โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ครูสาวลั่น ขอสู้เพื่อศักดิ์ศรี ถูกคำสั่งให้ออกจากครู จนสามีผูกคอตาย เตรียมร้อง 'นายก'

Khaosod

อัพเดต 15 ก.ย 2562 เวลา 10.21 น. • เผยแพร่ 15 ก.ย 2562 เวลา 10.05 น.
ครูศูนย์

ครูสาวลั่น ขอสู้เพื่อศักดิ์ศรี หลัง ถูกคำสั่งให้ออกจากครู จนสามีเครียดแทนผูกคอตาย เตรียมร้อง ‘นายก’ ช่วย เผยก่อนหน้านี้เคยบอกจะไปแขวนคอตายหน้ากระทรวงมหาดไทย แต่ก็ได้ห้ามไว้ ไๆม่คิดว่าจะมาก่อเหตุสลดอีก

ถูกคำสั่งให้ออกจากครู จากกรณี นายนิยม ภูผานม อายุ 43 ปี ช่างซ่อมรถจยย.เกิดความเครียดที่ นางปิยะวดี ภูผานม ครูผู้ดูแลเด็กศูนย์พัฒนาเด็กบ้านโนนศิลาเลิง ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ถูกสั่งให้ออกจากราชการโดยพลัน ทิ้งหนี้ 1.5 ล้านบาท และลูก 2 คนไว้เป็นภาระข้างหลัง ก่อนผูกคอเสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่นักวิชาการอิสระ ประธานเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น สมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ยื่นหนังสือยับยั้งต่อเลขานายกรัฐมนตรี และหลายหน่วยงานเร่งแก้ไขคำสั่ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว ผัวเครียดแทนเมีย โดนคำสั่ง ออกจากครู ตัดสินใจลาโลกสลด

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 15 ก.ย. ผู้สื่อข่าวติดติดตามบรรยากาศที่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 5 บ้านหนองคู ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของ นางปิยะวดี ซึ่งได้เคลื่อนศพมาประกอบพิธีฌาปนกิจตามประเพณีที่วัดประจำหมู่บ้านเมื่อวานนี้ โดยมีเพื่อนในวงการครูผู้ดูแลเด็ก และบุคคลในวงการครู ญาติพี่น้องร่วมงานจำนวนมาก บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

ในวันนี้หลังจากประกอบพิธีเก็บอัฐิ นายนิยม และถวายภัตตาหารพระภิกษุ พร้อมกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลแล้ว ยังมีญาติพี่น้อง เพื่อนครูศูนย์เด็ก อยู่เป็นเพื่อนปลอบใจ นางปิยะวดี ตลอดวัน โดยยังยืนยันที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับกลุ่มครูศูนย์เด็กทั่วประเทศจำนวน 98 คน ที่ตกอยู่ในสถานะให้ออกจากราชการโดยพลันต่อไป

นางปิยะวดี กล่าวว่า การตัดสินใจของสามีเกิดจากความเครียดสะสม ว่าถ้าตนถูกให้ออกจากครูศูนย์เด็กแล้ว ครอบครัวจะประสบปัญหาแน่นอน เนื่องจากภาระหนี้สินที่มีจำนวนมากถึง 1,500,000 บาท ที่หากตนยังได้รับราชการก็ยังจะมีเงินพอผ่อนทั้งต้นทั้งดอกเบี้ย แต่ถ้าหากตกงานแล้ว จะหาเงินที่ไหนมาผ่อนชำระหนี้ ลำพังรายได้จากการซ่อมรถจยย.และขายอะไหล่เล็กๆ น้อย ก็แค่พอประทังชีวิตและใช้จ่ายในครัวเรือนเท่านั้น กรณีที่ตนถูกคำสั่ง ว.33 ให้ออกจากราชการ ที่ได้นำมาปรับทุกข์ให้สามีฟังหลายครั้ง จึงเป็นความเครียดสะสม และเป็นสาเหตุให้ตัดสินใจผูกคอเสียชีวิตดังกล่าว

นางปิยะวดี กล่าวอีกว่า จากการที่ได้คำสั่ง ว.33 ดังกล่าว ไม่ใช่เพียงแต่สามีตนที่เครียดเท่านั้น จากการสอบถามเพื่อนในวงการครูศูนย์เด็ก ที่มีรายชื่อทั้ง 98 คน รวมทั้งคนในครอบครัวก็ตกอยู่ในอาการเครียด เช่นกัน หรือแม้แต่ตน ตอนนี้ที่สูญเสียสามีไป ก็เครียดจุกอกจนพูดไม่ออก ก็ได้แต่จุดธูปบอกวิญญาณสามีว่าจะต้องสู้ต่อไป จะอ่อนแอไม่ได้ ทั้งในฐานะที่เป็นทั้งพ่อและแม่ เลี้ยงลูก 2 คน และในฐานะครู ที่ต้องทำหน้าที่อบรมสั่งสอนเด็กให้มีความรู้ให้ดีที่สุด เพราะเราเป็นครูด้วยจิตวิญญาณ มีใบประกอบวิชาชีพ มีใบประกาศรับรองเอกครูประถมวัยถูกต้องครบทุกประการ เราจะสู้ต่อไป และเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมคืนกลับมาให้ครูศูนย์เด็กทั้ง 98 คน และเพื่อศักดิ์ศรีของครูศูนย์เด็กเล็กทั่วประเทศ

