โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

ของดีมีมานาน… รวมโคตรแข้งโครแอตก่อนจะถึง โมดริช

ขอบสนาม

อัพเดต 15 ก.พ. 2561 เวลา 03.21 น. • เผยแพร่ 25 ก.ย 2561 เวลา 11.16 น. • ขอบสนาม
ของดีมีมานาน… รวมโคตรแข้งโครแอตก่อนจะถึง โมดริช

ภายหลังจากการประกาศรางวัลแข้งยอดเยี่ยมประจำปี 2018 ของ FIFA และเป็น ลูก้า โมดริช ได้ครอบครองตำแหน่งไปครองแบบคะแนนนำโด่งมาคนเดียว ซึ่งถือว่าขวบปีที่ยอดเยี่ยมของมิดฟิลด์ร่างเล็กรายนี้

ทั้งการพาต้นสังกัด เรอัล มาดริด ผงาดเป็นเจ้ายุโรป รวมไปถึงพาชาติบ้านเกิดอย่าง โครเอเชีย ไปไกลถึงรอบชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอลโลก 2018

แต่ ลูก้า โมดริช ไม่ใช่นักเตะรายแรกที่เป็นชาว โครเอเชีย ที่ได้รับเสียงสรรเสริญเรื่องฝีเท้า ซึ่งก่อนหน้าเขายังมีนักเตะอีกหลายคนที่ได้รับการยอมรับในวงการฟุตบอล จะมีใครบ้างเรารวบรวมมาให้ได้ชมกันแล้ว

อเลน บ็อคซิซ

อเลน บ็อคซิซ กับศึกฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขากับทีมชาติโครเอเชีย ในปี 2002
อเลน บ็อคซิซ กับศึกฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขากับทีมชาติโครเอเชีย ในปี 2002

บ็อคซิซ เริ่มต้นจากการติดทีมชาติ ยูโกสลาเวีย ก่อนในช่วงศึกฟุตบอลโลก 1990 ก่อนมารับใช้ทีมชาติโครเอเชียหลังแยกตัวออกมา โดยลงสนามให้กับทีมตราหมากรุกไปทั้งสิ้น 40 นัด ซัด 10 ประตู ได้ไปลุยยูโรปี 96 กับทีมด้วย ซึ่งเป็นทัวร์นาเม้นท์แรกของโครเอเชีย แต่เขากลับต้องอดไปลุยฟุตบอลปี 1998 จากการบาดเจ็บ ก่อนกลับมาลุยเวิร์ด คัพ อีกครั้งในปี 2002 ตอนอายุ 32 ปี

โดยฟอร์มร้อนแรงที่สุดของเขาเกิดขึ้นกับ โอลิมปิค มาร์กเซย์ หลังซัดไป 23 ประตูจากการลงสนาม 37 นัด

ดาริโอ ชิมิช

กำแพงเหล็กในแนวรับของ โครเอเชีย ชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก ปี 1998
กำแพงเหล็กในแนวรับของ โครเอเชีย ชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก ปี 1998

ปราการหลังตัวหลักของทีมชาติโครเอเซียที่ลงสนามในทีมชุดใหญ่มากถึง 100 นัด โดย ชิมิช ค่อยๆไต่เต้ามาจากทีชาติตราหมากรุกชุดอายุไม่เกิน 17 ปี , 19 ปี และ 21 ปี ก่อนที่จะได้ติดทีมชุดใหญ่ไปลุยศึกยูโรปี 1996 ที่ประเทศอังกฤษ

แต่ฟุตบอลโลกปี 1998 คือทัวร์นาเมนท์สร้างชื่อและเขาได้เฉิดฉายมากที่สุด จนเป็นคีย์แมนหลักในแนวรับพาทีมไปไกลถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย โดยถึงขั้นถูกยกย่องมาถ้าไม่มี ชิมิช ในครั้งนั้น โครเอเชีย ไม่มีทางไปได้ไกลถึงขนาดนี้

สลาเวน บิลิช

สลาเวน บิลิช อีกหนึ่งปราการตัวหลักของทัพ โครเอเชีย ชุดลุยศึกเวิลด์ คัพ ปี 1998
สลาเวน บิลิช อีกหนึ่งปราการตัวหลักของทัพ โครเอเชีย ชุดลุยศึกเวิลด์ คัพ ปี 1998

ถ้า ดาริโอ ชิมิช ถูกยกย่องว่ายอดเยี่ยมเพียงใด สลาเวน บิลิช ก็ควรได้รับการยกย่องเท่านั้นเพราะเขาคนนี้เปรียบเสมือนทัพหน้าเข้าชนคู่แข่งก่อนที่มาถึง ชิมิช ซึ่งเป็นกำลังสำคัญช่วยทีมได้เป็นว่าเล่น โดย บิลิช ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติเป็นครั้งแรก เมื่อปี 1992 ในแมตช์กระชับมิตรกับทีมชาติ ออสเตรเลีย ก่อนจะจองพื้นที่ในแดนหลังยาว

