วันที่ 18 ตุลาคม 2562 ที่จังหวัดยโสธร หลังเกิดอุทกภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ ส่งผลให้นาข้าวเน่าเสียหายกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ ใน 9 อำเภอ ที่เกิดความเสียหาย ทำให้ข้าวสารเหนียว ข้าวสารจ้าว จากภูมิภาคในจังหวัดต่างๆ ฉวยโอกาสส่งมาขายในจังหวัดยโสธร ปรับตัวขึ้นราคาเอาเปรียบประชาชน จนพากันเดือดร้อนอย่างหนัก จะเห็นได้ว่าตามห้างร้านค้าย่อย นำมาวางขายในราคาสูงลิ่วอย่างไม่เคยมีมาก่อน
นายวิชัย บันลือหาญ เจ้าของร้านขายข้าวสารเหนียว ข้าวสารจ้าว หน้าตลาดสดเทศบาลเมือง ยโสธร กล่าวว่า หลังจากการน้ำท่วมมีผลกระทบแน่นอน เพราะส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วมหมด เหลือเพียงเล็กน้อย ราคาข้าวสารสูงขึ้นแน่นอน เดี๋ยวนี้ข้าวใหม่ที่นำมาขายส่วนใหญ่นำมาจากภาคเหนือและจังหวัดใกล้เคียงที่ไม่เกิดน้ำท่วม เนื่องจากข้าวในจังหวัดยโสธรแทบจะไม่มีขายเลย จะเห็นได้ว่าเดี๋ยวนี้ลูกค้าที่มารับซื้อข้าวสารส่วนใหญ่มาหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วม แต่ละคนจะซื้อไปเป็นกระสอบ สำหรับประชาชนชาวคุ้มชุมชนเมือง จะซื้อกันคนละเป็นกิโลกรัม
นายวิชัย ยังได้บอกอีกว่า ถึงแม้ร้านของตนเองนำเข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากประชาชนเท่าที่ควร เพราะส่วนใหญ่เข้าไปใช้ตามห้างใหญ่ๆกัน สำหรับราคาขายข้าวสารเหนียวเดิม กิโลกรัมละ 25-30 บาท ข้าวสารจ้าวหอมมะลิ กิโลรัมละ 30-35 บาท เดี่ยวนี้ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เป็นราคาข้าวสารเหนียว ขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 35-40 บาท ข้าวสารจ้าวหอมมะลิขายกิโลกรัมละ 40-50 บาท ถือสูงมากในรอบ 70 ปี ส่วนตามห้างสรรพสินค้า เดิมถุงบรรจุ 5 กิโลกรัม ขาย 149 บาท เดี๋ยวนี้ถีบตัวสูงขึ้นไปเป็นถุงละ 250 บาท ทำเอาประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจนต่างพากันเดือดร้อนอย่างหนัก
เช่นบางคนในบัตรมีราคาเพียง 200-300 บาท สามารถซื้อได้เพียงข้าวสาร 1 ถุง น้ำปลา 1 ขวดเท่านั้น นับว่าเป็นการฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้มีรายได้น้อยเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีทางหลีกเหลี่ยง เมื่อราคาข้าวสูงขึ้นอย่างนี้ ยังไม่เห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่น การค้าภายใน พาณิชย์จังหวัด ออกไปสำรวจดูแล้แต่อย่างไร เรื่องนี้ทางประชาชน ผู้ที่ไม่มีกำลังไม่กล้าวออกปาก ขอฝากเรื่องไปยังรัฐบาล ให้หาทางป้องกันแก้ไข เพื่อช่วยประชาชนก็จะดี ไม่อย่างนั้นประชาชนจะเดือดร้อนไปมากกว่านี้
