ในช่วงเดือนมกราคมถึงประมาณเดือนมีนาคมของทุกปี เป็นระยะเวลาของการยื่นภาษีสำหรับผู้มีเงินได้ทุกประเภท โดยการยื่นภาษีที่ง่ายและสะดวกที่สุดนั่นคือ ‘การยื่นภาษีออนไลน์’ สามารถทำได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องเดินทางไปที่กรมสรรพากร สะดวก ง่าย และรวดเร็ว
ขั้นตอนการยื่นภาษีออนไลน์
สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงาน เป็นมือใหม่และเพิ่งเคยยื่นภาษีครั้งแรก อาจจะยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับระบบการเก็บภาษีที่ผู้มีเงินได้ทุกคนจะต้องทำการยื่นภาษีแบบ ภ.ง.ด.90/91 ซึ่งสามารถยื่นออนไลน์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 9 เมษายน 2562 ดังนั้นวันนี้แคมปัส-สตาร์จะมาบอกขั้นตอนการยื่นภาษีออนไลน์ สำหรับมือใหม่ เพื่อให้มือใหม่เข้าใจและสามารถทำตามได้ง่ายๆ มาฝากค่ะ
ทำไมต้องยื่นภาษี?
ภาษี เป็นแหล่งรายได้สำคัญของของภาครัฐแทบทุกประเทศ เพราะรัฐต้องใช้จ่ายในด้านต่างๆ เช่น การลงทุน การรักษาความปลอดภัย การรักษาพยาบาล การดูแลรับรองแขกบ้านแขกเมืองเพื่อความสัมพันธ์อันดี เป็นต้น ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้ถูกนำไปใช้เพื่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชนในประเทศ ถ้ารัฐมีรายจ่ายมากแต่มีรายรับที่ไม่เพียงพอ ประเทศชาติก็อาจมีปัญหาตามมาได้ ดังนั้น ประชาชนในประเทศจึงต้องช่วยกันสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพื่อความกินดีอยู่ดีของคนทุกๆ คนในประเทศ
ใครต้องยื่นภาษีบ้าง?
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ได้แก่ ผู้ที่มีเงินได้เกิดขึ้นระหว่างปีที่ผ่านมา โดยมีสถานะอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
- บุคคลธรรมดา
- ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
- ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
- กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง
- วิสาหกิจชุมชน ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
ตารางการเสียภาษีประจำปี 2561
การเสียภาษีจะคำณวนจากเงินได้ของบุคคลนั้นๆ หากมีเงินได้สุทธิไม่เกิน 150,0000 บาท จะได้รับการยกเว้นเสียภาษี แต่หากมีเงินได้สุทธิเกิน 150,000 บาท จะต้องเสียภาษีดังตารางที่แสดง
การลดหย่อนภาษี
ค่าลดหย่อนภาษี คือสิทธิประโยชน์ที่ช่วยทำให้เสียภาษีน้อยลงเมื่อคำนวณภาษี หรืออาจช่วยให้ได้เงินคืนภาษีเพิ่มขึ้น โดยจะขึ้นอยู่กับสถานะโดยรวมไม่เกี่ยวข้องกับเงินได้ที่หามาได้ เช่น การมีครอบครัว การทำประกันชีวิต กู้เงินซื้อบ้าน เป็นต้น โดยมีรายละเอียดประเภทของการลดหย่อนภาษี ดังนี้
- ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัว ได้แก่ ค่าลดหย่อนจากคู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ ค่าลดหย่อนบุตร ค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ค่าอุปการะเลี้ยงดูคนพิการหรือคนทุพพลภาพ ค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร
- ค่าลดหย่อนจากประกันชีวิตและเงินออม ได้แก่ ค่าเบี้ยประกันชีวิต เบี้ยประกันภัย เบี้ยประกันสุขภาพ เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดาของผู้มีเงินได้และคู่สมรส เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เงินลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เงินสะสมกองทุนการออมแห่งชาติ เงินสมทบประกันสังคม