ด้าน นายสมคิด หอมเนตร นักวิชาการอิสระในฐานะประธานเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น สมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ กล่าวว่า ในวันที่ 17 ก.ย.นี้ ตนและตัวแทนครูผู้ดูแลเด็กที่เดือดร้อนจะเดินทางไปยื่นหนังถือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านทางเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการ 3 ก ประกอกบด้วย 1.กจ., 2.กท. และ 3.ก.อบต. รวมทั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้กำหนดมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาครูผู้ดูแลเด็ก 98 คนทั่วประเทศ ที่ถูกให้มีคำสั่งให้ออกจากราชการโดยพลัน เนื่องจากหนังเวียนฉบับ วันที่ 23 ส.ค.62 หรือที่เรียกว่าหนังสือ ว.33 นั้น เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะข้าราชการครูทั้งหมด 98 คน เข้ารับราชการครูผู้ดูแลเด็กตามการกำหนดมาตรฐานตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก พ.ศ.2553 ซึ่งคณะกรรมการ 3 ก. ให้การรับรองไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว แต่มาตรฐานกำหนดตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก พ.ศ.2558 กำหนดมาตรฐานผู้ดูแลเด็กใหม่นั้นเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติย้อนหลัง ซึ่งกระทบครูผู้ดูแลเด็กทั้ง 98 คน

นายสมคิด กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา คณะครูได้เคลื่อนไหวคัดค้านมาโดยตลอด มีการนำเข้าที่ประชุมคณะ 3 ก. ไม่ต่ำกว่า 9 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข โดยครั้งที่สำคัญเมื่อวันที่ 31 ต.ค.59 หรือที่เรียกว่า ว.35 ได้มีการกำหนดมาตรการเยี่ยวยาครูผู้ดูแลเด็กไว้อย่างชัดเจน แต่ในการประชุมครั้งที่ 6/2562 เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.62 คณะกรรมผู้ทรงคุณวุฒิคนหนึ่งกลับเสนอคัดค้านมาตรการเยียวยาครูผู้ดูแลเด็ก และเป็นที่น่าสังเกตว่าตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 หมวดที่ 1 ว่าด้วย อบจ.หมวดที่ 2 ว่าด้วยเทศบาล และหมวดที่ 3 ว่าด้วย อบต.กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการประชุมโดยตำแหน่ง

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

แต่ในการประชุมครั้งนั้นกลับมี นายบุญธรรม เลิศสุขขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานในที่ประชุม และอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นคือ นายสุธิพงษ์ จุนเจริญ เข้าร่วมประชุมด้วย และมีรองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นอีก 1 คนคือ นายสันติทร ยิ้มละไม เข้าร่วมประชุมชนอีกด้วย และมีมติออกหนังสือ ว.33 ให้ข้าราชการครูผู้ดูแลเด็กทั้ง 98 คน ออกโดยพลันดังกล่าว ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตอีกว่าหลังออกมติเรื่องเรืองนี้แล้ว นายสุทธิพงษ์ คณะรัฐมนตรีได้ย้ายไปเป็นอธิบดีกรมพัฒนาชุมชนที่เป็นขนาดเล็กกว่า

นายสมคิด กล่าวว่า สำหรับครูผู้ดูแลเด็กทั้งหมดนั้นหลังจากสอบเข้าบรรจุทุกคนได้ไปพัฒนาตนเอง ทั้งทุนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและทุนส่วนตัวไปเรียนประโยชน์วิชาชีพครูเพิ่มเติมทั้งหมด 98 คน ซึ่งเป็นคุณสมบัติเฉพาะสอดคล้องกับมาตาฐานตำแหน่งที่คณะกรรมการ 3 ก กำหนดไว้ และมีการศึกษาระดับปริญญาโททั้งหมดกว่า 80 คน จึงมีคุณสมบัติสมบูรณ์ทุกประการ

นายสมคิด กล่าวอีกว่า ในส่วนของ นางปิยะวดี ก่อนหน้านั้นเป็นครูอัตราจ้างที่ อบต.โนนศิลาเลิงตั้งแต่ปี 2550 จึงเกินระยะเวลา 3 ปี ที่คณะกรรมการ 3 ก.กำหนด และตลอดเวลาที่ทำงานก็ได้พัฒนาตนเองจนจบ ป.โท ด้านบริหารการศึกษา ซึ่งก็มีคุณสมบัติครบถ้วน แต่กลับมีรายชื่อในคำสั่ง ว.33 ที่จะต้องให้ออกโดยพลัน ซึ่งหากประธานคณะกรรมการ 3 ก. คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไม่พิจารณาทบทวนใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 31 จังหวัด ก็จะต้องนำรายชื่อครูเข้าที่ประชุม ก.จังหวัดให้ออกต่อไป

ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้นทำให้สามีของ นางปิยะวดี เกิดความเครียด ที่ภรรยาจากได้ถูกออกจากราชการ จึงตัดสินใจผูกคอตายเซ่นคำสั่ง ว.33 อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายนิยม เคยพูดกับภรรยาว่า หากไม่รับความเป็นธรรม และถูกให้ออกจากข้าราชการครูจะไปประท้วง โดยการแขวนคอตายที่หน้ากระทรวงมหาดไทย แต่ภรรยาห้ามไว้ แต่ก็ไม่นึกไม่ฝันว่าจะแขวนตายจริงๆ ดังนั้นจึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีคำสั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับเรื่องหนังสือ ว.33 เป็นกรณีเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหา ก่อนที่จะมีโศกนาฏกรรมเพิ่มขึ้นมาอีก หรือมีผู้ไปแขวนคอประท้วงกระทรวงมหาดไทยจริงๆ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0