โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

คนส่วนใหญ่หนุนผ่อนปรนล็อกดาวน์ ยังกังวลออกนอกบ้าน หวั่นโควิดระบาด รอบ 2

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 04 มิ.ย. 2563 เวลา 12.45 น. • เผยแพร่ 04 มิ.ย. 2563 เวลา 12.40 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

ผลสำรวจพบคนส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลผ่อนปรนการเปิดกิจการ แต่กว่า 50% ยังกังวลการออกนอกบ้าน หวั่นโควิด ระบาดรอบ 2 ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมโรค เปรียบโควิด เป็นซีรีส์ยาวไม่ต่ำกว่า 1 ปี จี้ทุกภาคส่วนรับมืออย่างรอบคอบ

ผศ.ดร.ปิยวัฒน์ เกตุวงศา หัวหน้าศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (TPAK) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ ในช่วงเดือนเมษายน–พฤษภาคม 2563 จำนวน 3,127 ราย ที่มีต่อการเปิดเมืองหรือการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ให้กิจการและกิจกรรมต่างๆ กลับมาดำเนินการ โดยประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลผ่อนปรนให้เปิดกิจการให้มากยิ่งขึ้น แต่ยังมีข้อกังวลในประเด็นสำคัญ 1. เมื่อผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และมีการเดินทางเคลื่อนย้ายของคนจำนวนมาก อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 อีกครั้ง 51.1% 2. การแพร่ระบาดของโรคอาจเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง 43.8% 3. ไม่มั่นใจมาตรการป้องกันโรคของสถานประกอบการต่างๆ ว่ามีความปลอดภัยเพียงพอ 34.1% 4. ความยากลำบากในการหางานใหม่หรืออาชีพใหม่ 23.7% 5. ขาดความรู้ที่เพียงพอต่อการป้องกันตนเอง 19.5% และ 6. การขาดข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่หรือจุดที่ปลอดภัย 13.7%

สำหรับการเตรียมตัวของสถานประกอบการและสถานที่ทำงานประเภทต่างๆ พบว่า 1. จัดให้มีเจลหรือแอลกอฮอล์ล้างมือเพื่อฆ่าเชื้อโรค 76.1% 2. ให้พนักงานหรือผู้มารับบริการนั่งโต๊ะเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1–2 เมตร 64.8% 3. พนักงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา 64.7% 4. มีจุดตรวจวัดอุณหภูมิ 57.4% 5. ลดความหนาแน่นของผู้มารับบริการหรือคนทำงาน 56% และ 6. ทำความสะอาดโต๊ะ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยแอลกอฮอล์ทุกครั้งที่มีคนหมุนเวียน 51% ทั้งนี้ พบว่าผู้ใช้บริการต้องการให้สถานประกอบการจัดมาตรการต่างๆ อย่างเข้มข้น เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการได้

นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า แม้สถานการณ์ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด–19 รายใหม่ในบางวันเป็นจะเป็นศูนย์ แต่อาจจะมีผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการแฝงอยู่ ถึงแม้จะไม่มากแต่ก็มีโอกาสที่จะแพร่เชื้อได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นการ์ดอย่าตก ด้วยการปฏิบัติตามหลักการสำคัญ 5 ข้อในการควบคุมโรค คือ 1. การทำความสะอาดพื้นที่และจุดสัมผัส 2. สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า 3. ล้างมือบ่อยๆ 4. เว้นระยะห่าง และ 5. ลดความแออัด ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้คือ ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ที่ผู้ประกอบการต้องดำเนินการตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนดอย่างเข้มข้น ในขณะที่ประชาชนต้องปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด การ์ดอย่าตก เพื่อที่จะอยู่กับโควิด–19 ให้ได้ และเศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ด้วย

ด้าน นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมโรคระบาด กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด–19 ส่งผลให้ประเทศส่วนใหญ่เกือบทั่วโลกใช้มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด แต่เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้ทุกประเทศพยายามหาทางที่จะหลุดออกจากปัญหา รวมทั้งประเทศไทยที่ใช้มาตรการกึ่งล็อกดาวน์ มีคนตกงานมากกว่า 10 ล้านคน หนี้สินเพิ่มขึ้น และธุรกิจขาดสภาพคล่อง โดยเริ่มให้ผู้ประกอบการกลับมาดำเนินกิจกรรมและกิจกรรมเพื่อเปิดเมืองด้วยการใช้มาตรการควบคุม หรือการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ 4 ระยะ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม–มิถุนายน 2563

“ถ้ามองในด้านสุขภาพ โควิดไม่ใช่ภาพยนตร์หรือหนังสั้น แต่เป็นซีรีส์เรื่องยาวอย่างน้อย 1 ปี และจะจบได้ก็ต่อเมื่อมียารักษา มีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ หรือเกิดการติดเชื้อธรรมชาติประมาณ 60% ซึ่งจะทำให้เกิดภูมิต้านทาน พยายามให้การแพร่เชื้ออยู่ในระดับต่ำในบางกลุ่ม หรือบางพื้นที่ แต่สามารถควบคุมได้ ซึ่งผู้เขียนบท ผู้กำกับการแสดง และนักแสดงเรื่องโควิด คือคนไทยทั้ง 68 ล้านคนว่าอยากเห็นประเทศเป็นอย่างไร มีฉาก มีตอนที่ต้องกำกับให้ดี เช่น คนไทยที่เดินทางกลับเข้าประเทศ ฤดูกาลไข้หวัดใหญ่ช่วงเดือนมิถุนายน–กันยายน การผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ระยะที่ 4 ซึ่งเป็นกิจการและกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สถานบันเทิง สนามพนัน รวมถึงการเปิดภาคเรียน เปิดการท่องเที่ยวที่ทำให้ผู้คนมาเจอกันมากขึ้น" นพ.คำนวณ กล่าว

พร้อมย้ำว่าต้องวางแผนรับมือให้ดี โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างและใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ New Normal และเมื่อผ่านวิกฤตินี้ไปได้ สังคมไทยจะเข้มแข็ง ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0