จากกรณี ครูเพลงและศิลปินแห่งชาติชื่อดัง นายชลธี ธารทอง หรือ ครูชล ผู้เป็นสามีฟ้องหย่าภรรยาตัวเอง โดยมีการอ้างว่า เป็นเพราะเหตุทำร้ายร่างกายและใช้ถ้อยคำดูถูกถึงบุพการี รวมถึงประเด็นที่ว่าฝ่ายชายเตรียมแต่งงานกับสาวคนสนิทรุ่นหลาน สร้างความสงสัยให้เหล่าแฟนเพลงและบุคคลในวงการกันอย่างกว้างขวาง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่พิพิธภัณฑ์หุ้นขี้ผึ้งไทย จ.นครปฐม นางศศิวิมล ทองมา หรือ ครูปุ้ม ได้แถลงข่าวข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในแต่ละประเด็นทำนองว่า เรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าไปทำร้ายร่างกายครูชลนั้น ไม่เป็นความจริง แม้จะมีเรื่องทะเลาะกันจะมีอารมณ์ดึงกระชากกันบ้าง แต่ก็ไม่เคยทุบตีแต่อย่างใด *อีกทั้งฝ่ายครูชลมักจะเป็นฝ่ายทำร้ายร่างกายครูปุ้มมากกว่า ทางเรามีหลักฐานทั้งคลิปเสียงและรูปภาพ *
สำหรับต้นเหตุมาจากผู้หญิงคนนึง ไม่ขอตอบว่าใช่คนที่เป็นข่าวหรือไม่ เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากตุ๊กตาตัวหนึ่ง ตุ๊กตาตัวนี้เข้ามาในชีวิตเมื่อปี 60 โดยการแนะนำของดาราผู้ใหญ่ท่านนึงนำมาฝากเพื่อให้เป็นนักร้อง ที่จำวันได้เพราะจดไดอารี่เอาไว้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรบ้าง จนทราบความสัมพันธ์ระหว่างครูชลกับตุ๊กตาตัวนี้ถึงขั้นไหน มีหลักฐาน ทั้งไลน์ภาพและบุคคล ข้อมูลเหล่านี้จะไปปรากฏในศาล
"…ฝากบอกครูชลว่า ทุกข้อกล่าวหาที่ครูชลกล่าวหามา เรามีหลักฐาน เราไม่ได้ขู่ แต่ถ้าข้อมูลเหล่านี้เผยแผ่ไป ครูชลก็เตรียมรับไว้แล้วกัน และช่วยตอบคำถามว่าใครเป็นคนสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมา ส่วนที่ครูบอกว่าเคยขอหย่าเมื่อปี 57 นั้นไม่จริง เราไม่เคยมีปัญหากันเลย ยังไปออกรายด้วยกัน ดังนั้นที่ครูชลบอกว่ามีปัญหากันมา 3-4 ปีแล้ว ไม่ใช่แน่นอนส่วนที่เขาบอกว่าครูปุ้มไปด่าว่าถึงบุพการีนั้น บอกเลยว่า รับไม่ได้ ครูชลอย่าเอาเรื่องเท็จมาพูด แล้วอย่าเอาสถาบันความเป็นครูมาพูด ครูปุ้มไม่เคยประพฤติตัวเหลวไหล ถ้าครูปุ้มด่าพ่อด่าแม่ครูชล ครูชลกล้าสาบานไหม ครูปุ้มเป็นคนพยายามให้ครูชลหยุด เพื่อจะได้ไม่เสียไปมากกว่านี้ อยู่กันมา 28 ปี ครูชลหลอกใครครูชลหลอกได้แต่อย่าหลอกตัวเอง…" นางศศิวิมล กล่าว ก่อนเผยต่อไปว่า
หลังเกิดเรื่อง บุตรคนเล็กไม่โอเคกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาพยายามมาคุยกับเราและบอกว่าไม่คิดว่าพ่อจะทำแบบนี้ ส่วนเรื่องที่ครูชลเป็นแผลต้องบอกก่อนว่าครูชลมีปัญหาเรื่องเส้นเลือดฝอย แผลที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการทำร้ายร่างกายจากครูปุ้ม เรามีประวัติการรักษาของครูชล ซึ่งเป็นเหตุมาจากปัญหาผิวหนังผู้สูงอายุ สามารถพิสูจน์ได้ อีกประเด็นคือเรื่องของการกักขังครูชลไม่เป็นเรื่องจริง เรามีพยานเป็นบุคคลด้วย ที่บ้านถึงจะล็อกข้างนอกข้างในก็เปิดได้
"…วันนี้ถามว่าครูปุ้มยังรักครูชลมั้ย ครูปุ้มยังรัก แต่ไม่ได้รักในฐานะสามีภรรยา แต่รักในฐานะที่เขาเป็นคนที่คอยดูแลช่วยเหลือเรา และเป็นบุคลากรของชาติ สำหรับวันที่ 2 ก.ค. 62 เราคงไม่ไกล่เกลี่ย เราคงฟ้องกลับและไม่ใช่เรื่องการเรียกร้องค่าเลี้ยงดู เพราะเรื่องเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถ้าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะครูปุ้ม ครูชลไม่ต้องมาฟ้องหย่าหรอกให้ครูชลไปได้เลย แต่นี่เรื่องมันเกิดเพราะใครครูชลคงรู้…"
สุดท้ายกราบขอบคุณประชาชนทุกคนที่ให้ความสนใจ แต่ครูปุ้มคิดว่าหยุดคอมเม้นต์ตำหนิครูชล ขอให้เป็นหน้าที่ของครูปุ้มที่จะจัดการสะสางเรื่องนี้เอง ครูปุ้มจะทำให้ทุกอย่างกระจ่าง ฝากถึงครูชลช่วยแก้ข่าวเรื่องของการด่าบุพการี ครูคนนี้ไม่เคยทำผิดศีลธรรม รวมถึงเรื่องการทำร้ายร่างกาย วันนี้ที่ออกมาไม่ได้อยากดัง แต่อยากออกมาเคลียร์ตัวเองเพื่อศักดิ์ศรีของตัวเองและเพื่อลูกศิษย์ ถึงครูชลจะบอกว่าหมดรักครูปุ้มช่วยบอกด้วยว่าหมดรักเรื่องอะไร ครูปุ้มเลวเหรอ และที่เขาบอกว่าเป็นแค่ลูกศิษย์ไม่มีเรื่องชู้สาว ครูปุ้มขอไม่แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ อยากให้ไปดูในเฟซบุ๊กของเขาเอง ทุกคนมีพ่อแม่ เราไม่อยากไปแตะต้อง ถ้ามีลูกก็จะสอนเขาว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ไม่ใช่ว่าอยากได้แล้วไปแย่งมา ยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกระทบหน้าที่การงานของเรา เลยต้องกู้ชื่อเสียงคืน เพราะว่าไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น.
**ข่าวที่เกี่ยวข้อง
