การเคลื่อนไหวประท้วงรัฐบาลฝรั่งเศสของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองกลายเป็นต้นแบบการต่อต้านนโยบายบริหารของรัฐบาลซึ่งได้ขยายบานปลายสู่หลายประเทศทั่วโลกขณะนี้
หลังจากจุดเริ่มต้นที่กลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองต่อต้านรัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2018 จากจำนวนกลุ่มผู้คัดค้านมากกว่า 300,000 คนได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
กลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองเริ่มต้นขึ้นจากการประท้วงต่อต้านการขึ้นภาษีน้ำมัน จนขยายผลกลายเป็นการต่อต้านประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง เนื่องจากมองเห็นว่า เป็นนโยบายรัฐบาลที่เอื้อประโยชน์ต่อคนรวย แต่เบียดเบียนกลุ่มรากหญ้าในชนบทและเมืองเล็กๆ
ถึงแม้ว่า ผู้นำฝรั่งเศสพยายามแก้ไขสถานการณ์ด้วยการประกาศเรียกเก็บภาษีจากความมั่งคั่งและแพ็คเกจให้ความช่วยเหลือมูลค่า 11,500 ล้านดอลลาร์แก่ผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งยกเลิกการขึ้นภาษีน้ำมัน โดยเริ่มเปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นผ่านอินเทอร์เน็ตและการประชุมในท้องถิ่นทั่วประเทศใน 4 หัวข้อคือ ภาษี พลังงานสีเขียว การปฏิรูปสถาบัน และสิทธิของพลเมือง
ทั้งนี้จะไม่รวมมาตรการปฏิรูปของประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ที่มีเป้าหมายเพื่อเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ
อย่างไรกตาม คลื่นการประทั่วงรัฐบาลของหลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองได้กระจายกว้างออกไปทั่วโลก จากฝรั่งเศสถึงกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม โดยเรียกร้องให้ Charles Michel นายกรัฐมนตรีของเบลเยียมลาออก ซึ่งการชุมนุมประท้วงยังคงเกิดขึ้นในบริเวณท่าเรือขนส่งน้ำมัน โดยนับตั้งแต่การชุมนุมในเดือนธันวาคมเป็นต้นมา ผู้ประท้วงได้ถูกจับกุมไปนับร้อยคนแล้ว
การชุมนุมประท้วงของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองได้แพร่ลามออกนอกฝรั่งเศสเพิ่มมากขึ้น มาถึงยุโรปด้ายตะวันออกทั้งในบัลกาเรีย และ Ban Jelacic Square ในโครเอเชีย ที่มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา
แม้แต่ใน 12 เมืองของแคนาดาที่มีการชุมนุมประท้วงในลักษณะเดียวกับกลุ่มเสื้อกั๊กเหลือง ที่ไม่พอใจต่อนโยบายด้านราคาเชื้อเพลิงคาร์บอน และการจัดการกับปัญหาผู้อพยพ ของรัฐบาลจัสติน ทรูโด
ในอียิปต์มีกรจับกุมนักกฎหมายชาวอียิปต์รายหนึ่งเป็นเวลานานถึง 15 วัน หลังจากที่มีการโพสต์รูปสนับสนุนการประท้วงของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองในฝรั่งเศส
กลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองในฟินแลนด์และในเยอรมนีที่มีผู้ออกมาเดินขบวนประท้วงคัดค้านแผนการณ์เกี่ยวกับผู้อพยพขององค์การสหประชาชาติ
ใน Basra ของอิรัก มีการเดินขบวนของกลุ่มผู้ประท้วงเสื้อกั๊กเหลืองที่เป็นกลุ่มแรงงานยากจนที่ต้องเผชิญหน้ากับตำรวจที่เตรียมพร้อมด้วยยุทธปัจจัย
ประชาชนในสาธารณรัฐไอร์แลนด์หลายร้อยคน ออกมาชุมนุมใจกลางกรุง Dublin ไม่พอใจต่อความล้มเหลวของรัฐบาล รวมถึงในอิสราเอลที่มีกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองออกมาเดินขบวนที่ Azrieli Centre Mall ในกรุง Tel Aviv
อิตาลีก็มีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองที่ต่อต้านนโยบายรัดเข็มขัดของรัฐบาล และการปล่อยให้มีการลักลอบอพยพเช้าประเทศอย่างผิดกฎหมายมานานนับหลายเดือนมาแล้ว เช่นเดียวกับชาวดัตช์ในเนเธอร์แลนด์ที่ออกมาสนับสนันสนุนให้มีการแยกตัวจากสหภาพยุโรป
นอกจากนี้ ชาวปากีสถานหลายร้อยคนออกมาชุมนุมประท้วงระบบการให้บริการภาค รัฐและจ่ายเงินชดเชยของรัฐบาล
กลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองชาวโปแลนด์ที่ออกมาชุมนุมบนมอเตอร์เวย์นอกชานกรุง Warsaw เรียกร้องให้มีการจ่ายชดเชยการเลื้ยงหมู และสินค้าเกษตรที่มีการนำเข้าจากยูเครน
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้องกั๊กเหลืองยังคงเกิดกระแสในโปรตุเกส และการไฮด์ปาร์กประท้วงการขึ้นค่าจอดรถในกรุงมอสโกของรัสเซีย แม้แต่ในเซอร์เบียที่มีการประท้วงเกี่ยวกับการขึ้นราคาน้ำมัน
ต่อมาเป็นการประท้วงในไต้หวันใช้กระเสื้อกั๊กเหลืองให้มีการปฏิรูปภาษีและกฎหมาย รวมทั้งในตูนีเซียที่มีผู้ชุมนุมเรียกร้องรัฐบาลให้แกีไขปัญหาความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ
กระแสของเสื้อกั๊กเหลืองกำลังถูกจับตามองว่า มีการขยายวงกว้างมากขึ้นไปเกือบ 20 ประเทศ ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน แต่ดูเหมือนว่า แนวโน้มการชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้น จะพุ่งเป้าไปที่นโยบายบริหารของรัฐบาลในประเทศต่าง ๆ เป็นสาเหตุหลัก
อ่านเพิ่มเติม ขบวนการเสื้อกั๊กเหลือง
