โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

คลังการันตีมี 1 แสนล้านพยุงเศรษฐกิจ ฉุกเฉินเบิกเงินได้ทันที

ไทยรัฐออนไลน์ - Economics

อัพเดต 17 ก.พ. 2563 เวลา 00.13 น. • เผยแพร่ 17 ก.พ. 2563 เวลา 01.01 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

คลังแจงสี่เบี้ยยังมีงบกลางปีอีก 100,000 ล้านบาท ช่วยพยุงเศรษฐกิจ หลังเจอปัจจัยลบปั่นป่วน “ไวรัสโควิด-ภัยแล้ง-งบปี 63 ล่าช้า” แย้มงบประมาณปี 63 เบิกจ่ายได้อย่างช้าเดือนเม.ย.นี้ ขณะที่ สบน.เตรียมแนวทางกู้เงินเพิ่มเติมหากมีการลงทุนเพิ่ม

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณปี 2563 ที่ล่าช้า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 รวมถึงสถานการณ์ภัยแล้งจากปีที่ผ่านมา 

ดังนั้น เพื่อดูแลเศรษฐกิจในช่วงนี้หากกระทรวงการคลังมีมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ จะสามารถใช้งบกลางปี 2563 จำนวน 100,000 ล้านบาท ซึ่งกันไว้เฉพาะเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือจำเป็นจากงบกลางปี 2563 ที่มีอยู่ 400,000 ล้านบาท ออกมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนได้

“งบกลางปี 2563 จำนวน 100,000 ล้านบาท จะใช้ได้เฉพาะมาตรการที่ฉุกเฉินจำเป็นเท่านั้น อาทิ มาตรการเยียวยาและช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง รวมถึงถ้าหากมีมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ชิมช้อป ใช้ ระยะที่ 4 ที่ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ก็สามารถใช้เงินจากงบกลางได้ เพราะถือว่าเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแบบเร่งด่วน และงบกลางปี 2563 ยังสามารถเบิกจ่ายได้ถึงเดือน ก.ย.63”

ทั้งนี้ หากรัฐบาลต้องการจะเพิ่มการลงทุนในระบบเศรษฐกิจ รัฐบาลสามารถนำโครงการที่ถูกตีตกไปในงบประมาณ 2563 ที่ดูแล้วมีความน่าสนใจ หรือโครงการลงทุนในปี 2564 ที่มีความพร้อม นำมาลงทุนในปี 2563 ได้ โดยจะให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) พิจารณาถึงความเหมาะสม ในการก่อหนี้เพิ่มเติมเพื่อใช้ในโครงการลงทุนใหม่ ของรัฐบาล ควบคู่กับการเบิกจ่ายเงินลงทุนของรัฐบาล ซึ่งมีจำนวน 600,000 ล้านบาท

สำหรับงบประมาณปี 2563 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาทนั้น หลังจากผ่านการลงมติจากสภา ผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แล้วจะต้องเข้าสู่การพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ก่อนจะเสนอทูลเกล้าฯ ถวายพระมหากษัตริย์เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยก่อนประกาศใช้ ดังนั้น จึงคาดว่าเร็วที่สุดงบประมาณปี 2563 น่าจะสามารถเบิกจ่ายได้ภายในเดือน มี.ค.นี้ และช้าที่สุดคาดว่าจะเบิกจ่ายได้ภายในเดือน เม.ย.63

“ตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ฉบับใหม่ หน่วยงานราชการต่างๆ สามารถทำเรื่องจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงกำหนดขอบเขตและรายละเอียดของการจัดหาพัสดุ/งานจ้าง (TOR) หาผู้ที่ชนะในการประมูลงานภาครัฐและลงนามเซ็นสัญญาไว้ก่อนได้ เพียงแต่มีข้อยกเว้นว่าหากงบประมาณปี 2563 ไม่มีการเบิกจ่าย การลงนามในสัญญาจะต้องยกเลิกไป ในขณะที่ถ้างบปี 2563 เบิกจ่ายได้ หน่วยงานต่างๆก็สามารถดำเนินการตามโครงการ ได้ทันที”

ด้านนางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า ในเรื่องการกู้เงินเพื่อมาลงทุนเพิ่มเติมจากงบประมาณ 2563 นั้น ต้องพิจารณาถึงความพร้อมของโครงการก่อน โดยขณะนี้ สบน.กำลังพิจารณาว่ามีโครงการใดบ้างที่สามารถใช้กฎหมายของ สบน.กู้เงินเพื่อ มาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้

ทั้งนี้ สบน.สามารถกู้ถึง 10% ของงบประมาณรายจ่าย ซึ่งถ้าอิงงบประมาณ 2563 ที่กำหนดไว้ 3.2 ล้านล้านบาท จะสามารถกู้เงินได้สูงถึง 320,000 ล้านบาท แต่คิดว่าคงไม่มีโครงการใดที่จะใช้เงินถึงระดับดังกล่าว เพราะการกู้เงินกำหนดเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและต้องเป็นโครงการที่มีความพร้อมที่จะดำเนินการทันที

“สบน.กำลังเตรียมแนวทางในการกู้เงิน และแหล่งเงินไว้ รวมถึงกำลังพิจารณาดูว่ามีโครงการไหนที่จะสามารถกู้เงินดังกล่าวได้บ้าง หลังจากนั้น คงต้องให้รัฐบาลตัดสินใจว่าดำเนินการอย่างไร”.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0