โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ขีดฆ่าเลข CVV ซะ!! 5 วิธีป้องกัน "ข้อมูลบัตรเครดิต" ที่ทุกคนต้องรู้

UndubZapp

เผยแพร่ 15 พ.ย. 2561 เวลา 02.30 น. • อันดับแซ่บ
ขีดฆ่าเลข CVV ซะ!! 5 วิธีป้องกัน
5 วิธีป้องกัน “ข้อมูลบัตรเครดิต” ที่ทุกคนต้องรู้ เช่น ไม่ถ่ายรูปหน้าและหลังบัตรเครดิตเก็บไว้, เลข CVV ควรขีดฆ่าทิ้ง และจำให้ได้, ลายเซ็นหลังบัตรก็สำคัญ

ในยุคที่ข้อมูลไหลเร็วแบบสุด ๆ ยิ่งข้อมูลเกี่ยวกับการเงินด้วยแล้วยิ่งต้องระมัดระวังเป็นเท่าตัว ยิ่งกับคนที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับระบบบัตรเครดิตด้วยแล้ว อาจจะรู้สึกว่าการป้องกันบัตรเครดิตนั้นดูทำได้ยากแถมไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับเทคนิคที่ทั้งง่ายและได้ผลชัวร์ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้

1. ไม่ถ่ายรูปหน้าและหลังบัตรเครดิตเก็บไว้

เราเข้าใจว่าบางครั้งคุณก็จำเป็นต้องถ่ายรูปบัตรเครดิตเพื่อส่งให้คนในครบครัวซื้อของให้ แต่คำแนะนำของเราคือหลังจากนั้นคุณควรจะลบรูปดังกล่าวทิ้ง และควรจะเช็กใน iCloud หรือ online storage อื่น ๆ ด้วยว่า มีการอัปโหลดอัตโนมัติเก็บไว้หรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือ “อย่าแชร์รูปบัตรเครดิตลงโซเชียลเด็ดขาด!”

2. ลดความเสี่ยงด้วยการขีดฆ่าเลข CVV ทิ้งซะ

เลข CVV คืออะไร เลข CVV ก็คือเลขโค้ดความปลอดภัย 3 ตัวข้างหลังบัตรเครดิตที่อยู่ถัดจากช่องลายเซ็น ซึ่งเลขชุดนี้คุณจะต้องกรอกเวลาที่ใช้บัตรเครดิตซื้อของออนไลน์ ดังนั้นการที่มีคนเก็บบัตรของคุณได้แล้วเอามาคืนก็ไม่ได้หมายความจะปลอดภัย เพราะถึงไม่มีบัตรจริงไปใช้รูด แต่ถ้ามีการถ่ายรูปเลขทั้งหน้าและหลังบัตรเก็บไว้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ปลอดภัย ดังนั้นคุณควรบันทึกเลข 3 ตัวหลังไว้ที่อื่นแล้วขีดฆ่าเลข CVV ที่หลังบัตรทิ้งซะ

3. ลายเซ็นก็สำคัญ…อย่าเซ็นเป็นลายเซ็นทิ้งไว้

สมัยก่อนนั้นเชื่อกันว่าการเซ็นไว้หลังบัตรคือการเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้นหนึ่งให้กับบัตรเครดิต เพราะพนักงานจะได้สามารถเทียบลายเซ็นของเรากับคนที่แอบอ้างใช้บัตรของเราได้ แต่ในสมัยนี้นั้นการเซ็นลายเซ็นทิ้งไว้ก็เหมือนกับเปิดโอกาสให้คนแอบอ้างปลอมแปลงลายเซ็นของเรา แต่จะปล่อยช่องลายเซ็นทิ้งไว้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเพราะคนที่แอบอ้างใช้บัตรของคุณก็สามารถเซ็นหลังบัตรและแอบอ้างเป็นเจ้าของได้ ดังนั้นคุณอาจะเขียนตรงช่องลายเซ็นเป็นชื่อแบบตัวบรรจงแทนก็ได้

4. ใช้กระเป๋าเงินที่ป้องกันการอ่าน RFID

บัตรเครดิตสมัยนี้นั้นมีการนำเทคโนโลยี RFID เข้ามาใช้ด้วย ซึ่ง RFID ก็คือเทคโนโลยีการระบุตัวตนด้วยคลื่นวิทยุ ง่าย ๆ ให้คุณนึกถึงเวลาสแกนบัตรเข้าตึก แล้วตรงเครื่องสแกนก็จะปรากฏเลขประจำตัวของคุณที่ตรงกับหน้าบัตร ทีนี้ลองนึกว่าหากบัตรเครดิตของคุณเป็นแบบสแกน RFID ได้ แล้วมีคนใช้เครื่องดักสแกนบัตรล่ะ? คำตอบก็คือเลขบัตรของคุณก็จะรั่วไหลรวมถึงข้อมูลของบัตรด้วย ดังนั้นควรใช้กระเป๋าเงินที่สามารถบล็อกคลื่นวิทยุหรือที่เรียกว่า RFID blocking ได้จะดีที่สุด

*5. ทำลายเอกสารยืนยันเลขบัตรเครดิตและเลข PIN *

บางธนาคารหลังจากที่คุณสมัครเปิดบัตรแล้ว ก็อาจจะมีการส่งจดหมายตามมาเพื่อยืนยันเลขบัตรและเลข PIN ต่าง ๆ ที่คุณสมัครไว้ ในหลาย ๆ ครั้งเราจะเห็นว่ามีการเขียนเตือนไว้เลยว่าให้ทำลายเอกสารหลังจากอ่านจบ แต่หลาย ๆ คนก็มักจะประมาทไม่ได้ทำลายทิ้งหลังจากเปิด ซึ่งเราจะบอกว่านั้นคือการเปิดช่องว่างให้คนไม่หวังดีมาช่วยใช้เงินจากบัตรเครดิตของคุณ ทางที่ดีหากไม่มีเครื่องทำลายกระดาษจริง ๆ ให้ใช้ปากกาเมจิกฝนจนเลขบนกระดาษเปื่อยแล้วขาดไปเลยก็ได้ อย่างน้อยก็ปลอดภัยแน่นอน

SOURCE : elie

*กดติดตาม ADD Line @UndubZapp *

แซ่บกันต่อ…

>> 4 กฏเหล็ก เล่น Facebook ให้ปลอดภัยจากแฮกเกอร์

>> 3 เคล็ดลับ ใช้ Free Wi-Fi บนมือถือให้ปลอดภัย ไม่โดนแฮคข้อมูล

---

อัปเรื่องแซ่บ ฟีดเรื่องมันส์ เม้าท์ทันเพื่อน
Facebook: @UndubZapp
Instagram: @UndubZapp

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0