คดีแรกในไทย! จับยกแก๊ง ขโมยกะหล่ำปลี เจ้าของซื้อไว้ 5 แสน รอตัดไปขาย กลับถูก 2 หนุ่มย่องมาตัดไปก่อน แล้วเอาไปขายให้เพื่อนนายหน้า ตร.ตามรวบได้ทัน กำลังข่นถ่ายขึ้นรถ
ขโมยกะหล่ำปลี วันที่ 25 มิ.ย. พ.ต.อ.สันติ สุภา ผกก.สภ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมตำรวจ สภ.ขุนยวม ควบคุมตัว นายสมชาติ กมลดีเลิศ, นายปฏิพัฒน์ ศรีคุ้มเกล้า, นายสะโย หยกแสงดาว และ นายรณชัย คำป้อ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตถขโมยกะหล่ำปลีของชาวบ้าน บริเวณหมู่บ้านปางตองใต้ ต.แม่อูคอ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ร.ต.อ.ประกาย บุญเทียม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งจาก นายเปา หวานซึ้ง อายุ 40 ปี ชาวบ้านบ้านนาป่าแปก ต.หมอกจ่ำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ว่าขอให้ไปจับกุมตัว นายสมชาติ และ นายปฏิพัฒน์ ซึ่งทั้ง 2 คน ได้ขโมยกะหล่ำปลีของตนที่ได้ซื้อไว้ในไร่ที่หมู่บ้านปางตองใต้ ต.แม่อูคอ อ.ขุนยวม ในราคา 520,000 บาท ขณะนี้กำลังขนถ่ายกะหล่ำกันอยู่ที่โกดังรับซื้อกะหล่ำปลีที่บ้านทุ่งรวงทอง
เมื่อรับแจ้งจึงเดินทางไปยังโกดังหลังดังกล่าว ก็พบชายทั้ง 2 พร้อมรถกระบะบรรทุกกะหล่ำปี 2 คัน ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน ยก–4829 เชียงใหม่ และยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน บง–1384 แม่ฮ่องสอน กำลังขนถ่ายกะหล่ำปีใส่รถกระบะบรรโตโยตา วีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผบ–5557 เชียงใหม่ ซึ่งเป็นของ นายสะโย เจ้าของโกดัง และ นายรณชัย ผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์
โดยเป็นนายหน้ารับติดต่อประสานในการซื้อขายในครั้งนี้ จึงได้จับกุมตัวทั้ง 4 พร้อมของกลาง ส่ง ร.ต.อ.ปราณ ขาสัก รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ขุนยวม เพื่อสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ซึ่งเป็นพืชผลทางการเกษตรของผู้อื่นที่ไม่ใช่ของตนเอง เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นในท้องที่อำเภอขุนยวม
ต่อมา พ.ต.อ.สันติ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน เดินทางไปรับตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางมาดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เป็นเยื่องอย่างต่อไป สำหรับคดีนี้เป็นคดีแรกที่เกิดขึ้นและเป็นคดีที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แหล่งข่าวจากวงการตำรวจพูดว่าต้องดำเนินคดีแบบถอนรากถอนโคนการขโมยพืชผลทางการเกษตรนับว่าเป็นภัยต่อสังคมอย่างมากไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ด้าน นายเปา เปิดเผยว่า ได้ตกลงซื้อขายกะหล่ำปลีกันมานานแล้วกว่า 1 เดือน ในราคา 520,000 บาท และได้ตัดนำไปขายแล้ว 6 คันรถ และว่ากำลังจะมาตัดใหม่แต่ถูกคนร้ายขโมยตัดและนำไปขายต่อที่บ้านทุ่งรวงทอง อ.แม่ลาน้อย ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าคนทั้ง 2 ได้มาขโมยตัดกะหล่ำของตนเพื่อจะนำไปขายที่แม่ลาน้อย จึงได้ติดตามไปจนพบและแจ้งตำรวจที่แม่ลาน้อยช่วยจับกุมตัว ในส่วนของกลางซึ่งเป็นผักสดเจ้าหน้าที่ได้มอบให้แก่ นายเปา ซึ่งเป็นเจ้าของ ถ้าเก็บไว้ในรถเกรงว่าจะเน่าเสีย
