เคลื่อนศพ นาธาน ทำพิธีฝั่งตามหลักศาสนา อดีตผจก.เผย มั่นใจกลับเนื้อกลับตัวแล้ว ด้าน ดร.ไพบูลย์ เผย นาธาน เคยบอก เวรกรรมตามทันแล้ว…
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ นายนาธาน โอมาน อดีตศิลปินชื่อดังได้เสียชีวิตในวันนี้ เมื่อเวลา 09.35 น. หลังเข้ารับการรักษาตัวเนื่องจากอาการป่วยด้วยโรคโลหิตจาง ด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ทางครอบครัวและญาติก็ได้นำศพ นายนาธาน มาทำพิธีละหมาดญะนาซะ หรือพิธีศพ ตามหลักของศาสนาอิสลาม ที่มัสยิดอัลอิสติกอมะห์ เขตทุ่งครุ เป็นไปอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางญาติพี่น้องและบุคคลใกล้ชิดที่เดินทางมา ร่วมไว้อาลัยแก่การจากไปของ นายนาธาน เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะนำ ร่างไปทำพิธีฝังที่กุโบร์ ซึ่งอยู่ด้านหลังมัสยิด
ดร.ไพบูลย์ บุตรเลียบ ผู้ใกล้ชิดซึ่งเป็นหัวหน้าของ นายนาธาน เล่าว่า ตนได้ทราบอาการป่วยของ นายนาธาน มาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้นายนาธานได้เข้าไปตรวจร่างกายในช่วงที่กำลังมีโควิดระบาด แต่ผลก็ไม่พบเชื้อ ซึ่งทางโรงพยาบาลแจ้งว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ ก่อนจะเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมุทรสาครอีกครั้ง หลังอาการทรุดลง แพทย์แจ้งว่าเป็นโรคโลหิตจาง จากนั้นก็เข้ารพ.อีกครั้งเมื่อ 2-3 วันก่อน ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมานั้นได้ไลน์มาบอกกับตนว่า “เหนื่อย” ซึ่งตอนนั้นก็มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลซึ่งก็เล่าว่า นายนาธาน นอนร้องไห้อยู่ ต่อมาตอนเช้า ทางแพทย์ ได้แจ้งว่าให้ตามญาติ เนื่องจากจะมีการตัดสินใจที่สำคัญ จากนั้น นายนาธาน จึงเสียชีวิต
ดร.ไพบูลย์ กล่าวต่ออีกว่า ได้รู้จักกับนายนาธานประมาณ 8 ปีที่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมา นายนาธาน เป็นคนที่แข็งแรงมาก โดยได้เคยกล่าวกับ นายนาธาน ว่าถ้าจะมาทำงานอยู่ด้วยกัน ต้องพูดความจริง ซึ่ง นายนาธาน ก็พูดความจริงมาโดยตลอด เพราะจนรู้สึกได้ และช่วงระยะหลังใน 3-4 ปีที่ผ่านมา นายนาธาน ก็ไปรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมอยู่ 1 คน ที่จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากนาธาน มีความรู้สึกที่อยากจะทำความดี ทำให้ตนรู้สึกว่า นายนาธาน เปลี่ยนเป็นคนปกติได้ในสังคม แต่ก็อาจจะมีช่วงเวลาที่น้อยไปสักนิดที่จะตอบแทนสังคม ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 90 วันที่แล้ว นายนาธาน ได้เคยมาบอกกับตนว่า เวรกรรมตามทันแล้ว พร้อมกับร้องไห้ คล้ายกับเป็นลางบอกเหตุว่าหาก ไม่อยู่แล้วจะขออโหสิกรรมให้กับคนโน้นคนนี้ด้วย
นายอนุชา ลังประเสริฐ อดีตผู้จัดการของ นายนาธาน ที่มีเดินทางมาร่วมพิธีศพ เผยว่า ก่อนหน้านี้มีทีมงานภาพยนตร์จากต่างประเทศได้ติดต่อเข้ามา เพื่อสอบถาม และขออนุญาตทำภาพยนตร์เกี่ยวกับประวัติของ นายนาธาน ซึ่งตนก็บอกว่าจะต้องขออนุญาตเจ้าตัวก่อน โดยเป็นเพียงการพูดคุย กันก่อนในเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวก็มีความสนใจ เนื่องจากเรื่องนี้เคยมีการพูดถึงมาตั้งแต่ที่ นายนาธาน เป็นข่าวใหม่ๆ ทำให้มีคนติดต่อเข้ามามากแต่ชั่วโมงนั้นก็ไม่มีใครกล้าเสี่ยงที่จะทำ ซึ่งในเรื่องก็อาจจะมีหลากหลายมุมที่หลายคนไม่รู้ คืออุทาหรณ์ของวงการบันเทิงไทย ที่ทำให้เกิดการบานปลายไปในหลายมิติ จึงต้องการที่จะทำออกมาเพื่อสอนหลายคน และเจ้าตัวเองก็เปิดให้ ทำภาพยนตร์ได้ทุกมุมมอง
ทั้งนี้ นายอนุชา บอกต่ออีกว่า นายนาธานกลับเนื้อกลับตัวแล้วในช่วงหลังที่ผ่านมา โดยได้ไปทำงานในธุรกิจของตนเอง ช่วงหลังก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกัน แต่ก็มีการติดต่อพูดคุยกันอยู่เรื่อยๆ ไม่ได้ทะเลาะ กันอย่างที่ได้หลายคนคิด วันนี้อยากจะบอกว่าเจ้าตัวไปสบายแล้ว กลับไปสู่ความเมตตาของพระเจ้า คนเรามีทั้งความดีและไม่ดี สุดท้ายจะเป็นการตัดสินของพระเจ้า ว่าจะไปอยู่ตรงจุดไหนในโลกหน้า.
