โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

คมนาคมสั่งรวมตัวเลขเงินเยียวยาผู้ประกอบการขนส่งทุกระบบ

ไทยโพสต์

อัพเดต 03 มิ.ย. 2563 เวลา 13.32 น. • เผยแพร่ 03 มิ.ย. 2563 เวลา 13.32 น. • ไทยโพสต์

3 มิ.ย. 2563 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้หน่วยงานในสังกัดได้นำเสนอกรอบวงเงินตามมาตรการ ที่เข้าข่ายลักษณะแผนงานโครงการตามบัญชีแนบท้าย พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 แล้ว แต่ขณะนี้ยังส่งมาไม่ครบทุกหน่วยงาน รวมทั้งได้สั่งการให้มีการปรับปรุงตัวเลขให้มีความถูกต้องสมบูรณ์มากที่สุด โดยให้เสนอมาที่กระทรวงคมนาคมพิจารณาในวันที่ 10 มิถุนายน 2563 โดยภายหลังกระทรวงคมนาคม พิจารณาถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะสรุปเสนอข้อมูลทั้งหมดไปที่สภาพัฒน์ และเมื่อผ่านการพิจารณา ก็จะนำเสนอเพื่อขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีต่อไป “ย้ำว่าการจัดทำตัวเลขที่เสนอมา ให้ครอบคลุมการเยียวยาผู้ประกอบการขนส่ง ทุกประเภท ตัวเลขต้องถูกต้องสอดคล้องกับช่วงเวลาที่ได้รับผลกระทบจริง และให้ยึดแนวทางการได้รับเยียวยา ในลักษณะเท่ากับต้นทุน ไม่บวกผลกำไร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ถูกต้องในการใช้งบประมาณมากที่สุด ส่วนเรื่องที่ผู้ประกอบการ จะไปปรับตัวให้การดำเนินธุรกิจกลับมามีกำไรได้นั้น คงเป็นเรื่องของอนาคต”นายศักดิ์สยามกล่าว อย่างไรก็ตามในสัปดาห์หน้า กระทรวงคมนาคมเตรียมที่จะลงนามร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร โดยเฉพาะชาวสวนยาง ซึ่งสามารถดำเนินการให้สอดคล้อง กับการผลักดันโครงการ จัดทำแผ่นยางพาราหุ้มแบริเออร์ ที่กระทรวงคมนาคม ได้เคยมอบหมายให้กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบทไปดำเนินการ ซึ่งโครงการความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรฯ นี้ จะเป็นการช่วยเหลือเยียวยาชาวสวนยางโดยตรง รวมทั้งสอดคล้องกับนโยบายนายกรัฐมนตรี ในการเพิ่มการใช้ยางพาราในประเทศมากกว่า 1 ล้านตันใน 3 ปี รวมถึงการพัฒนาเส้นทางถนนที่ปลอดภัย บนต้นทุนงบประมาณที่ถูกลง เมื่อเทียบกับการก่อสร้างเกาะกลางถนนแบริเออร์แบบเดิม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเยียวยาผู้ประกอบการภาคขนส่ง ขณะนี้มีกรอบวงเงิน 7,697 ล้านบาท เช่น กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) วงเงิน 4,773 ล้านบาท เป็นเงินช่วยเหลือชดเชยผู้ประกอบการรถโดยสาร ที่เดินเที่ยววิ่งในที่นั่ง30% ของจำนวนที่นั่งรวม และคิดราคาค่าโดยสารที่ต้องใช้มาตรการเว้นระยะห่างของเดือน พ.ค.-ก.ค.2563 2.องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) วงเงิน 614 ล้านบาท เป็นเงินสนับสนุนจากกรณีที่รายได้ค่าโดยสารลดลง,บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) รวม 800 ล้านบาท เป็นการชดเชยรายได้ค่าโดยสาร และรายได้ค่าชนส่งพัสดุภัณฑ์ ,การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) วงเงิน 627 ล้านบาท เป็นเงินชดเชยรายได้ที่ขาดหายไปจากการงดเดินขบวนรถโดยสารเชิงพาณิชย์ เดือน เม.ย.-มิ.ย.2563 เป็นต้น 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0