วันที่ 2 เมษายน 2563 เว็บไซต์บลูมเบิร์กของสหรัฐฯรายงานโดยอ้างรายงานลับของหน่วยข่าวกรองที่รายงานต่อทำเนียบขาวระบุ ประเทศจีนได้ปกปิดขนาดการระบาดของโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ ในประเทศของตัวเองภายใต้การรายงานทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและการเสียชีวิตจากโรคนี้ โดยเจ้าหน้าที่ที่ไม่ประสงค์เผยตัวหรือบอกรายละเอียดของรายงานดังกล่าว แต่พวกเขากล่าวว่า สิ่งที่ผลักดันคือการรายงานสาธารณะของจีนเกี่ยวกับคดีและการเสียชีวิตนั้นมีเจตนาไม่ให้มีความสมบูรณ์ ตัวเลขของจีนที่รายงานเป็นของปลอม
ด้านเจ้าหน้าที่ทางการคนหนึ่งกล่าวว่า ทางการทำเนียบขาว ได้รับรายงานฉบับนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การระบาดเริ่มขึ้นในเขตการปกครอง Hubei ของประเทศจีนเมื่อปลายปี 2562 แต่ทางการจีนได้รายงานอย่างเป็นทางการว่า มีจำนวนเคสทั้งหมด 82,000 เคส และมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวน 3,300 คน ตามข้อมูลของ CSSE แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เมื่อเปรียบเทียบจำนวนเคสซึ่งมีมากกว่า 189,000 เคส และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 4,000 คนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการรายงานสู่สาธารณะเกี่ยวกับการระบาดมากที่สุดในโลก
ขณะที่ ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวกับสำนักข่าว CNN เมื่อวันพุธว่า สภาพที่แท้จริงนั้น เราน่าจะเตรียมรับสถานการณ์ได้พร้อมกว่า ถ้าทางจีนเผยข้อมูลที่แท้จริงออกมา แต่ก็เห็นเป็นหลักฐานในเวลานี้ ก่อนหน้าที่ทั่วทั้งโลกจะได้เรียนรู้ในเดือนธันวาคมนั้น ทางจีนกำลังเผชิญหน้ากับเรื่องนี้อยู่ และอาจจะก่อนหน้านั้นสักเดือนหนึ่งหรือมากกว่านั้น การระบาดเกิดขึ้นจริงในประเทศจึน
ในท้ายที่สุด แม้ว่าทางการจีนจะนำเอาการล๊อคดาวน์มาบังคับใช้ อย่างเข้มงวดกว่าประเทศอื่นๆ ที่ไม่เป็นเผด็จการ มันก็ยังสร้างความน่าสงสัยอย่างน่ากังขา ต่อการรายงานจำนวนตัวเลขของทางการจีน ไม่ว่าจะเป็นจากภายในหรือจากภายนอกก็ตาม รัฐบาลจีนได้เปลี่ยนวิธีการนับจำนวนเคสอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ที่ไม่ได้รวมประชาชที่ไม่แสดงอาการใดๆ เช้าไปในจำนวนผู้คน และ ในวันอังคาร ก็บวกจำนวนเคสที่ตรวจไม่พบอาการใดๆ เข้าไปในยอดทั้งหมดอีกประมาณ 1,500 เคสเท่านั้น
อีกทั้งมีรายงานข่าวกองโกศหลายหมื่นชิ้น ตั้งอยู่นอกที่เก็บศพในมณฑลหูเป่ย ซึ่งทำให้ประชาชนต่างสงสัยกับรายงานของทางการจีนในกรุงปักกิ่ง
ความไม่ไว้ใจข้อมูลตัวเลขของทางการจีน ทำให้นักการเมืองสหรัฐฯออกมาให้ความเห็นอย่าง เบน แซสซี่ (Ben Sasse) สภาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกัน รัฐเนบราสก้า แถลงว่า การอ้างอิงที่ว่าประเทศสหรัฐอเมริกา มีจำนวนผู้เสียชีวิตเกี่ยวกับโคโรน่าไวรัสมากกว่าประเทศจีน เป็นเรื่องโกหก โดยปราศจากการแสดงความคิดเห็นจากเนื้อหาและข้อมูลที่ปกปิด เรื่องนี่ มันเป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดอย่างน่าเจ็บปวดมาก ทางรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนเอง ก็ไม่ได้แจ้งความจริงให้ทราบ, ข้อมูลปลอม และยังคงให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับเรื่องโคโรน่าไวรัส เพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนเอง
ส่วน เดบราร่าห์ เบิร์ซ นักภูมิคุ้มกันวิทยาของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แนะนำทำเนียบขาวต่อการตอบรับของเรื่องการระบาดใหญ่ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า การรายงานตัวเลขของทางการจีน สร้างความโน้มน้าวต่อสมมติฐานทุกๆ แห่งในโลกเกี่ยวกับลักษณะของไวรัสตัวนี้ ทางกลุ่มการแพทย์ ได้ทำการตีความเกี่ยวกับข้อมูลของทางการจีนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องวิกฤต แต่น้อยกว่าที่หลายๆ คนคาดการณ์กันไว้ แต่ดิฉันคิดว่า เราคงจะพลาดข้อมูลที่สำคัญเป็นจำนวนมาก และในเวลานี้ เราก็เห็นกันแล้ว กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศอิตาลี และเหตุการณ์ในประเทศสเปนด้วย
นอกจากนี้ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ขอร้องทางการจีนและประเทศต่างๆอย่างเปิดเผย เพื่อให้รายงานจำนวนการระบาดของไวรัสกันอย่างโปร่งใส เขาได้กล่าวหาทางการจีนอย่างซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า ทางการจีนปกปิดปัญหาต่างๆ ที่มีอยู่อย่างมากมายและยังเชื่องช้าที่จะแบ่งปันข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นเวลาหลายสัปดาห์หลังจากที่เคสไวรัสเปิดเผยตัวตนขึ้นมาในครั้งแรก และทางการจีนก็ยังปิดกั้น การเสนอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอเมริกันในเวลานั้น
“ข้อมูลเหล่านี้ มีความหมายมาก การที่เราสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้นั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถ ที่พร้อมไปด้วยความมั่นใจและข้อมูล ซึ่งจะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน” นายปอมเปโอ กล่าวและว่า ผมของร้องให้ทุกๆประเทศในโลกว่า จงพยายามอย่างดีทีสุดต่อการเก็บข้อมูล และใช้ความพยายามของคุณอย่างดีที่สุดในการแบ่งปันเนื้อหาเหล่านั้น เพราะประเทศเราก็ทำอยู่ในเวลานี้เช่นกัน
