วันนี้เวลา 15.00 น. สำหรับ “คอการเมือง” แล้ว คงไม่มีอะไร “สำคัญ” ไปกว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 ที่นัดอ่านคำวินิจฉัยส่วนตนในคดี “เงินกู้พรรคอนาคตใหม่” ว่า ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญหรือไม่
“คำวินิจฉัย” ดังกล่าว ไม่ว่าจะออกมาแนวทางใด เขย่าการเมืองไทยอย่างแน่นอน
แต่สำหรับ “วงการหุ้น” แล้ว ต้องบอกว่าหากไม่มีปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ “โควิด-19” คำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ อาจสะเทือน “ตลาดหุ้นไทย” ไม่น้อยเช่นกัน เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า ก่อนหน้านี้ คนในวงการหุ้น ทุ่มน้ำหนักไปในทาง “ยุบพรรค”
…ดังนั้น หากคำวินิจฉัยของศาลฯ ออกมาในแนวทางนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะเกิด "Sell on fact" แต่ก็เชื่อว่า "ดัชนี" คงไม่ลงไปลึกมากนัก เพราะที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงต่อเนื่องมามากแล้ว ยิ่งล่าสุดวานนี้ ไหลรูดลงต่ำกว่าระดับ 1,500 จุด เป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี
ในทางตรงกันข้าม หากคำวินิจฉัย ออกมาว่า “ไม่ยุบ” อาจมีแรงซื้อเล็กๆ เข้ามาบ้าง ซึ่งนักลงทุนเริ่มประเมินว่า น่าจะส่งผลดีต่อการเมืองไทย เพราะอย่างน้อยคงไม่มีเหตุความวุ่นวายนอกสภาเกิดขึ้น (ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด)
แต่ทั้งหลายทั้งมวล อย่างที่กล่าวในข้างต้นว่า "การยุบ" หรือ "ไม่ยุบ" พรรคอนาคตใหม่ คงมีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทยพอสมควร หากไม่มี “โควิด-19” เกิดขึ้น ซึ่งเวลานี้นักลงทุนให้น้ำหนักกับการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวมากกว่า เพราะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปากท้องชาวบ้านโดยตรง
ยิ่งเวลาที่ ศาลฯ นั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย เป็นเวลาใกล้ปิดตลาดช่วงเย็นวันศุกร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนระยะสั้น ไม่คิดที่จะเก็บหุ้นไว้ข้ามสัปดาห์ เพราะไม่รู้ว่าช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีเหตุการณ์ร้ายๆ อะไรเกิดขึ้นอีกบ้าง
ดังนั้นการชี้ชะตาพรรคอนาคตใหม่ในรอบนี้ จึงไม่ได้มีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก
ฟันธง!!
