ถือเป็นอีกหนึ่งสถิติที่น่าเหลือเชื่อสำหรับการโดนไล่ออกของ โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โดนประกาศปลดออกจากตำแหน่งกุนซือ “ปีศาจแดง” หลังจากทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ โดยเฉพาะเกมนัดล่าสุดที่บุกไปพ่าย ลิเวอร์พูล แบบไร้ทางสู้ด้วยสกอร์ 1-3
จากการโดนปลดดังกล่าวของ โชเซ่ มูรินโญ่ ส่งผลให้บอสใหญ่ ชาวโปรตุเกส วัย 55 ปี ทำสถิติโดนไล่ออกหลังจากพ่ายแพ้ให้กับเจอร์เกน คล็อปป์ เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งแบ่งเป็นช่วงเวลาได้ดังนี้
1. แพ้ ดอร์ทมุนด์ 1-4 (สมัยคุมทีม เรอัล มาดริด)
– ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 สมัยที่ โชเซ่ มูรินโญ่ คุมทัพ “ราชันชุดขาว” ได้บุกไปแพ้ให้กับ ดอร์ทมุนด์ ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ ที่สนาม เวสต์ฟาเล่น สตาดิโอน (ก่อนจะเปลี่ยนชื่อมาเป็น ซิกนัล อีดูน่า พาร์ค) ด้วยสกอร์ 1-4 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ (เลกแรก) แม้ว่า เลกสอง “น้ามู” จะพาทีมกลับมาชนะ “เสือเหลือง” ไปด้วยสกอร์ 2-0 แต่ก็ไม่ดีพอที่จะทำให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ส่งผลให้เดือนต่อมา เรอัล มาดริด ได้ตัดสินใจแยกทางกับ มูรินโญ่ ทันที
2. แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3 (สมัยคุมทีม เชลซี)
– ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ตุลาคม ปี 2015 เป็นช่วงเวลาที่ โชเซ่ มูรินโญ่ พาทีม เชลซี ทำผลงานได้อย่างตกต่ำทั้งๆที่ฤดูกาลก่อนหน้านั้นเพิ่งพา “สิงห์บลู” คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาได้สดๆร้อนๆ ซึ่งความพ่ายแพ้ของ มูรินโญ่ ที่มีต่อ เจอร์เกน คล็อปป์ คือการพาทีมปราชัยให้กับ “หงส์แดง” ไปด้วยสกอร์ 1-3 ส่งผลให้ เชลซี ในช่วงนั้นหล่นลงไปรั้งอันดับ 15 ของตาราง หลังจากลงเล่นมาทั้งหมด 11 นัด เก็บได้เพียง 11 คะแนน (ชนะ3 เสมอ2 แพ้6)
หลังจากความพ่ายแพ้ดังกล่าวผลงานของ เชลซี ยังคงไม่ค่อยสู้ดี และสะดุดพ่ายโดยเฉพาะเกมลีกไปอีกหลายนัดจนกระทั่งฟางเส้นสุดท้ายของ โรมัน อับราโมวิช จะขาดลงเมื่อ โชเซ่ มูรินโญ่ พาทีมบุกไปแพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยสกอร์ 1-2 ทำให้ช่วงเวลาดังกล่าว “สิงห์บลู” ต้องพบกับความปราชัยไปถึง 9 นัดจากการลงสนาม 16 เกมในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมกับหล่นไปรั้งอันดับ 16 ของตาราง (แต้มเหนือโซนตกชั้นเพียง 1 คะแนน) ก่อนที่ เชลซี จะประกาศปลด มูรินโญ่ ออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา
3. แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3 (คุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ล่าสุด)
– เป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาสดๆร้อนๆ สำหรับความปราชัยแบบสุดชอกช้ำของ “ปีศาจแดง” ที่บุกไปพ่ายทีมคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ ชนิดที่รูปเกม “หงส์แดง” เป็นฝ่ายเดินหน้าพับสนามไล่ยำ “ปีศาจแดง” แทบจะตลอด 90 นาที ซึ่งเกมดังกล่าว ลิเวอร์พูล มีโอกาสลุ้นพังประตูสูงถึง 36 ครั้ง กลับกัน แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นจบสกอร์เพียงแค่ 6 ครั้งเท่านั้น
จากความพ่ายแพ้แบบโงหัวไม่ขึ้นในศึก “แดงเดือด” ส่งผลให้สถานการณ์ของ โชเซ่ มูรินโญ่ เข้าขั้นวิกฤติ เมื่อทีมหล่นลงไปรั้งอันดับ 6 ของตาราง มีแต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล ที่ครองจ่าฝูงด้วยระยะห่างแบบหลุดโลกถึง 19 คะแนน(ลงเล่นเท่ากัน 17 นัด) แถมโอกาสลุ้นจบ ท็อปโฟร์ ยังเป็นเรื่องยากเมื่อมีคะแนนตามหลัง เชลซี อยู่ถึง 11 แต้ม
ซ้ำร้ายไปกว่านั้นสิ่งที่ทำให้สาวก “เร้ด อาร์มี่” ไม่พอใจสุดๆคือรูปแบบการทำทีมของ มูรินโญ่ ที่เน้นตั้งรับ แต่กลับไร้ความเหนียวแน่น นำมาสู่ความพ่ายแพ้จนโดนล้อแทบจะทั้งฤดูกาล หากนับเฉพาะเกมลีกในซีซั่นนี้โดนยิงไปแล้ว 29 ลูก มากกว่าฤดูกาลก่อนที่ลงสนามไปทั้งหมด 38 นัด โดนยิงรวมกันเพียงแค่ 28 ประตูเท่านั้น
