ซีไอเอ็มบีไทย ลั่นเดือนพ.ค.นี้ ชัดเจนกรณี “กิตติพันธ์” นั่งต่อ-ลาออก หลังครบกำหนดลาพักงานชั่วคราว ยันทางกรุ๊ปมีแผนรองรับ พร้อมชี้แจ้งผู้ถือหุ้น ขอเดินสายกลางตัดสินใจอย่างเหมาะสม
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ประธานกรรมการ ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายในเดือนพฤษภาคมน่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งของนายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารว่ายังสามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้หรือไม่นั้น เนื่องจากขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมาย ภายหลังจากมีการอุทรณ์ตามคำสั่งของธนาคารกรุงไทย โดยภายใน 60วันน่าจะมีความชัดเจนระดับหนึ่ง
ขณะเดียวกัน ภายในวันที่ 31พฤษภาคม นายกิตติพันธ์ จะครบกำหนดการขอลาพักการทำงานชั่วคราวครบครั้งที่ 2หลังจากที่ครั้งแรกคณะกรรมการธนาคาร (บอร์ด) มีมติ อนุมัติ การขอลาชั่วคราวเมื่อวันที่ 16มกราคม-31มีนาคม 2562และขอยืดเวลาลาพักชั่วคราวอีกครั้งนับตั้งแต่ 1เมษายน-31พฤษภาคมนี้ ซึ่งการลาพักชั่วคราวครั้งที่ 2เป็นการลาพักงานโดยไม่รับเงินเดือน (Leave without Pay) หากจะมีการขอลาครั้งที่ 3อาจเป็นไปได้ยาก และตัวของนายกิตติพันธ์เองก็น่าจะมีคำตอบให้กับธนาคารได้
อย่างไรก็ดี ธนาคารได้มีการเตรียมแผนสำรอง และภายหลังเดือนพฤษภาคมทางกรุ๊ปก็ได้มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งมีผลการพิจารณาสามารถออกมา 2ทาง โดยทางแรก คือ นายกิตติพันธ์กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งตามเดิม ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีหากนายกิตติพันธ์สามารถเคลียร์ตัวเองให้ชัดเจน
ขณะที่ผลออกมา คือ หากไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้ต่อได้ ธนาคารก็ต้องพิจารณาขั้นตอนต่อไปว่า จะต้องทำอย่างไร ซึ่งมีโอกาสทั้งการสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่ ขึ้นมาแทน นายกิตติพันธ์ หรือการให้นาย โอมาร์ ซิดดิก รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดำรงตำแหน่งต่อไป เนื่องจากปัจจุบัน นายโอมาร์ ก็เข้ามาดำรงตำแหน่งในธนาคารอย่างเต็มตัวอยู่แล้ว
“การลาพักชั่วคราวของนายกิตติพันธ์ และที่เกี่ยวกับคดีความต่างๆนั้น เชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของธนาคาร หรือกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้น เพราะนายกิตติพันธ์ ถือว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับการบริหารธนาคารในปัจจุบันใดๆ จะเห็นว่าผลการดำเนินงานของธนาคารก็ยังเดินหน้าได้ตามปกติ รวมถึงแผน Fast Forward ที่ยังดำเนินการได้ต่อเนื่อง และเข้ามามีส่วนช่วยในการทำธุรกิจของธนาคารในอนาคต”
ทั้งนี้ ภายในงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 25นั้น ประธานกรรมการ ได้มีการกล่าวชี้แจ้งกรณีดังกล่าวให้กับผู้ถือหุ้นรับทราบด้วยว่า ธนาคารขอยืนยันว่าธนาคารจะพิจารณาอย่างดี ซึ่งไม่กระทบกระเทือนการทำงานของธนาคาร อย่างไรก็ดี กรณีนายกิตติพันธ์มองได้ 2ทาง คือ ฝ่ายคนที่อยากให้ธนาคารปกป้องในฐานะซีอีโอ และอีกฝ่ายที่ไม่ต้องการให้ธนาคารปกป้อง และอยากให้นายกิตติพันธ์แสดงสปิริต ซึ่งการตัดสินใจต้องดูหลายองค์ประกอบ เพราะต้องมีเรื่องของกฎหมายแรงงานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
“การตัดสินใจต้องดูหลายองค์ประกอบ แต่หากจะทำด้วยความเห็นอกเห็นใจ ก็มีเรื่องข่าวมาก็มีเรื่องกฎหมาย ดังนั้น ธนาคารก็ลำบากใจ จึงขออยู่เป็นสายกลาง เพราะเราเดินบนเส้นลวด แต่ไม่ต้องการเข้าไปแทรกแซงการตัดสินใจใดๆ เพราะหากแสดงความเห็นไปในทางใดก็อาจกระทบ ต่ออีกฝ่ายได้”
