หัวเลี้ยวหัวต่อการเมือง…
อย่างน้อยก็เป็นเรื่องดีเมื่อธรรมชาติเปลี่ยนแปลงกลับมาสู่ความเป็นปกติอีกครั้ง เมื่อกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศว่าประเทศไทยได้ผ่านพ้น “จุดร้อน” ไปแล้ว
จากนี้ไปอากาศก็จะเย็นลงไม่ร้อนผ่าวอย่างที่ผ่านมา เพราะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไปแล้วจากการที่มีฝนตกเกือบทุกภาค
เมืองไทยนั้นอากาศร้อนโดยรวมสูงสุด 40 องศาก็นับว่าแย่แล้ว ทว่าปีนี้พุ่งขึ้นในระดับ 44 องศา ถือว่าไม่เคยปรากฏมาก่อน
เมื่อร้อนลดลงคงส่งผลไปสู่จิตใจไม่มากก็น้อย
เว้นแต่การเมืองยังคงร้อนไปอีกนาน อันเนื่องมาจากความไม่ลงตัวเกือบทุกด้าน จนส่งผลให้เกิดปัญหาการฟ้องร้องกันเละไปหมดอันเนื่องมาจาก 2 เหตุใหญ่
1 ในเรื่องของข้อกฎหมายที่เกิดปัญหามองต่างมุม
2 การเร่งเร้าเพื่อให้เกิดผลทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่ง
ที่สนใจกันมากคือเรื่อง “หุ้นสื่อ” อันเป็นประเด็นที่จะส่งผลต่อการเมืองโดยตรง อันไม่ได้หมายความว่าเป็นการใช้เกมนี้เพื่อเอาชนะคะคานกัน
แต่เป็นเพราะมีนักการเมืองถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดด้วยการขาดคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส.ที่ยังถือครองหุ้นขณะยื่นใบสมัครเลือกตั้ง
ว่าไปแล้วถือเป็นเรื่องเฉพาะตัว แต่เผอิญที่ว่านักการเมืองคนนั้นเป็นถึงหัวหน้าพรรคการเมือง เป็นว่าที่ ส.ส.และแคนดิเดตนายกฯ
หากหัวขบวนมีปัญหาก็จะส่งผลต่อพรรคการเมืองนั้นโดยตรง
ล่าสุด กกต.ได้มีการประชุมชุดใหญ่เพื่อพิจารณาการถือครองหุ้นสื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
แม้จะยังไม่มีการลงมติชี้ชาดว่าผิดหรือไม่?
แต่เห็นว่าน่าจะมีมูลจึงให้นายธนาธรในฐานะผู้ถูกกล่าวหาสามารถชี้แจงด้วยตนเอง ส่งทนายหรือยื่นเอกสารได้
ให้เวลา 7 วัน…
จากนั้นจะนำผลจากคำชี้แจงมาเป็นข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาว่านายธนาธรมีความผิดหรือไม่
หากมีความผิดก็จะส่งให้ศาลตัดสินชี้ขาดถือเป็นสิ้นสุด
แม้ว่าฝ่ายนายธนาธรได้ให้นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคได้ออกมาชี้แจงแก้ต่างหลายรอบ
กลับเกิดปัญหาซํ้าอีกคือ ข้อมูลต่างๆที่ชี้แจงนั้นยังไม่สามารถทำความเข้าใจให้สังคมได้อย่างชัดเจน
คือยังมีข้อสงสัยอยู่หลายประเด็นที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริง
กกต.จึงต้องแจ้งข้อกล่าวหาขั้นต้น เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหา
รับทราบและสามารถที่จะชี้แจงข้อมูลด้วยวิธีการต่างๆได้
แต่ยังไม่ถึงแจก “ใบส้ม” อย่างที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านั้น
นี่กระมังที่ทำให้นายธนาธรต้องรีบเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อเตรียมพร้อมที่จะมาแก้ต่างและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
เพราะตอนนี้อยู่ในขั้น “คอพาดเขียง” แล้ว…
หากพบว่ามีความผิดจริงก็แล้วแต่ว่าจะได้รับโทษหนัก
แค่ไหน เนื่องจาก กกต.เชื่อว่าขาดคุณสมบัติที่จะลงสมัคร ส.ส.ตาม ม.98 (3)
นี่ก็เป็นจุดซํ้ารอยไม่ต่างกับคดี “ซุกหุ้น” ของอดีตนายกฯคนหนึ่ง.
“สายล่อฟ้า”