โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ครั้งแรกของไทย "ประกันภัยลำไย" เพื่อเกษตรกรนำร่อง 24 อำเภอของเชียงใหม่

ไทยรัฐออนไลน์ - Economics

เผยแพร่ 20 ก.พ. 2562 เวลา 07.55 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

ธ.ก.ส. ร่วม คปภ. และเครือข่ายพันธมิตร เปิดประกันภัยลำไยครั้งแรกของประเทศ หวังสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเกษตรกร ลดความเสี่ยงจากปัญหาภัยแล้ง นำร่องในพื้นที่ 24 อำเภอของ จ.เชียงใหม่…

เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2562 ที่ห้องประชุมโรงแรมเมอร์เคียว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นางสาว วรรณภา ฤกษนันทน์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จังหวัดเชียงใหม่ นายเกตโกมล ไพรทวีพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาธุรกิจประกันภัย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คุณชญณา ศิริภิรมย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจาก บริษัท ซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และนายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่จากบริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์จำกัด (มหาชน) นายประสงค์ สังวาลย์ทอง ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเปิดตัวกรมธรรม์ประภันภัยพืชผลลำไยจากภัยแล้ง โดยใช้ดัชนีฝนแล้ง ตรวจผ่านดาวเทียม สำหรับรายย่อย (ไมโครอิน ชัวรันส์)

นายดำรงชัย เดชาธิคม ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนบน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ปัจจุบันสภาพภูมิอากาศของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงจากภาวะโลกร้อนในทุกภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยได้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงมากขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง อุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต ทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร การประกันภัยพืชผล จึงเป็นแนวทางหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อนจากการเกิดภัยพิบัติเพราะเกษตรกรสามารถนำเงินค่าชดเชยที่ได้รับจากการประกันภัยพืชผลไปลงทุนในรอบการเพาะปลูกใหม่ได้ โดยในปีการผลิต 2562 ธ.ก.ส. ร่วมกับ บริษัทซมโปะ ประกันภัยฯ และบริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ฯ จัดทำโครงการประกันภัยพืชผลลำไยจากภัยแล้ง โดยใช้ค่าดัชนีฝนแล้ง ตรวจวัดด้วยดาวเทียม เป็นเกณฑ์การประเมินความเสียหาย ทั้งนี้เพื่อให้เกษตรกรได้รับความคุ้มครองกรณีเกิดปัญหาภัยแล้งและสร้างความเสียหายต่อการผลิต ช่วยสร้างทางเลือกในการบริหาร

จัดการความเสี่ยง และเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยดำเนินการใน 24 อำเภอของ จ.เชียงใหม่ ได้แก่ อ.เมืองเชียงใหม่ จอมทอง แม่แจ่ม เชียงดาว ดอยสะเก็ด แม่แตง แม่ริม สะเมิง ฝาง แม่อาย พร้าว สันป่าตอง สันกำแพง สันทราย หางดง ฮอด ดอยเต่า อมก๋อย สารภี เวียงแหง ไชยปราการ แม่วาง แม่ออน และดอยหล่อ (ไม่รวม อ.กัลยาณิวัฒนา) เป้าหมายเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 500 ราย

สำหรับคุณสมบัติผู้เอาประกัน ต้องเป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส.ในพื้นที่ดำเนินงานการประกันภัยที่กู้เงินเพื่อปลูกลำไย กำหนดวงเงินในส่วนที่ขอเอาประกันภัยขั้นต่ำ 10,000 บาท แต่ไม่เกินจำนวนเงินกู้ที่กู้เพื่อเพาะปลูกลำไย อัตราค่าเบี้ยประกัน 2.99% ของวงเงินในส่วนที่ขอเอาประกันภัย (รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาในการวัดปริมาณน้ำฝนหรือระยะเวลาคุ้มครอง ตั้งแต่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2562 รวม 61 วัน

ทั้งนี้การวัดค่าปริมาณน้ำฝนในแต่ละวันตลอดระยะเวลาประกันภัย จะอ้างอิงข้อมูลจากระบบดาวเทียม GSMaP ผ่าน Website ของธ.ก.ส. กรณีเกิดภาวะฝนแล้งได้รับชดเชยในอัตราร้อยละ 9 ของวงเงินในส่วนที่ของเอาประกันภัย และกรณีภัยแล้งรุนแรงได้รับชดเชยร้อยละ 12 ของวงเงินในส่วนที่ขอเอาประกันภัย รวมอัตราค่าชดเชยไม่เกินร้อยละ 21 ของวงเงินในส่วนที่ขอเอาประกันภัย โดยเปิดรับประกันภัยแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 28 ก.พ.2562 ที่ ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่นำร่องดังกล่าว.

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0