โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

ข้อควรรู้! อาการแบบไหน ที่บ่งบอกว่า ร่างกายขาดน้ำ ซะแล้ว

MThai.com - Health

เผยแพร่ 19 พ.ย. 2561 เวลา 03.00 น.
ข้อควรรู้! อาการแบบไหน ที่บ่งบอกว่า ร่างกายขาดน้ำ ซะแล้ว
ภาวะ ร่างกายขาดน้ำ หรือ Dehydration หมายถึงภาวะที่ร่างกายเราสูญเสียน้ำมากกว่าที่ร่างกายได้รับ แล้วถ้าหากเราปล่อยให้ ร่างกายขาดน้ำ จะเกิดอะไรขึ้น?

ภาวะ ร่างกายขาดน้ำ หริอภาษาทางการแพทย์เรียก Dehydration หมายถึงภาวะที่ร่างกายเราสูญเสียน้ำมากกว่าที่ร่างกายได้รับ ซึ่งหากขาดน้ำมากๆ และไม่ได้รับการทดแทนอย่างเพียงพอ ในเวลาที่เหมาะสมก็อาจจะก่อให้เกิดผลเสียตามมา

น้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย เป็นส่วนประกอบของเลือด น้ำย่อย ปกติร่างกายเราจะสูญเสียน้ำประมาณ 10 ถ้วย หรือ 2.5 ลิตรทางเหงื่อ ลมหายใจและการขับถ่าย นอกจากน้ำแล้วร่างกายยังเสียเกลือแร่ด้วย

หน้าที่ของน้ำในร่างกาย

  • ช่วยในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
  • เป็นให้ความชุ่มชื้นต่อเนื้อเยื่อของร่างกาย เช่น ปาก ตา จมูก
  • หล่อลื่นข้อ
  • ป้องกันอวัยวะภายใน
  • ป้องกันภาวะท้องผูก
  • ช่วยขับของเสียผ่านทางไต
  • ละลายเกลือแร่และสารอาหาร
  • นำอาหารและออกซิเจนไปสู่ร่างกายและเนื้อเยื่อ

สาเหตุของภาวะ ร่างกายขาดน้ำ

  • สาเหตุที่สำคัญคือท้องร่วง และอาเจียน จากการติดเชื้อ เช่น อหิวา โรคบิด หรืออาหารเป็นพิษ จะมีประชากรทั่วโลกเสียชีวิตจากการขาดน้ำปีละ 1.5 ล้านคน กลุ่มที่เสี่ยงคือเด็กและทารก
  • ไข้สูงเสียเหงื่อมาก
  • ออกกำลังกายมาก และอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อน ร่างกายจะเสียน้ำมากกว่าเกลือแร่ กลุ่มเสี่ยงคือวัยรุ่น ซึ่งน้ำหนักจะน้อยกว่าผู้ใหญ่ และเป็นวัยที่ชอบออกกำลังกาย
  • เสียน้ำทางปัสสาวะเช่นโรคเบาหวานและเบาจืด ร่างกายจะสูญเสียน้ำไปทางปัสสาวะมากจนอาจจะเกิดไตวาย
  • ผิวหนังถูกไฟไหม้ ร่างกายจะสูญเสียน้ำทางน้ำเหลืองที่ไหลออกมา

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ ร่างกายขาดน้ำ

ทุกเพศทุกวัยมีความเสี่ยงในการขาดน้ำพอๆ กัน แต่กลุ่มที่จะกล่าวจะมีความเสี่ยงต่อการขาดน้ำสูงกว่ากลุ่มอื่น กลุ่มดังกล่าวได้แก่

  • เด็กและทารก เด็กและทารกจะมีขนาดเล็ก น้ำหนักน้อย ร่างกายต้องการน้ำมากและเป็นกลุ่มซึ่งจะเกิดอาการท้องร่วงได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่น
  • ผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุจะเสี่ยงต่อการขาดน้ำ เนื่องจากปริมาณน้ำในร่างกายมีไม่มาก ประสาทในการรับรู้เรื่องหิวน้ำลดลง และการตอบสนองต่ออุณหภูมิของร่างกายเสียไป
  • ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่นเบาหวาน โรคไต ผู้ที่ติดสุรา กลุ่มนี้เพียงมีปัจจัยอื่นกระตุ้นเล็กน้อยก็อาจจะทำให้ ร่างกายขาดน้ำ
  • ผู้ที่ออกกำลังกายมาก เช่น วิ่งมาราธอน ขี่จักรยาน ไตรกีฬา เพราะยิ่งออกกำลังกายนานร่างกาย จะมีโอกาสขาดน้ำได้ง่าย
  • ผู้ที่อาศัยอยู่ในที่สูง ร่างกายจะปรับตัวโดยการขับปัสสาวะเพิ่ม ขณะเดียวกันต้องหายใจไว เพื่อเพิ่มออกซิเจนในเลือด ทำให้ร่างกายขาดน้ำ

เราจะต้องไปพบแพทย์เมื่อไร?

