โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

คณะอนาคตใหม่ จุดไฟนอกสภา เปิดโปง 1MDB-ดึงม็อบนักศึกษา คณาจารย์

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 24 ก.พ. 2563 เวลา 10.52 น. • เผยแพร่ 24 ก.พ. 2563 เวลา 10.50 น.
139291

วินาทีศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการพรรคในเวลานั้น ประกาศว่า การยุบพรรคอนาคตใหม่ ไม่ใช่เป็นการ “ตัดไฟแต่ต้นลม” ของกลุ่มอำนาจเก่า แต่เป็น “ไฟลามทุ่ง” พร้อมสถาปนา “คณะอนาคตใหม่” แทน “พรรคอนาคตใหม่” ไม่ทันถึง 48 ชั่วโมง ไฟลามทุ่งของ “ปิยบุตร” สำแดงผล ในด้านต่างๆ ที่ยึดโยงกับคำวินิจฉัยยุบพรรค หลังอนาคตใหม่ ไม่ใช่เป็นพรรคการเมือง ไม่มีตัวตนในสภาผู้แทนราษฎรในศึกซักฟอกรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

@ ชุลมุนอภิปรายนอกสภา

คณะอนาคตใหม่ จึงเปิดศึกซักฟอกนอกสภา โดย“พรรณิการ์ วานิช” อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ประเดิมเปิดฟลอร์ซักฟอกเป็นคนแรกแบบ“ไร้เอกสิทธิ์ ส.ส.” คุ้มครอง หัวข้อ “รัฐบาลประยุทธ์กับการทุจริตที่อื้อฉาวไปทั้งโลก 1 MDB” (1 Malaysia Development Berhad) หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ เปิดเงื่อนงำไม่ชอบพามากล เชื่อมโยงกับคนในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์

กล่าวหาใน 2 กระทงความผิด ข้อแรก ตั้งแต่ปี 2558-2563 ตำรวจไทยจับกุม “นายฆาเบียร์ ฆุสโต” ผู้เปิดโปงข้อมูลความไม่ชอบมาพากล 1MDB โดยตั้งข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ อ้างว่าได้รับการประสานงานจากบริษัท เปโตร ซาอุดี ให้ติดตามจับกุม โดยอ้างว่านายฆาเบียร์เรียกเอาเงิน 83 ล้านบาทจากแพทริค มาฮอนี ผู้จัดการของบริษัท เปโตร ซาอุดี แลกกับการไม่เปิดเผยข้อมูลการค้าของบริษัท

พรรณิการ์อภิปรายนอกสภาว่า ตำรวจกองปราบฯ แถลงว่าได้มีตำรวจจากอังกฤษเข้าร่วมสอบสวนคดีนี้ คือ “พอล ฟินิแกน” อดีตสกอตแลนด์ยาร์ด สามารถเข้า-ออกเรือนจำ เยี่ยมฆุสโตได้ตลอดเวลา มีหลักฐานบ่งชี้ว่าทั้งฟินิแกนและมาฮอนีร่วมมือกับตำรวจไทยใช้วิธีต่างๆ เพื่อกดดันให้ฆาเบียร์ยอมรับสารภาพความเท็จว่าเขากุเรื่อง 1MDB ขึ้นเพื่อใส่ร้ายนาจิบ ราซัค นายกฯ ในขณะนั้น

“ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า รัฐบาลไทยมีส่วนช่วยในการปกปิดข้อมูลคดี 1MDB ขัดขวางกระบวนการยุติธรรมของต่างประเทศ และบิดผันกระบวนการยุติธรรมของไทย”

ข้อกล่าวหาต่อมา ไทยให้ที่พักพิง “โลว เตียก โจว” หรือ“โจ โล” โดยรัฐบาลสิงคโปร์ขอให้ตำรวจสากลออกหมายแดงติดตามตัวโจ โล คนสนิทของนายนาจิบ ราซัก ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.2559 ทั้งที่มีการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยถึง 5 ครั้ง ผ่านเครื่องบินส่วนตัวทั้งในสนามบินกรุงเทพฯ และภูเก็ต

