ครม.อนุมัติแพคเกจกระตุ้นท่องเที่ยวปลายปี จัดกิจกรรมไทยแลนด์แกรนด์เซลล์ เพิ่มจุดคืนแวตนักท่องเที่ยวตามห้างสรรพสินค้าและสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมผ่อนปรนวีซ่า 3 ประเภท หวังรักษายอดนักท่องเที่ยวตามเป้า 38 ล้านคน สร้างรายได้ 2 ล้านล้านบาท
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ระบุ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยในช่วงต้นฤดูกาลท่องเที่ยว ด้วยการจัดกิจกรรม Amazing Thailand Grand Sale "Passport Privileges" ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2561-15 มกราคม 2562 โดยร่วมกับพันธมิตร ทั้งผู้ผลิตสินค้า เจ้าของแบรนด์สินค้าชั้นนำ ศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ และบัตรเครดิต จัดโปรโมชั่นพิเศษกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว
โดยในปีนี้ยังกำหนดให้เพิ่มส่วนลดแบบออนท็อป หรือให้สิทธิพิเศษจากปกติที่ศูนย์การค้าให้กับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่นักท่องเที่ยวต้องโชว์พาสปอร์ตในช่วงที่จัดโครงการ เพื่อให้ได้รับสิทธิพิเศษด้วยการส่งเสริมการจัดโปรโมชั่นลดราคา สำหรับสินค้าที่นักท่องเที่ยวนิยม เช่น เสื้อผ้า เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า และแบรนด์ต่างๆ อีกทั้งยังส่งเสริมการจัดกิจกรรมช็อปปิ้งในศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้าที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และใช้พาสปอร์ตพริวิเลจ ณ ร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมกิจกรรม
ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ยังร่วมกับกระทรวงการคลัง ขอเปิดให้บริการพื้นที่พิเศษเพิ่มเติมให้กับนักท่องเที่ยวในการคืนภาษี หรือ VAT Refund ในย่านแหล่งท่องเที่ยว หรือห้างสรรพสินค้า และเพิ่มช่องทางพิเศษ ที่สนามบินนานาชาติ ให้นักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้า จิวเวอรี่ และอัญมณี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่มาซื้อสินค้าและขอคืนภาษีในประเทศได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยการเพิ่มจุดคืนภาษีชั่วคราวในครั้งนี้
นอกจากนี้คณะรัฐมนตรียังเห็นชอบหลักการให้มีการทบทวนและผ่อนปรนวีซ่า 3 ชนิด การปรับปรุงการให้วีซ่าทั้ง 3 ชนิดนั้น จะทดลองใช้เป็นเวลา 2 เดือนก่อน ส่วนระยะเวลาการเริ่มต้น กระทรวงท่องเที่ยวฯ จะพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสม และรายละเอียดการดำเนินงานอีกครั้ง
คาดว่าจากการออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในครั้งนี้จะช่วยรักษาจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางมายังประเทศไทยได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ 38 ล้านคน และสร้างรายได้เข้าประเทศประมาณ 2 ล้านล้านบาท
สำหรับวีซ่า 3 ชนิด ได้แก่ 1.การเพิ่มความถี่ของการเดินทาง สำหรับหนังสือเดินทางที่ขอรับการตรวจลงตราแบบสามารถเดินทางได้ครั้งเดียว (Single Entry Visa) ณ สถานทูตหรือสถานกงสุลไทย จากเดิมที่สามารถเดินทางได้ 1 ครั้ง เป็นสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ 2 ครั้ง (Double Entries Visa) ภายใน 6 เดือน โดยคิดค่าธรรมเนียมอัตราเดิม คือคนละ 1,000 บาทโดยกำหนดระยะเวลาการขอรับการตรวจลงตราที่สถานทูตเป็นระยะเวลา 2 เดือน
2.วีซ่าประเภทการให้อนุญาตกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก (Re-Entry Permit) แบบอนุญาตครั้งเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีวีซ่าอยู่แล้ว โดยอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านสามารถกลับเข้ามาในไทยได้โดยไม่ต้องขออนุญาตอีกครั้ง และสามารถรักษาสิทธิ์การอยู่ในประเทศไทยตามระยะเวลาคงเหลือที่กำหนดในวีซ่าเดิม
และ 3.การแก้ไขหลักการกฎกระทรวงมหาดไทยในการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ได้รับสิทธิยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวเป็นระยะเวลา 30 วัน ซึ่งจะเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านทางช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือด่านพรมแดนที่เป็นเขตติดต่อกับพรมแดนทางบก สามารถเข้ามาในประเทศไทยด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปีปฏิทิน โดยเป็นการขยายจากเดิมกำหนดไว้ให้เข้ามาได้ปีละไม่เกิน2ครั้ง ก็ให้ยกเว้นเป็นไม่จำกัดจำนวน
ทั้งนี้การเดินทางผ่านด่านพรมแดนทางบกของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จากฐานข้อมูลกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ในปี 2560 มีจำนวนเกือบ 5 ล้านคน ขยายตัว 3.0% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2559
