เกมการต่อสู้ในทางการเมืองนั้นแทบไม่มี "สูตรตายตัว" หลายสิ่งหลายอย่างล้วนขึ้นอยู่กับ "สถานการณ์" และ "ปัจจัย" ที่เกิดขึ้นในห้วง ณ เวลาขณะนั้น !
การออกมาเปิดแถลงข่าว เพื่อดับกระแสร้อนๆ ของ "แกนนำพรรคเศรษฐกิจใหม่" คือ "มิ่งขวัญแสงสุวรรณ์" ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรค นำทีม"5 ส.ส." ของพรรคยืนยันว่า ทั้ง 6 เสียงของพรรคจะไม่มีการย้ายขั้ว ไปยืนอยู่ข้างรัฐบาลเด็ดขาด
โดยการแถลงข่าวที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมามีขึ้นก่อนกำหนดการเดิมที่ได้เชื้อเชิญผู้สื่อข่าวให้รับฟังความชัดเจนในวันนี้ 22 ส.ค.จะเป็นด้วยเพราะ "กระแส" ว่าด้วยเรื่อง "4 ส.ส." ของพรรคเตรียมโบกมือลา ถูกกระพือ โหมหนักขึ้นจนไม่เพียงแต่ แกนนำพรรคอย่างมิ่งขวัญ ไม่อาจนั่งติดเก้าอี้เท่านั้น
แต่ยังกลับไปสร้างความหวั่นไหว และวุ่นวายใจสำหรับ "พรรคเพื่อไทย" ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล ให้เกิดความหวาดระแวงพวกเดียวกันเองด้วยอีกต่างหาก
สำหรับ อีก 5 ส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่มาร่วมแถลงข่าวย้ำจุดยืนกับมิ่งขวัญ ครั้งนี้ประกอบด้วยศุภดิช อากาศฤกษ์ หัวหน้าพรรค,ภาสกร เงินเจริญกุล เลขาธิการพรรค, นิยม วิวรรธนดิฐกุล, มนูสิวาภิรมย์รัตน์ และมารศรี ขจรเรืองโรจน์
"ขอพูดชัดๆ ว่า ส.ส. 6 คนของพรรคเศรษฐกิจใหม่ยังเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีใครแตกแถวไปไหน แต่บางกรณีที่เป็นความเห็นร่วมกันของพรรคฝ่ายค้านนั้น ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่จะใช้เอกสิทธิ์พิจารณาการลงมติที่อาจสวนทางกับพรรคร่วมรัฐบาลในบางประเด็น จะไม่ค้านแบบหัวปักหัวปำ
ไม่ต้องมาถามว่าจะเป็นฝ่ายค้านอิสระหรือไม่ แต่เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์การทำงานของพวกเราว่า รักษาคำพูดหรือไม่ ขอให้สบายใจได้ หากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พรรคเศรษฐกิจใหม่พร้อมเข้าร่วมด้วยแน่นอน การตัดสินใจของ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่จะเป็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งหมด" บางส่วนบางตอนของการแถลงข่าวจากมิ่งขวัญ ที่เจ้าตัวต้องออกโรงมาชี้แจงด้วยตัวเอง อย่างหนักแน่น
หากถามว่าอาการขึงขังของมิ่งขวัญที่แสดงออกต่อสาธารณชนในการแถลงข่าวรอบนี้ หวังที่จะสื่อสารไปถึงใครบ้าง ก็คงต้องบอกว่าทางหนึ่งคือ พรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้าน ไม่ให้ระแวงว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่จะ "ปันใจ"หรือ "แตกแถว"
และประการที่สอง คือการจงใจส่ง "สาร" ไปยัง "บิ๊กเนม" แห่ง "พลังประชารัฐ" ที่เพิ่งประกาศตัวเข้ารับตำแหน่ง"ประธานยุทธศาสตร์" ของพรรค อย่าง "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า "ดีล" ที่พยายามส่ง "มือดี" มาเทียวไล้เทียวขื่อ หวังดึงพรรคเศรษฐกิจใหม่ เข้าไปเติมเสียงให้กับรัฐบาลนั้น ดูจะเป็นไปได้ยาก
อย่างไรก็ดี มีรายงานจากวงในชี้ว่าแท้จริงแล้วการดีลกันระหว่าง "มือทำงาน" ของพลังประชารัฐ นั้นไม่ได้เฉพาะเจาะจงมาที่พรรคเศรษฐกิจใหม่เท่านั้น หากแต่การประสาน หรือพูดคุยกัน ได้เกิดขึ้นกับอีกหลายพรรค และแม้วันนี้พรรคเศรษฐกิจใหม่ "ยังไม่ตัดสินใจ" หอบผ้า ย้ายไปซบพลังประชารัฐ แต่ไม่ได้หมายความว่า ในวันข้างหน้าเมื่อ"สถานการณ์"เป็นใจ และ "มิ่งขวัญ" ได้รับ "เงื่อนไข" ที่ทำให้เขาและลูกพรรคต้องตัดสินใจ แล้ว ต้องบอกว่า "อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น" !!