- ค่าลดหย่อนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่ ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อการมีที่อยู่อาศัย เที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด ช็อปช่วยชาติ
- ค่าลดหย่อนจากการบริจาคเงิน ได้แก่ เงินบริจาคทั่วไป เงินบริจาคให้พรรคการเมือง เงินสนับสนุนการศึกษา
ขั้นตอนการยื่นภาษีออนไลน์
- เข้าเว็บไซต์ rd.go.th คลิกที่ ‘ยืนแบบผ่านอินเทอร์เน็ต’
- คลิก ‘ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา’
- หากเป็นครั้งแรกที่ยื่นภาษีออนไลน์ ต้องลงทะเบียนก่อน โดยคลิกที่ ‘ลงทะเบียน’
- กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
- เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ให้กรอก Username และ Password เพื่อเข้าสู่ระบบ
เข้าสู่พาร์ทของการบันทึกข้อมูล โดยจะมีรายละเอียดทั้งสิ้น 6 หน้า ได้แก่
หน้าหลัก
เลือกเงินได้/ลดหย่อน
บันทึกเงินได้
บันทึกลดหย่อน
คํานวณภาษี
ยืนยันการยืนแบบ
กรอกข้อมูลใน’หน้าหลัก’ให้ครบถ้วน จากนั้นคลิก ‘ทำรายการต่อไป’
- จะปรากฏหน้า ‘เลือกเงินได้/ลดหย่อน’ ให้เลือกประเภทของเงินได้ หากเป็นผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงานและมีเงินเดือนเป็นรายได้อย่างเดียว ให้ทำเครื่องหมายที่ ‘มาตรา 40(1) เงินได้จากการจ้างแรงงาน เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง บำนาญ โบนัส ฯ’ ส่วนด้านเงินลดหย่อนให้ทำเครื่องหมายถูกต้องและครบถ้วน จากนั้นคลิก ‘ทำรายการต่อไป’
- จะปรากฏหน้า ‘บันทึกเงินได้’ ใส่ข้อมูลเงินได้, ภาษี ณ ที่จ่าย และเงินกองทุนให้ถูกต้องและครบถ้วน (ตามที่ระบุในใบหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือ 50 ทวิ) จากนั้นคลิก ‘ทำรายการต่อไป’
- จะปรากฏหน้า ‘บันทึกลดหย่อน’ ซึ่งระบบจะแสดงข้อมูลรายการลดหย่อนและยกเว้นตามที่เลือกไว้ในขั้นตอนที่ 9 และกรอกข้อมูลเงินสมทบกองทุนประกันสังคม จากนั้นคลิก ‘ทำรายการต่อไป’
- จะปรากฏหน้า‘คํานวณภาษี’ ระบบจะสรุปข้อมูลการคํานวณภาษีและเงินที่ได้รับการลดหย่อน ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง และเมื่อเลื่อนมาด้านล่างจะมีคำถามว่าต้องการอุดหนุนเงินภาษีให้แก่พรรคการเมืองหรือไม่ หากต้องการให้ระบุพรรคและจำนวนเงิน จากนั้นคลิก ‘ทำรายการต่อไป’
- จะปรากฏหน้า ‘ยืนยันการยืนแบบ’ ระบบจะแสดงหน้าแบบแสดงรายการภาษีตรวจสอบข้อมูลและจํานวนภาษีทีชําระเพิมเติมหรือจํานวนภาษีทีชําระไว้เกิน และทำเครื่องหมายช่อง ‘มีความประสงค์จะขอคืนเงินภาษี’ จากนั้นคลิก ‘ยืนยันการยื่นแบบ’
12. จะปรากฏหน้า‘ผลการยื่นแบบ’ สามารถเลือก ‘พิมพ์แบบ’ เพื่อเก็บเอกสารไว้เป็นหลักฐาน หรีอเลือก ‘นำส่งเอกสารขอคืนภาษี’ ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังระบบบริการข้อมูลเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (EDSS)
- เมื่อเข้ามาสู่หน้าระบบบริการข้อมูลเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (EDSS) แล้ว ให้เลือก Upload เอกสารที่ต้องการนําส่ง จากนั้นคลิก ‘นําส่งเอกสารประกอบการพิจารณาคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา’
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก rdserver.rd.go.th, th.jobsdb.com, เพจกรมสรรพากร ( Revenue Department ), estopolis.com, moneyguru.co.th, rd.go.th, itax.in.th