โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ข้าวไทยเสียแชมป์ 2 ปีซ้อน! รัฐบอก ‘ไม่ต้องกังวล’ เอกชนจี้ ‘พัฒนาสายพันธุ์’

The Bangkok Insight

อัพเดต 18 พ.ย. 2562 เวลา 08.57 น. • เผยแพร่ 18 พ.ย. 2562 เวลา 07.23 น. • The Bangkok Insight
ข้าวไทยเสียแชมป์ 2 ปีซ้อน! รัฐบอก ‘ไม่ต้องกังวล’ เอกชนจี้ ‘พัฒนาสายพันธุ์’

หลังจากที่ข้าวหอมมะลิไทย ต้องสูญเสียตำแหน่งข้าวหอมที่ดีที่สุดในโลกเป็นปีที่ 2 จากงานประชุมสัมมนาข้าวโลกปีล่าสุด ที่ฟิลิปปินส์เพิ่งจัดขึ้นไปนั้น ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า เกิดอะไรขึ้นกับ ข้าวหอมมะลิของไทย ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นข้าวที่ดีที่สุดในโลก และเคยคว้าตำแหน่งนี้มาได้ถึง 5 ครั้ง

ในปีนี้ และปีที่แล้ว ข้าวหอมมะลิไทยทำได้ดีที่สุดเพียงแค่คว้าตำแหน่งที่ 2 โดยปีที่แล้ว มีข้าวหอมมาลี ของกัมพูชาคว้าตำแหน่งอันดับ 1 ไปครอง ก่อนที่ตำแหน่งนี้จะตกมาเป็นของข้าวพันธุ์เอสที 24 หรือหลกเจ่ย 28 ของเวียดนาม

นายชูเกียรติ  โอภาสวงศ์   นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย แสดงความเห็นว่า การที่ไทยพลาดท่าไปถึง 2 ปีนั้น แสดงให้เห็นว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศคู่แข่งอย่าง เวียดนาม ได้พัฒนาสายพันธุ์ข้าวมาอย่างต่อเนื่อง จนมีคุณภาพที่ใกล้เคียงกับข้าวไทย

"เท่าที่จำได้ ข้าวเวียดนามไม่เคยได้รางวัลชนะเลิศมาก่อน และปีที่แล้ว ข้าวพันธุ์เอสที 24 ของเวียดนาม ก็อยู่ในอันดับ 3 แสดงให้เห็นว่าเวียดนามพัฒนาสายพันธุ์ข้าวต่อเนื่อง ที่น่ากลัวไปกว่านั้น คือ ราคาข้าวเวียดนามถูกกว่าข้าวหอมไทยเกือบครึ่ง โดยข้าวหอมมะลิไทยราคา 1,100-1,200 ดอลลาร์ต่อตัน ส่วนเวียดนามอยู่ที่ 600 ดอลลาร์ต่อตัน ทั้งยังมีผลผลิตต่อไร่ที่ดีกว่า และต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า"

นายชูเกียรติชี้ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องให้ความสำคัญในการพัฒนาสายพันธุ์ พัฒนาคุณภาพ และรักษาความหอมของข้าวไว้ เพราะช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมาข้าวหอมไทยแทบไม่ได้พัฒนาเลย ต่างจากเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม กัมพูชา ที่พัฒนาจนใกล้เคียงกับของไทยแล้ว

หากไทยยังไม่มีการพัฒนาสายพันธุ์ข้าว เชื่อว่าภายในอีก 5 ปีข้างหน้า ข้าวหอมมะลิไทยอาจเหลือเพียงตำนาน เพราะเมื่อคุณภาพ และรสชาติใกล้เคียงกัน แต่ข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่งเท่าตัว ก็จะทำให้ลูกค้าหันไปซื้อสินค้าที่ถูกกว่าแทน

อย่างไรก็ดี นายกีรติ รัชโน ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ แสดงความเห็นถึงเรื่องดังกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องที่น่าวิตกมากนัก เพราะต้องดูว่ารายละเอียด และวิธีการจัดประกวด โดยเฉพาะการทดสอบนำข้าวแต่ละชนิดของแต่ละประเทศ มาพิสูจน์ทั้งกลิ่นและรสชาติ มีความแตกต่างกันอย่างไร และการจัดประกวดเวทีนั้นอยู่ในระดับที่เรียกว่าสากลเข้าขั้นระดับโลกแค่ไหน จึงไม่อยากให้คนไทยตื่นตระหนกว่าข้าวไทยเสียแชมป์ข้าวโลก เพราะเท่าที่ได้พูดคุยกับประเทศผู้นำเข้าข้าวในตลาดโลกต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวข้าวไทยคุณภาพดีกว่าหลายประเทศ

นอกจากนี้ แม้ว่าข้าวหอมมะลิไทยจะดีกว่าคู่แข่ง และหลายประเทศก็ตาม แต่ยังไม่ถึงขั้นทุกคนทั่วโลกจะต้องบริโภคข้าวไทยเพียงชนิดเดียว ต้องขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วยว่า อยากจะเลือกบริโภคข้าวชนิดไหน และของประเทศอะไร เพราะข้าวแต่ละประเทศมีรสชาติและชนิดที่ไม่เหมือนกัน

ในส่วนของข้าวหอมมะลิไทยที่ติดตลาดข้าวโลกและอยู่ได้นาน เพราะข้าวไทยถือมีอัตลักษณ์ที่ดีและเกิดขึ้นมายาวนาน ทำให้ข้าวไทยยังครองใจผู้บริโภคทั่วโลกได้จนถึงขณะนี้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0