เพื่อนร่วมโรงเรียนที่กำแพงเพชร ร่วมร้องเพลงส่งดวงวิญญาณ “น้องป้าย” วัย 17 ปี นักฟุตบอลช็อกคาสนามก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในพิธีฌาปนกิจศพ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าของครอบครัว
หลังจากที่เกิดเหตุนักฟุตบอลวัย 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนวังแขมวิทยาคม ม.5 ต.วังแขม อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ช็อกคาสนามฟุตบอลเสียชีวิต เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 8 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา โดยครอบครัวได้ตั้งศพสวดพระอภิธรรมที่บ้านจำนวน 3 คืน และได้ฌาปนกิจศพของน้องป้าย นายธนาการณ์ สิงห์รอ อายุ 17 ปี ในเวลา 15.00 น. ช่วงบ่ายของวันนี้ 12 ธ.ค. 62 ณ เมรุ วัดวังน้ำ ม.4 ต.วังอย่าง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ โดยมีพ่อแม่ ญาติครอบครัว คณะครู เพื่อนๆในชั้นเรียน เพื่อนนักฟุตบอลทั้งทีมของน้องป้ายเอง พร้อมทีมอื่นๆ มาร่วมงานมากมาย และยังมีชาวบ้านที่ทราบข่าวมาร่วมส่งร่างไร้วิญญาณของน้องป้ายกันเกือบพันคน
ภายในงานกลุ่มเพื่อนๆ ได้รวมตัวกันร้องเพลง “ฉันจะมีเธออยู่ ของศิลปิน สิงโต นำโชค” โดยใช้กีตาร์บรรเลงขับร้องกันเป็นกลุ่มส่งดวงวิญญาณของน้องป้าย เพื่อนอันเป็นที่รักที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ทำให้บรรยากาศในงานยิ่งเศร้ามากยิ่งขึ้น ขณะที่เพื่อนๆ ร่วมกันร้องเพลงนั้น ทุกคนในงานต่างกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ พากันร้องไห้ออกมากันทั้งงาน โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีลูกชายเพียงคนเดียวต้องมาสูญเสียลูกไปอย่างไม่มีวันกลับ
ในส่วนของพิธีฌาปนกิจศพน้องป้ายในวันนี้ ได้มีการรวบรวมเงินจากเพื่อนๆ คณะครู ชมรมฟุตบอลต่างๆที่รู้ข่าว ช่วยกันนำเงินซื้อลูกฟุตบอลบริจาคให้กับโรงเรียนบ้านวังน้ำในพื้นที่บ้านเกิดของน้องป้ายเพื่อสานต่อความตั้งใจในการรักกีฬาฟุตบอลต่อไป นอกจากนี้ยังนำเอาชุดกีฬาฟุตบอล และถ้วยรางวัลที่น้องป้ายไปแข่งขันมามอบให้กับโรงเรียนเพื่อนำไปเป็นอนุสรณ์ของนักกีฬาตัวอย่างของชุมชนในหมู่บ้านเพื่อให้น้องๆรุ่นต่อไปสานฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลที่เก่งต่อไป
เหตุหน้าสลดใจนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านเลขที่ 41/1 ม.4 ต.วังยาง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ไปพบนายประสิทธิ์ สิงห์รอ อายุ 46 ปี และ นางวาสนา สิงห์รอ อายุ 52 ปี ผู้เป็นพ่อและแม่ ของ นายธนาการณ์ สิงห์รอ หรือน้องป้าย อายุ 17 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนวังแขมวิทยาคม ม.5 ต.วังแขม อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร บรรยากาศกำลังเตรียมงานสวดอภิธรรมศพช่วงเย็น เป็นไปอย่างโศกเศร้าเสียใจ ญาติๆได้นำเอาเสื้อกีฬา รองเท้าเตะบอลของน้องป้ายออกมาแขวนบริเวณหน้าศพให้น้องเป็นครั้งสุดท้าย ผู้เป็นแม่ได้นำใบประกาศของลูกๆ ที่เคยไปแข่งฟุตบอลได้รับรางวัลมาให้ผู้สื่อข่าวได้ดูทั้งน้ำตา
นางวาสนา สิงห์รอ อายุ 52 ปี ผู้เป็นแม่ของน้องป้าย ได้เล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนสักประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆตนเองได้ให้สามีโทรศัพท์ไปหาลูกว่าแข่งฟุตบอลเสร็จหรือยังจะกลับตอนไหน เพื่อนของลูกชายรับสายบอกว่าป้ายมีอาการน็อกเข้าโรงพยาบาล ตนเองก็รีบออกไปดูลูกทันที ซึ่งลูกชายได้ออกไปแข่งบอลกับเพื่อนๆตั้งแต่ช่วงเช้ายันเย็นจนค่ำ ก็ไม่คิดว่าลูกของตนเองจะเกิดเหตุดังกล่าว ที่สำคัญลูกของตนนั้นชอบออกกำลังกายเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียน ชอบไปแข่งบอลกับเพื่อนๆ และลูกตนเองที่ผ่านมาไม่มีโรคประจำตัวด้วย คงไม่หน้าจะมีเหตุร้ายอะไร อีกอย่างไม่มีลางบอกเหตุอะไรใดๆ เมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็พบว่าลูกของตนเองนั้นเสียชีวิตแล้ว ตนเองและครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะน้องป้ายเป็นลูกชายคนเดียว ที่ผ่านมาเป็นเด็กดีไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตั้งใจเรียนและชอบเตะฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ
ด้าน นายประสิทธิ์ สิงห์รอ อายุ 46 ปี ผู้เป็นพ่อ บอกว่าลูกชายชอบการเตะฟุตบอลมาก บางครั้งเห็นว่าไปแตะแต่บอลอย่างเดียว เคยห้ามว่าเบาๆบ้างนะลูกเอาแต่พอดี ก็ไม่ค่อยฟังใช้เวลาส่วนใหญ่กับการไปแตะฟุตบอล กลับมาจากโรงเรียนเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ออกไปแตะบอลกับเพื่อนทันทีทุกเย็น ถึงขั้นบางครั้งก็แอบไปเตะฟุตบอลกับเพื่อนก็มี เมื่อทราบเหตุตนเองก็พาภรรยารีบออกไปดูลูกที่โรงพยาบาลทันที ขณะนั้นหมอกำลังปั้มหัวใจ แต่ก็ไม่สำเร็จ น้องป้ายจากไปอย่างสงบ โดยตนเองนั้นก็เสียใจเป็นอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ดังกล่าว แพทย์ก็บอกว่าช่วยไม่ไหว โดยเกิดจากเป็นตะคริว และหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันโดยอาจจะเกิดจากอากาศที่หนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่องและร่างการหักโหมจากการออกกำลังกายหนัก
ขณะที่ นายกฤษฎา มาลา (น้องปลื้ม) อายุ 18 ปี เพื่อนรุ่นพี่ชั้น ม.6 ของน้องป้าย ชาวบ้าน ม.2 ต.วังแขม อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ได้เล่าให้ฟังว่าตนเองและเพื่อนๆรวมทั้งน้องป้ายและครูฝึกที่พาไป ได้ไปแข่งฟุตบอล 7 คน ที่บ้านวังชะโอน ต.วังชะโอน อ.บึงสามัคคี จ.กำแพงเพชร ตั้งแต่เช้ายันเย็น ในช่วงกลางวันของวันเกิดเหตุแมตท์แรกได้รับรางวัลชนะเลิศจนได้ถ้วยมาแล้ว และช่วงค่ำก็จะพากันไปแข่งต่อที่ในงานประจำปีของ ต.ป่าพุทรา อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ต่อ เพราะมีการแข่งฟุตบอล 5 คน สนามหญ้าเทียมภายในงาน น้องป้ายได้ลงแข่งทุกแมตช์ ตลอดทั้งวัน
เพื่อนรุ่นพี่ชั้น ม.6 ของน้องป้าย กล่าวต่อว่า ในช่วงการแข่งขันนั้นเป็นช่วงเวลา 21.00 น. ของวันเกิดเหตุ มีอากาศที่หนาวเย็นลงมาก จึงทำให้น้องป้ายเป็นตะคริวที่ขาและล้มลงไป หลังจากนั้นก็ได้มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นใหม่ ขณะที่ข้างสนามก็ได้มีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น น้องป้ายยังมีสติดีอยู่ตนเองได้ถามว่าไหวไหม น้องป้ายก็พยักหน้าว่าไหว แต่อาการตะคริวก็ไม่ดีขึ้นสักพักตะคริวก็ขึ้นท้อง ตาน้องป้ายค้างและมีอาการชักเกรง ผู้ช่วยโค้ชและเพื่อนๆ ทุกคนพยายามรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลในพื้นที่ทันที หลังจากนั้นก็ให้เพื่อนผู้หญิงโทรบอกพ่อแม่น้องป้ายทันที สักเวลาประมาณ 5 ทุ่ม หมอก็ออกมาบอกว่าน้องป้ายเสียชีวิตแล้ว
เช่นเดียวกับ นายพาสุ งามวงษ์ หรือ ครูเบนช์ อายุ 25 ปี ชาวบ้าน ม.13 ต.วังแขม อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร กลุ่มครูพี่เลี้ยงที่พาเด็กๆไปแข่ง กล่าวว่า ตลอดทั้งวันก็ไม่มีอาการผิดปกติอะไรกับน้องป้ายให้เห็นเลย แต่ช่วงการแข่งขันรอบดึกอากาศเย็นมาก ทำให้เกิดตะคริวกับน้องป้ายหลังจากที่น้องล้มลงก็ได้พากันมาปฐมพยาบาลข้างสนามแล้วถามว่าเป็นไงไหวไหม น้องป้ายยังพยักหน้าว่าไหวๆ แล้วตนเองก็บอกไปโรงพยาบาลนะ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น ทันใดนั่นก็มีอากาศชักเกรงตาค้างตามมา จึงรีบพากันส่งโรงพยาบาลทันที
ส่วน นางสาวจุฑาทิพย์ ขวัญเพ็ง อายุ 41 ปี เป็น อส.ตร.คุมงานในพื้นที่ กล่าวว่า เหตุเกิดขณะที่มีการแข่งขันกันคู่สุดท้ายแล้ว เห็นน้องป้ายล้มลงไปในสนาม หลังจากนั้นก็พากันมาปฐมพยาบาลขอบสนาม ก็มีอาการชักเกรง โดยมีทีมเพื่อนๆ และโค้ชกำลังดูอาการเบื้องต้นอยู่ และพากันนำขึ้นรถไปส่งโรงพยาบาล ขณะนั้นก็ช่วยกันปั้มหัวใจไปบนรถดูๆ เหมือนจะเป็นตะคริวที่ขาแต่ไม่คิดว่าจะเป็นหนักขนาดนี้ เพราะตอนแรกๆยังมีสติดีอยู่.
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- พ่อแม่ทำใจไม่ได้ ลูกวัย 17 ช็อกดับ แข่งบอลทั้งวัน ตะคริวกินขา ชักเกร็ง
- 'ท่านผู้หญิงจงกล'ถึงแก่อนิจกรรม
- ตูบกัดหัวป้า หลังเดินมาขอเงิน คนดูแลวอนเห็นใจ หมาถูกเจ้าของตัวจริงทิ้ง
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath
