ขสมก.ภาคทัณฑ์ กระเป๋ารถเมล์ ปมด่า-ปัดมือถือผู้โดยสาร แจง ที่ผ่านมาทำดีมาตลอด…
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สุภาพ ภาพ จันทร์ทอง ได้โพสต์คลิปพร้อมข้อความว่า “ทำไมต้องเจออะใรแบบนี้ วันนี้ได้ขึ้นรถเมย์สาย 205 จากฝังตรงข้ามร้านอาหารหัวปลาช่องนนทรีจะไปลงตรงวัดปาริวาส กระเป๋าเดินมาเก็บค่าโดยสารเราก็ถามว่าเท่าไหร่ครับ กระเป๋ามองหน้าแต่ไม่ตอบ ผมก็นึกว่ากระเป๋าไม่ได้ยินที่เราถาม เราจึงถามอีกครั้งว่าค่าโดยสารเท่าไหร่ครับ กระเป๋ามองหน้าแล้วก็สายหัวถามกลับมาว่า บ้านอยู่ที่ไหน เราก็ตอบว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามวัดปาริวาสครับ แล้วกระเป๋าก็ถามอีกว่าไม่ได้อ่านข่าวสารบ้างเลยเหรอ เราก็บอกว่าปกติผมขับรถเองไม่เคยขึ้นรถเมล์มานานแล้ว กระเป๋าก็บอกว่าทุกคนเขายังรู้เลยว่าค่าโดยสารราคาเท่าไหร่ เราก็บอกว่าผมไม่รู้ก็ช่วยตอบผมหน่อยไม่ได้หรอ เพราะผมกำเงินเหรียญไว้หลาเหรียญจะได้นับจ่ายไม่ต้องทอน กระเป๋าก็บอกว่าทำงานก็เหนื่อยมากแล้วยังจะให้มาตอบคำถามอีกเหรอ เราก็บอกว่าผมไม่รู้ว่าคุณเหนื่อยหรือไม่เหนื่อยแค่คุณตอบมาว่าค่าโดยสารเท่าไหร่ผมจะได้จ่ายมันก็จบ พอผมกำลังจะเอาโทรศัพอัดคลิป กระเป๋าก็ตบโทรศัพเราร่วงไปกับพื้นแถมยังด่าเราต่างๆ นาอีกมากมาย”
ล่าสุด ขสมก.ได้ออกมาชี้แจงว่า ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าว กรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.62 นางสาวสุภาภร จันดา พนักงานเก็บค่าโดยสารรถธรรมดา สาย 205 หมายเลข 4-40068 ใช้วาจาไม่สุภาพกับผู้ใช้บริการ ขณะผู้ใช้บริการสอบถามอัตราค่าโดยสาร อีกทั้งได้ปัดมือถือของผู้ใช้บริการคนดังกล่าว หล่นบนพื้นรถโดยสาร เพราะเกรงว่าจะถูกบันทึกวีดีโอ นั้น ขสมก.ต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอรายงานผลการดำเนินการ ดังนี้
- จากการตรวจสอบประวัติ นางสาวสุภาภร จันดา พนักงานเก็บค่าโดยสารคนที่ก่อเหตุ พบว่าเคยกระทำความดีให้ความช่วยเหลือผู้ใช้บริการที่ถูกแทงบนรถโดยสาร และไม่เคยก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับผู้ใช้บริการ
- จากการสอบสวน พนักงานให้การยอมรับว่าใช้วาจาไม่สุภาพจริง แต่ปฎิเสธเรื่องการปัดมือถือของผู้ใช้บริการ โดยอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะพนักงานกำลังยกมือเพื่ออธิบาย แต่มือไปโดนมือถือ
- จากการที่พนักงานเคยกระทำความดีให้ความช่วยเหลือผู้ใช้บริการ (ข้อ1) และไม่เคยมีประวัติก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับผู้ใช้บริการมาก่อน ขสมก.จึงลงโทษพนักงานโดยการภาคทัณฑ์ พร้อมทั้งอบรมพนักงานเรื่องการมีจิตสำนึกรักบริการ และมารยาทในการให้บริการ หากพนักงานก่อเหตุเช่นนี้อีกจะลงโทษสถานหนักต่อไป.
