4 ก.ค.63 - พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) และอดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ ที่ถูกเรียกขานกันว่า "ขุนศึกการข่าว" ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ดังนี้
สืบเนื่องมาจาก เรื่องอาจารย์ยุยงศิษย์ แต่ตัวเองไม่เคยติดคุก
กรณีนี้ฝ่ายสีแดงออกมาพูดในทำนอง บุกทำเนียบติดคุกน้อยกว่าบุกบ้าน พล.อ.เปรม นั้นขอชี้แจงเบื้องต้นว่า
1.เหตุที่ต้องเข้าไปในทำเนียบเพื่อลี้ภัย จาก M.79 ที่ระดมยิงมาทุกวัน ขนาดหนีเข้าไปในทำเนียบ มันยังตามเข้าไปยิง โดยใช้สำนักงาน กพ.เป็นฐานยิง ดังนั้นการเข้าไปในทำเนียบจึงไม่มีเจตนาเข้าไปทำลายต่างกับการบุกบ้านป้าเปรม ซึ่งเป็นกระทำโดยจงใจ และรุนแรง
2.เหตุผลของการที่ผู้ชุมนุมเข้าไปในทำเนียบนั้น พิสูจน์ได้จากการยิง M.79 ที่เกิดขึ้นเกือบทุกวันมีหลักฐาน ทั้งตำบลกระสุนตก ผู้รับบาดเจ็บ ฯลฯรัฐบาลตอนนั้นก็รู้ตัวคนยิง เพราะออกมาแสดงตัวชัดเจนแต่ก็ไม่ทำอะไรเลย ก็จำเป็นต้องอาศัยทำเนียบรัฐบาลหลบภัยแต่ก็ไม่รอดการถูกยิง ทั้งๆที่เป็นสถานท่ีราชการ จึงต้องหนีต่อไปเรื่อยๆ
จึงขอนำข้อเขียนของ นาย พิภพ ธงไชย มาให้อ่าน ดังนี้
ชี้แจงกรณีนายสุชาติ สวัสดิ์ศรี กล่าวหาว่าคดีทำเนียบรัฐบาลและคดีสนามบิน ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย-พธม. เป็น Sound of Silence
ขอชี้แจงว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย-พธม. ถูกศาลฏีกาพิพากษาลงโทษ 5 แกนนำ 1 ผู้ประสานงานให้จำคุกคนละ 8 เดือน เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 ในคดียึดทำเนียบรัฐบาล 193 วัน ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกคนละ 2 ปีกว่า ศาลอุทธรณ์ ลดโทษเหลือ 8 เดือน ศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกคนละ 8 เดือน
และขณะนี้ ทางทำเนียบรัฐบาลได้ยื่น ฟ้องร้องต่อศาลแพ่ง เรียกร้องค่าเสียหายอีกกว่า 10 ล้านบาท ต่อแกนนำและผู้ประสานงาน คดียังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีที่ศาลแพ่ง (ค่าเสียหาย จาก ค่าน้ำค่าไฟ สนามหญ้าเสีย ผมขอขยายความให้)
ส่วนคดีสนามบิน ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาผู้ก่อการร้าย ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์ จำเลยในคดีนี้มีกว่า 90 คน
ส่วนคดีแพ่ง 2 คดี มีคดีการท่าฯและหอบังคับการบิน คดีสิ้นสุดที่ศาลฏีกาไปแล้ว ให้ชดใช้ค่าเสียหายรวมดอกเบี้ยเกือบพันล้านบาท กำลังอยู่ระหว่างกรมบังคับคดีตามยึดทรัพย์ทั้งแกนนำ พธม.ทั้งรุ่น 1 และรุ่น 2 อยู่
และที่มวลชนบุก NBT ก็ถูกศาลตัดสินลงโทษไปเรียบร้อยแล้ว ยังคงเหลืออีกสองสามคน ที่กำลังถูกดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้ และก็ยังมีบางคนที่ยังติดคุกอยู่ในเรือนจำกลางกรุงเทพมหานคร
ส่วนตัวผมเองและพรรคพวกนั้น ก็อยู่ในระหว่างการถูกดำเนินคดีข้อหาสนับสนุนกบฎ ในคดีการชุมนุม คปท.แต่ถูกฟ้องร่วมในคดีของ กปปส.ที่โดนข้อหากบฎ
ในระหว่างการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล มวลชน พธม.ถูกลอบยิงด้วย M 79 เกือบทุกคืน ทำให้มีคนตายไป 10 คนและบาดเจ็บพันกว่าคน พิการ 4 คน
นอกจากนี้มวลชน พธม.ยังถูกตำรวจล้อมปราบที่บริเวณหน้ารัฐสภาฯ ตั้งแต่ย่ำรุ่งจนถึงหัวค่ำในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 อย่างโหดเหี้ยม โดยผู้สั่งการของฝ่ายรัฐบาลที่ถูก ปปช.ฟ้องร้อง ถูกศาลยกฟ้องทั้ง 5 คน
ในสมัยนั้น คุณสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พธม.ยังถูกลอบยิงตอนเช้ามืด กลางกรุงเทพมหานคร ด้วยกระสุนสองร้อยกว่านัดพร้อมกระสุน M 79 ทำให้บาดเจ็บสาหัสร่วมกับคนขับรถ จนบัดนี้ยังจับตัวคนร้ายที่ลอบยิงไม่ได้แม้แต่คนเดียว
นี่ยังไม่นับเหตุการณ์การชุมนุมของ คปท.และ กปปส. ที่ถูกลอบยิงทั้งกระสุนปืนและ M 79 จนมีผู้บาดเจ็บล้มตายเช่นเดียวกับการชุมนุมของ พธม. ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา
จึงรายงานมาเพื่อทราบเพื่อความเข้าใจในข้อเท็จจริงของประชาชนทุกหมู่เหล่า
พิภพ ธงไชย อดีตนักโทษชาย คดีการเมืองยึดทำเนียบรัฐบาล 26/6/63