“พฤติการณ์ดังกล่าวอาศัยหน่วยงานรัฐมากกว่า 1 หน่วยงาน โดยมีทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สตม. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงการต่างประเทศ บุคคลที่มีอำนาจในการสั่งการจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งหมดนี้มีความน่ากังวลว่าประเทศไทยกำลังถูกโกง โดยรัฐบาลกำลังปิดข้อเท็จจริงอาชญากรรมทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งทั้งหมดนี้ทำเพื่อต้องการรักษาความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีการรับเงินรับทองหรือไม่ ขณะนี้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐกำลังสอบสวน หากผลการสอบสวนออกมา คงจะรู้ว่าเงินที่หายไปเข้ากระเป๋าใครบ้าง”

ไม่ถึง 24 ชั่วโมง “พล.อ.ประยุทธ์” กล่าวถึงการฟ้องกลับว่า “ก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบของเขา ถ้าไม่จริงก็ฟ้องไปสิ อันไหนฟ้องได้ก็ต้องฟ้อง”

ขณะที่ ช่อ – พรรณิการ์ ไม่สนถูกฟ้อง “พร้อมเข้าสู่กระบวนการ แต่ขอให้นายกรัฐมนตรี ฟ้องมาคนเดียว ไม่จำเป็นต้องรบกวนหน่วยงานอื่นๆ มาฟ้องร้อง เพราะทราบว่า จะให้หน่วยงานที่ถูกพาดพิงมาฟ้องร้องด้วย”

“ไม่กลัวการฟ้องกลับ เพราะหากกลัว ก็คงไม่เดินมาถึงขั้นนี้ ย้ำว่าไม่ใช่การแก้แค้นที่ถูกยุบพรรค จึงออกมาเปิดเผย เพราะเป็นเรื่องที่เตรียมไว้เพื่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ”

หลังอภิปรายนอกสภา“คณะอนาคตใหม่” จัดทำคลิปวิดีโอสรุปเรื่องราวเผยแพร่ในสังคมออนไลน์

“ไฟลามทุ่ง” เริ่มโหมกระหน่ำ ไม่เพียงคดีอาญาหมิ่นประมาท – นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ

@ จากศาลรัฐธรรมนูญ สู่ศาลอาญา

แต่จ่อถูกดำเนินคดีอาญาเรื่องการกู้เงิน เกินกว่าที่มาตรา 66 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 กำหนด ว่าห้ามบุคคลบริจาคเงินให้พรรคการเมือง ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดเกิน 10 ล้านบาท ต่อคน/ปี

ซึ่ง กกต.เตรียมนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาสังเคราะห์ก่อนชงดำเนินคดีอาญา “อิทธิพร บุญประคอง” ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยว่า การประชุม กกต. วันที่ 24-25 กุมภาพันธ์จะมีการหารือ เกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมด้วยอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยความผิดคดีเงินกู้ 191.2 ล้านบาท โดยจะต้องนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาศึกษารายละเอียด รวมถึงต้องศึกษาข้อกฎหมาย และรายละเอียดความผิดที่ชัดเจน ก่อนฟ้องร้องดำเนินคดีทางอาญา

พลิกมาตรา 124 บัญญัติโทษบุคคลที่บริจาคเงินให้พรรคการเมืองเกิน 10 ล้านบาท ต่อคน/ปี ว่า ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 5 ปี

ส่วนมาตรา 125 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 บัญญัติโทษพรรคการเมืองที่รับเงินเกินที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอน สิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีกําหนด 5 ปี และให้เงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ส่วนที่เกินมูลค่าที่กําหนดไว้ตามมาตรา 66 ตกเป็นของกองทุน ดังนั้น 181.2 ล้านบาท อาจตกเข้าสู่กองทุนพัฒนาพรรคการเมือง

