นครปฐม- รวบรองนายก อบต.ทัพหลวง,สารวัตรกำนัน พร้อมเงินสด โพย แจกเงิน พื้นที่เขต 2 นครปฐม ให้ผู้สมัครหมายเลข 8 เจ้าของเก้าอี้เก่า เบื้องต้นบ่ายเบี่ยงแต่จนด้วยคลิปหลักฐาน ขณะที่มีนักการเมืองท้องถิ่นขอเข้าเคลียร์ แต่ตำรวจไม่เล่นด้วย
เวลา 19.30 น.วานนี้ ( 23 มี.ค.) ที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม และหน่วยเฉพาะกิจและชาวบ้าน ได้ทำการช่วยกันจับกุม นายกำพล เพิ่มพูน รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทัพหลวง อ.เมืองนครปฐม และนายชาญ หอมโปร่ง สารวัตรกำนันตำบลทัพหลวง ทำการสอบสวน หลังจากถูกจับกุมพร้อมเงินสด และมีการบันทึกคลิปการแจกเงินหาเสียงช่วยผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่
โดยสารภาพว่า ได้ทำการนำเงินมาแจกจ่ายให้กับลูกบ้านในช่วงคืนสุดท้ายก่อนจะมีการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 24 มีนาคม โดยมี พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และพ.ต.ท. พีระเดช เจริญเดช ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครปฐม นำทีมเข้าทำการสอบสวน ด้วยตัวเองนายกว่า 8 ชั่วโมง
ทั้งนี้มีการแชร์ คลิปของนายกัมพล เพิ่มพูน รองนายกเทศมนตรีองค์การบริหารส่วนตำบลทัพหลวง ได้ถูกถ่ายพร้อมเงินสดจำนวนหนึ่งที่กำลังนำมาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านโดยได้บอกว่า ได้นำมาช่วยผู้สมัคร หมายเลข 8 ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ขณะกำลังลงพื้นที่ไปที่ หมู่ 15 ในตำบลทัพหลวง โดยชาวบ้านและเจ้าหน้าที่สามารถล็อกตัว พร้อมกับทำการสอบถามเบื้องต้นจนเจ้าตัวสารภาพก่อนจะให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาการสอบสวนเพื่อขยายผล
ส่วนอีกรายเป็นเวลาเดียวกัน ชุดเฉพาะกิจและชาวบ้านได้ร่วมกันควบคุมตัว นายชาญ หอมโปร่ง ตำแหน่งสารวัตรกำนันตำบลทัพหลวง ถูกจับกุมได้ พร้อมกับเงินสดและโพยสำหรับกระจายให้กับหัวคะแนน และอาวุธปืน 1 กระบอก ซึ่งบอกว่าได้รับเงินมาจาก นักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ตำบลทัพหลวง เช่นกัน โดยมีการบันทึกคลิปในพื้นที่ที่ออกจากแจกเงินๆได้ที่ ม.2 ต.ทัพหลวง และยอมรับสารภาพว่าได้นำเงินมาแจกให้กับชาวบ้าน จากผู้สมัครหมายเลข 8 เป็นรายเดียวกัน
จากการตรวจสอบ พบว่าผู้สมัครหมายเลข 8 คือ นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ ผู้สมัครจากพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย เจ้าของเก้าอี้ในพื้นที่เดิม ซึ่งทางเจ้าหน้าทีได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติมอย่างเคร่งเครียดหลังจากทั้งคู่ได้ให้การรับสารภาพ ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาผิดกฎหมายเลือกตั้ง และสรุปเรื่องส่งให้คณะกรรมการคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครปฐม เพื่อให้ทีมสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยในช่วงการสอบสวน ได้มีนักการเมืองท้องถิ่นได้เข้ามาเจรจาแต่ไม่เป็นผลซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