ซึ่งนอกจากที่รับใช้ชาติเป็นนักเตะแล้ว ก็ถูกแต่งตั้งเป็นนายใหญ่ทีมชาติโครเอเชียในเวลาถัดมา และได้เริ่มเข้าสู่เส้นทางงานโค้ชตั้งแต่บัดนั้นมา จนกระทั่งถูก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ปลดออกจากตำแหน่งเป็นทีมล่าสุด

โรเบิร์ต ยาร์นี่

แบ้กซ้ายตีนหนัก 'โรเบิร์ต ยาร์นี่'
แบ้กซ้ายตีนหนัก 'โรเบิร์ต ยาร์นี่'

ได้รับการยกย่องว่านี่คือ โรแบร์โต้ คาร์ลอส เวอร์ชั่นโครเอเชีย จากผลงานในการเติมเกมรุกที่จี๊ดจ๊าดและการยิงประตูที่โคตรอันเฉียบขาด ยาร์นี่ เคยติดทีมชาติยูโกสลาเวีย ไปลุยศึกฟุตบอลโลกปี 1990 มาแล้ว ก่อนที่โครเอเชียจะแยกตัวออกมา และเป็นกำลังสำคัญ ช่วยให้ทีมชาติโครเอเชียผ่านเข้ารอบสุดท้ายยูโร 1996 ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ครั้งแรกของประเทศ ก่อนที่จะมีทัวร์นาเมนท์ทที่ยอดเยี่ยมในฟุตบอลที่ฝรั่งเศสในอีก 2 ปีต่อมา เพราะเขาได้ลงเล่นทุกนัด พร้อมกับยิง 1 จ่าย 1 พาทีมคว้าอันดับ 3 อย่างสุดเซอร์ไพรส์

ซโวนิเมียร์ โบบัน

ซโวนิเมียร์ โบบัน ไอดอลที่ ลูก้า โมดริช เจริญรอยตาม
ซโวนิเมียร์ โบบัน ไอดอลที่ ลูก้า โมดริช เจริญรอยตาม

นี้คือขุนพลหลักทีมชาติโครเอเชีย และสามารถทอดแทรกขึ้นไปอยู่แถวหน้าแห่งวงการฟุตบอลได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเขาคือนักเตะหมายเลข 10 ของทีมตราหมากรุกในยุคทองในศึกฟุตบอลโลก 1998 โดยใช้ฝีเท้าและเพื่อนในวงการฟุตบอลยืนยันได้ว่ายอดเยี่ยมแค่ไหน โดยเฉพาะลูกจ่ายที่อันเฉียบคมและจังหวะพลิกเกมที่เหนือชั้น

โบบัน เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของ เอซี มิลาน ในยุค 90 เขาช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ เซเรีย อา 4 สมัย รวมถึง แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 1994 และได้รับการบรรจุชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศของสโมสร

ดาวอร์ ซูเคอร์

ดาวอร์ ซูเคอร์ ดาวซัลโวตลอดกาล ทีมชาติโครเอเชีย
ดาวอร์ ซูเคอร์ ดาวซัลโวตลอดกาล ทีมชาติโครเอเชีย

จอมถล่มตาข่ายที่ดีที่สุดคนนึงแห่งวงการฟุตบอลโครเอเชีย แจ้งเกิดแบบสุดๆ ในฟุตบอลโลกปี 1998 จากการซัดไปมากถึง 6 ประตู คว้าตำแหน่งดาวซัลโวของทัวร์นาเมนท์ไปครอง ถึงแม้เขาจะถูกปรามาศว่าเป็นกองหน้าที่เล่นได้เพียงมิติเดียวแต่มันคงไม่ใช่สาระสำคัญอะไรถ้าคุณยังสอยตาข่ายฝั่งตรงข้ามได้ เพราะในรายการดังกล่าวมีเพียง อาร์เจนติน่า ที่เจอในรอบแบ่งกลุ่มเท่านั้นที่ไม่โดน ซูเคอร์ เจาะตาข่าย

และด้วยผลงานในฟุตบอลครั้งนั้นทำให้เจ้าตัวเกือบคว้ารางวัล บัลลง ดอร์ มาครอบครอง แต่ต้องพ่ายแพ้ให้กับ ซีเนดีน ซีดาน ด้วยคะแนน 244 ต่อ 68 คะแนน ซึ่งปัจจุบัน ซูเคอร์ ยังคงครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติโครเอเชีย ที่จำนวน 45 ประตู จากการลงสนาม 69 นัด โดยไม่มีใครทำลายสถิติดังกล่าวได้มาอย่างยาวนานถึง 16 ปีเข้าให้แล้ว

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0