รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2562 ตอน "ธนาธร"ได้เข้าสภาฯ พลพรรคสีส้มระทึก
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถึงเวลานี้ก็ได้กลับเข้ามามีบทบาทในสภาฯอีกครั้ง แม้จะไม่ได้เข้ามาทำหน้าที่ส.ส. ในห้องประชุมสภาฯแต่ก็ได้กลับเข้าห้องประชุมในตึกรัฐสภาฯ อย่างเป็นทางการ ในสัปดาห์นี้ ตั้งแต่พฤหัสบดีที่24 ตุลาคม เป็นต้นไป
ในฐานะ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในโควต้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้เสนอต่อที่ประชุมสภาฯ เมื่อวันเสาร์ที่ 19ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งกฎหมายเปิดช่องให้ทำได้
เพราะคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญเพียงแค่ให้ ธนาธร หยุดพักการเป็นปฏิบัติหน้าที่ส.ส. เท่านั้น แต่กฎหมายไม่ได้ห้ามคนที่ไม่ได้เป็นส.ส.หรือห้ามไม่ให้คนที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ เป็นส.ส. เป็น กรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณ แต่อย่างใด
ด้วยเหตุนี้ อนาคตใหม่ จึงอาศัยช่องว่างกฎหมายดังกล่าว ส่ง ธนาธร กลับเข้ามามีบทบาทในสภาฯอีกครั้ง กับการเป็นกรรมาธิการของพรรคฝ่ายค้าน ที่จะคอยตรวจสอบ ติดตาม การจัดทำงบประมาณของทุกกระทรวง กรม ภายใต้กรอบวงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท อย่างใกล้ชิด
สำหรับคดีซุกหุ้นสื่อ ซึ่งนับจากนี้ อีกเพียงหนึ่งเดือน เท่านั้น คือวันพุธที่ 20 พ.ย. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัยคดี ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า
ธนาธร ถือครองหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ที่ประกอบธุรกิจสื่อก่อนลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.อัน เข้าข่ายลัคษณะต้องห้ามการลงสมัคร ส.ส. หรือไม่
ก็จะรู้กันเสียทีว่า เสี่ยเอก ธนาธร จะได้กลับมาทำหน้าที่เป็นส.ส.เต็มตัว มาร่วมประชุมสภาฯ กดปุ่มโหวตออกเสียงลงมติ ในห้องประชุมสภาฯ ในฐานะส.ส. หลังจากต้องหยุดพักการปฏิบติหน้าที่ไป นับแต่เดือนพฤษภาคม
หรือธนาธรจะต้องพักยาว โดยต้องพ้นจากการเป็น ส.ส.ทันที และอาจต้องพักยาวอีกหลายปี
โดยผลการลงมติของที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และการอ่านคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญ จะมีออกมาได้2ทาง คือ ยกคำร้อง ของกกต. นั่นก็คือ ธนาธร รอด พ้นผิด
แบบนี้ เท่ากับ หากวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน ที่สภาฯเปิดสมัยประชุมแล้ว พอศาลยกคำร้อง ธนาธร ก็สามารถ เดินออกจากศาลรัฐธรรมนูญ เข้าไปในห้องประชุมสภาฯ ได้ทันทีในวันนั้น
แต่หากผลออกมาตรงกันข้าม คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่เป็นคุณ คือ ศาลพิจารณาจากพยานหลักฐานของกกต.และพยานที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้มาจากการไต่สวน สืบหาพยานหลักฐานโดยศาลรัฐธรรมนูญ แล้ว
เห็นว่า ธนาธร โอนหุ้นบริษัทวีลัคมีเดียให้กับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา หลังการยื่นสมัครรับเลือกตั้ง ตามหลักฐาน บัญชีผู้ถือหุ้นหรือ บอจ.5 ที่ยื่นต่อ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ลงวันที่ 21 มี.ค.2562 ก่อนวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม แค่สามวัน
ไม่ใช่โอนหุ้น กันวันที่ 8 มกราคม 2562 ที่บ้านพักส่วนตัวของธนาธร ในหมู่บ้านเลคไซด์วิลล่า อย่างที่ธนาธร –นางสมพร-นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยา ธนาธร และพยานบุคคลฝ่ายธนาธร ให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันไต่สวนเมื่อ วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา
หากศาลชี้ว่าธนาธรผิด ผลก็คือ ทำให้ ธนาธร ต้องพ้นจากการเป็นส.ส. ทันที ธนาธร ไม่รอด ผลกระเทือน ก็ต้องเกิดขึ้นกับ พรรคอนาคตใหม่ และส.ส.ของพรรค ตามมาอย่างคาดเดาแรงสะเทือนยาก
หากธราธรผิดจะถึงขั้น ขยายผลเรื่องนี้ไปถึงนำไปสู่การยื่นให้ยุบพรรค โดยอ้างว่า ธนาธร เป็นหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค มีการทำผิดกฎหมาย ลงสมัครรับเลือกตั้งไปแล้วด้วย เลยจะเอาผิดกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดและยื่นให้ยุบพรรค อนาคตใหม่
ในประเด็นนี้ แวดวงการเมือง ยังมองว่า ไม่น่าจะขยายผลไปได้ถึงขั้นนั้น แต่ส่วนใหญ่ มองกันว่า เเรื่องที่ อนาคตใหม่ เสี่ยงจะโดนยุบพรรค ที่ทีน้ำหนักว่า หากจะไปถึงขั้นผิดจริง คือกรณีเรื่องเงินกู้ 191 ล้านบาทระหว่างพรรคกับธนาธร น่าจะมีน้ำหนักมากกว่า
ขณะที่ คดียุบพรรคอนาคตใหม่ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องที่ นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน ร้อง ขอให้ศาลวินิฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า
การกระทำของพรรคอนาคตใหม่ และกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ มีพฤติการณ์ ใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่
ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญลงมติรับคำร้องแบบเฉียดฉิว 5 ต่อ 4 เมื่อช่วงเดือน กรกฏาคมที่ผ่านมา คำร้องนี้ ใกล้ถึงเวลาจบแล้ว เพราะทั้งสองฝ่ายได้ยื่นคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญไปแล้วเมื่อสองสัปดาห์ก่อนหน้านี้
และคดีนี้ ศาลจะไม่มีการเปิดห้องพิจารณาไต่สวนคดีแบบ คดีของธนาธร แต่จะลงมติวินิจฉัยเลยว่าจะยกคำร้องหรือจะตัดสินอย่างไร ที่คาดว่าน่าจะรู้ผลในอนาคตอันใกล้นี้แหละ
สำหรับแกนนำอนาคตใหม่ ไม่ค่อยหนักใจกับคดี ยื่นยุบพรรค ในคำร้องดังกล่าวมากนัก แต่ ที่กังวลมากกว่า ตอนนี้ก็คือ คดีธนาธร และคดีเงินกู้ของพรรคกับธนาธร ที่อยู่ระหว่าง การพิจารณาของกกต.
ทั้งสองคดี ดังกล่าว คือตัวชี้เป็นชี้ตาย อนาคตการเมืองของธนาธร และพรรคสีส้ม อย่างแท้จริง
