โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ความขัดแย้งการค้าลาม สู่”สงครามเทคโนโลยี”

Money2Know

เผยแพร่ 17 ก.ค. 2562 เวลา 08.25 น. • money2know - เงินทองต้องรู้
ความขัดแย้งการค้าลาม สู่”สงครามเทคโนโลยี”

ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความขู่เก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มขึ้น 325,000 ล้านดอลลาร์อีก หลังระบุการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนรอบใหม่ยังคงไม่มีความคืบหน้า รวมทั้งจีนยังไม่ดำเนินการสั่งซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐเพิ่มขึ้นตามสัญญา

สหรัฐและจีนยังคงอยู่ห่างไกลจากการบรรลุข้อตกลงทางการค้า ทำให้สหรัฐสามารถเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมกับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 325,000 ล้านดอลลาร์ ถ้าหากสหรัฐมีความต้องการดังกล่าว

ท่ามกลางความกดดันของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สู่สงครามการค้าในระดับภูมิภาคเอเชีย โดยญี่ปุ่นได้เปิดศึกข้อพิพาทการค้ากับเกาหลีใต้อย่างไม่คาดคิด

จากการที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศควบคุมการส่งออกสินค้ากลุ่มเทคโนโลยีไปยังเกาหลีใต้ เนื่องจากความขัดแย้งในประเด็นที่เกี่ยวกับการที่ญี่ปุ่นค้องจ่ายเงินชดเชยต่อการบังคับใช้แรงงานเกาหลีใต้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

การควบคุมการส่งออกสารตั้งต้นผลิตสินค้าเทคโนโลยรของญี่ปุ่นนั้น เป็นสารจำพวก Fluorinated Polyimide, Hydrogen Fluoride และสารที่เป็นตัวต้านทานกระแสไฟฟ้า โดยที่สารเคมีดังกล่าวเป็นสารที่เกาหลีใต้ใช้สำหรับผลิตชิป เซมิคอนดักเตอร์ และจอแสดงภาพของสมาร์ทโฟน

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ข้อพิพาทการค้าระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้อาจจะส่งผลกระทบตลาดเทคโนโลยีของโลกและหากยังยืดเยื้อต่อไปอีก อาจส่งผลให้การผลิตลดลง ซึ่งก็จะทำให้ราคาชิป และสินค้าเทคโนโลยีอื่นๆ มีการปรับตัวสูงขึ้น

รวมทั้งอาจจะทำให้การเคลื่อนไหวเพื่อเปิดตัวระบบคลื่น 5G ต้องล่าช้าออกไป เพราะอาจเกิดภาวะการขาดแคลนสินค้าขึ้นได้ เนื่องจากเกาหลีใต้มีการเก็บสะสมสต็อกสินค้าเก็บไว้เพียง 3 เดือนนับจากนี้ไป

ถึงแม้จะมีการคาดหวังเกี่ยวกับการเจรจาระหว่างรัฐบาลเกาหลีใต้และญี่ปุ่น จะมีขึ้นที่กรุงโตเกียวในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน เพื่อคลี่คลายข้อพิพาทครั้งนี้ แต่โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นกลับแถลงข่าวถึงการประชุมดังกล่าว เป็นแค่ระดับคณะทำงานเท่านั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะเปิดการเจรจาต่อรองอย่างใด โดยยืนยันว่า การควบคุมที่เข้มงวดเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อแก้ปัญหาความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติของญี่ปุ่น

ขณะที่เครือข่ายสมาคมซูเปอร์มาร์เก็ตของเกาหลีใต้ออกโรง เรียกร้องให้ร้านค้าต่างๆ ยุติการจำหน่ายสินค้าญี่ปุ่น จนกว่าญี่ปุ่นจะออกมาขอโทษต่อเกาหลีใต้ รวมทั้งยกเลิกมาตรการจำกัดการส่งออกสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้ตกต่ำลง นับตั้งแต่ศาลสูงของเกาหลีใต้มีคำพิพากษาในปีที่แล้ว ให้บริษัทของญี่ปุ่นต้องจ่ายค่าชดเชยแก่คนงานเกาหลีใต้ที่ถูกบังคับใช้แรงงานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งญี่ปุ่นได้เข้ายึดคาบสมุทรเกาหลีในปี 1910-1945

จากบรรยากาศสงครามการค้า สู่สงครามเทคโนโลยี ที่มีความซับซ้อนกลับมาเป็นประเด็นตึงเครียดอีกครั้ง ถึงแม้ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้มีการพบปะกันนอกรอบการประชุมกลุ่ม G-20 ที่เมืองโอซากา เมื่อปลายเดือนมิถุนายน นำไปสู่การเปิดโอกาสให้เจรจาการค้ารอบใหม่ รวมถึงผู้นำสหรัฐได้ประกาศจะผ่อนคลายมาตรการขึ้นบัญชีดำต่อหัวเว่ยให้สามารถซื้อสินค้า และอุปกรณ์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของสหรัฐ

แต่ดูเหมือนว่าการเกิดปมขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีน ยังเป็นกระแสต่อเนื่อง โดยล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ได้สั่งการให้รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐ ทำการตรวจสอบตามคำร้องของผู้บริหารบริษัทเฟซบุ๊ก ที่กล่าวหาว่า กูเกิลมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีนว่ามีมูลความจริงหรือไม่

หลังจากที่ผู้บริหารเฟซบุ๊กได้กล่าวหากูเกิลทรยศชาติด้วยการปฏิเสธที่จะทำงานร่วมกับกองทัพสหรัฐ โดยเมื่อปีที่ผ่านมา กูเกิลได้ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับกระทรวงกลาโหมสหรัฐในการพัฒนา AI ซึ่งให้เหตุผลว่ากูเกิลไม่ต้องการให้ AI ถูกนำไปพัฒนาเป็นอาวุธ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0