ได้ พวกเขาจะไม่มีความสามารถในการทำงานในอนาคตได้เลย

ดังนั้น ครูจะต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ครูควรจะหยุดสอนแบบเดิม เราจำเป็นต้องสอนอะไรที่มีความพิเศษเฉพาะทาง ซึ่งถ้าเราทำแบบนั้นได้ หุ่นยนต์จะไม่มีทางแทนมนุษย์ได้ ซึ่งถ้าหากเราไม่ปฏิรูปการศึกษา อนาคตลูกหลานเราจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์และ AI อย่างแน่นอน

แจ็ค หม่า มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทอาลีบาบา ธุรกิจ e-commerce ของจีนที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้กล่าวในงาน World Economic Forum 2018 ไว้ว่า “หากไม่ปฏิรูปการศึกษา ลูกหลานของเราจะต้องถูกแทนที่โดยหุ่นยนต์อย่างแน่นอนในปี 2030 โดยคาดการณ์กันว่าหุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่อาชีพของมนุษย์ได้สมบูรณ์กว่า 800 ล้านอาชีพ”

ดังนั้น หากประเทศไทยของเรา สามารถพลิกรูปแบบการเรียนการสอนวิธีแบบดั้งเดิมกับการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ผ่านระบบ Mobile Internet ได้อย่างกลมกลืน เพื่อประชาชนทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา ก็จะทำให้เกิดโอกาสใหม่กับประชาชนได้อย่างมากมาย และสามารถพัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็ว

Reference
https://www.gsma.com/mobileeconomy/wp-content/uploads/2018/05/The-Mobile-Economy-2018.pdf
———————————
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
ประวัติ: http://www.xn--42cf0a8cxa3ai5ple.com/?p=165
11 ตุลาคม 2561
www.เศรษฐพงค์.com

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0