สำหรับผู้ที่ร่างกายแข็งแรงสามารถทนต่อการขาดน้ำได้พอควร แต่กลุ่มเสี่ยงดังกล่าวอาจจะทนต่อการขาดน้ำได้น้อย จึงควรจะพบแพทย์ในกรณีดังต่อไปนี้

  • มีอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง
  • อาเจียนติดต่อกัน 12 ชั่วโมง
  • มีอาการท้องร่วงติดต่อกัน 5 วัน
  • ซึมลง สับสน หน้ามืดเวลาเปลี่ยนท่าจากนั่งเป็นยืนเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ร่างกายขาดน้ำ

สำหรับผู้ที่ขาดน้ำไม่มากเราอาจจะสังเกตสิ่งต่อไปนี้

  • ผิวแห้ง ริมฝีปากแห้ง
  • เพลียหลับง่าย เด็กจะซึมไม่ค่อยเล่น
  • หิวน้ำ
  • ปัสสาวะน้อยลง เด็กเล็กจะปัสสาวะน้อยกว่า 6 ครั้งใน 1 วัน ส่วนเด็กโต หากไม่ปัสสาวะใน 8 ชั่วโมงถือว่า ร่างกายขาดน้ำ
  • เด็กร้องไห้ไม่มีน้ำตา
  • ไม่มีแรง
  • ปวดศีรษะ

สำหรับผู้ที่ขาดน้ำอย่างรุนแรงจะสังเกตเห็นสิ่งต่อไปนี้

  • กระหายน้ำอย่างมาก
  • สับสนกระวนกระวาย เด็กอาจจะซึมลง
  • ผิวหนัง ปากจะแห้งมาก
  • ไม่มีเหงื่อ
  • ไม่ปัสสาวะ หรือปัสสาวะออกน้อยมาก
  • ตาโหล
  • ผิวแห้งสูญเสียความยึดหยุ่น เมื่อเราดึงผิวหนังขึ้นมาผิวจะตั้งได้
  • หากเป็นเด็กทารกบริเวณขม่อมจะบุ๋มลง
  • ความดันต่ำ ชีพขจรเร็ว
  • หายใจเร็ว
  • ซึม หรือหมดสติ

การรักษา

การทดแทนน้ำเป็นวิธีที่ดีที่สุด

1. การทดแทนน้ำในเด็ก

  • หากไม่มีข้อห้ามจากแพทย์ท่านสามารถดื่มน้ำเกลือแร่ทันทีที่มีภาวะเสียน้ำ เช่น ท้องร่วง หากไม่มีน้ำเกลือแร่ก็อาจจะผสมเกลือ ครึ่งช้อนชา ผงฟู ครึ่งช้อนชา น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะผสมในน้ำ 1 ลิตร เราจะรู้ว่าได้รับน้ำเพียงพอโดยดูจากปริมาณปัสสาวะและสีปัสสาวะ ว่าใสและออกมากจึงลงปริมาณน้ำดื่ม

  • สำหรับทารกไม่ต้องหยุดนม แต่ให้รับน้ำเกลือแร่เสริม สำหรับผู้ที่ดื่มนมผงก็เปลี่ยนนมที่ไม่มี lactose จนกระทั่งท้องร่วงดีขึ้นจึงให้ดื่มนมตามปกติ

  • ให้หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มหรืออาหารบางประเภท เช่น น้ำเปล่าเพราะว่าไม่มีเกลือแร่ น้ำดื่มสำหรับออกกำลังกายไม่เหมาะสมที่นำมาใช้ในคนที่เสียน้ำจากท้องร่วง เพราะในน้ำดื่มสำหรับออกกำลังกายจะมีเกลือแร่น้อยกว่า

  • การทดแทนน้ำสำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย ให้ใช้น้ำเปล่าหรืออาจจะใช้น้ำดื่มสำหรับคนที่ออกกำลังกาย

  • สำหรับผู้ใหญ่ที่ท้องร่วงก็ทดแทนโดยการดื่มน้ำหรือน้ำเกลือแร่ให้พอ

  • สำหรับผู้ที่ป่วยหนักต้องรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล

ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญ

ภาวะขาดน้ำหากเราได้รับน้ำทดแทนไม่ทันเวลาและปริมาณไม่พอก็อาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งอาจจะอันตรายทำให้เสียชีวิตได้

  • เกิดภาวะเป็นลมแดด
  • สมองบวมเนื่องจากสมองจะดึงน้ำเข้าเซลล์มาก
  • ชักเนื่องจากเสียสมดุลเกลือแร่
  • ความดันต่ำหรือช็อกจากขาดน้ำ
  • ไตวาย
  • โคม่าและเสียชีวิต

การป้องกันภาวะ ร่างกายขาดน้ำ

การป้องกันภาวะขาดน้ำสามารถทำได้โดยการดื่มน้ำ น้ำผลไม้ หรืออาหารที่มีน้ำมาก เช่น ผักและผลไม้ สำหรับภาวะที่ต้องให้ความสนใจ ได้แก่

  • สำหรับผู้ที่ป่วยมีโรคประจำตัว ควรจะเริ่มให้น้ำผสมเกลือแร่ทันทีที่เริ่มมีภาวะเสี่ยงต่อการขาดน้ำ ไม่ต้องรอให้เกิดภาวะขาดน้ำ หากดื่มน้ำเปล่าอาจจะทำให้ร่างกายเสียสมดุลเกลือแร่ได้
  • หากต้องออกกำลังกายมากเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง เช่น วิ่งมาราธอน เราจะต้องดื่มน้ำให้มากพอก่อนออกกำลังกาย 1 วันเราจะรู้ได้โดยสังเกตปัสสาวะจะใสและออกมาก ก่อนออกกำลังกาย 2 ชั่วโมงก็ให้ดื่มน้ำ 2 แก้ว สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายปกติอาจจะให้ดื่ม 1-2 แก้วก่อนออกกำลังกายครึ่งชั่วโมงก็น่าจะเพียงพอ
  • สำหรับสภาวะอากาศที่ร้อนเราต้องดื่มน้ำเพิ่ม

ขอบคุณที่มาจาก : www.siamhealth.net

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0