ยังไม่นับคดีของ “ธนาธร” ถือหุ้นวีลัคมีเดีย ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้สิ้นสุดความเป็น ส.ส.ไปก่อนหน้านี้และกำลังพิจารณา ฟ้องอาญาธนาธรอีก 1 คดี ในข้อหาความผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 151 ระบุว่า

“ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ”

โทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000 – 200,000 บาท

@ ไฟลามทุ่งถึงรั้วมหา’ลัย

ไฟยังลามทุ่งไปถึงรั้วมหาวิทยาลัย ดูเหมือนว่าหลังการยุบพรรค “คณะอนาคตใหม่” ได้รับแรงโอบอุ้มจากแฟนนานุแฟนมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มผู้สนับสนุนหลักในรั้วมหาวิทยาลัย ประกาศจัด Flash mob ลามไปถึง ทั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ฯลฯ เกมนอกสภากำลังท้าทายอำนาจรัฐ

แถมฟากนักวิชาการนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ 36 คน ออกแถลงการณ์ แย้งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องการ“ยุบพรรค”

ความตอนหนึ่ง ระบุว่า เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในเรื่องการยุบพรรคตามหลักการที่เกิดขึ้นในต่างประเทศนั้น เกิดจากแนวคิดในเรื่องการพิทักษ์รัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยจากภยันตรายอย่างร้ายแรงที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองจากระบอบประชาธิปไตย ไปสู่การปกครองในระบอบอำนาจเบ็ดเสร็จหรือเผด็จการ

“การยุบพรรคจึงถูกใช้เฉพาะที่ได้ความอย่างชัดแจ้งและปราศจากข้อสงสัยว่าพรรคหรือกลุ่มทางการเมืองกระทำการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยหรือล้มล้างรัฐธรรมนูญ”

ที่น่าสังเกต ยังมี “สุรพล นิติไกรพจน์” อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ “อุดม รัฐอมฤทธิ์” อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งในรายของ “อุดม” เป็นอดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ร่วมลงชื่อด้วย

@ “มะกัน” ยุคทรัมป์ ยังติงไทย

ฟากการเมืองระหว่างประเทศ การยุบพรรคอนาคตใหม่ ยังถูกเสียงท้วงติงจากมหามิตร สหรัฐอเมริกา โดยเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา สถานทูตสหรัฐฯออกแถลงการณ์ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ ว่า

“สหรัฐอเมริกาส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ในทุกประเทศทั่วโลก และชื่นชมประเทศไทยที่มีรัฐบาลซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยวิถีแห่งประชาธิปไตยเมื่อไม่นานมานี้ แม้ว่าสหรัฐไม่ได้ถือข้างหรือสนับสนุนพรรคการเมืองใดในประเทศไทยเป็นพิเศษ”

“แต่ประชาชนกว่า 6 ล้านคนได้ลงคะแนนเสียงเลือกพรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา คำพิพากษาให้ยุบพรรคอนาคตใหม่อาจนำไปสู่การลิดรอนสิทธิของผู้ลงคะแนนเสียงเหล่านั้น และทำให้เกิดคำถามว่าพวกเขาจะยังคงมีสิทธิมีเสียงในระบบการเลือกตั้งของไทยหรือไม่”

ทำให้กระทรวงการต่างประเทศ ของไทยได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ ระบุว่า “ประเทศไทยรับทราบความสนใจของบางประเทศต่อกรณีคดีความซึ่งนำไปสู่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2563 คำวินิจฉัยดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการในรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 โดยปราศจากอคติต่อการกระทำหรือผู้กระทำที่เกี่ยวข้อง”

การยุบพรรคอนาคตใหม่ จะกลายเป็นไฟไหม้ฟาง ไปสู่ไฟลามทุ่ง!

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0