โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

“ดอกเบี้ยต่ำติดดิน”...หนุน “หุ้น” น่าสนใจสุด-แต่ให้ระวัง ‘ความผันผวน’ ที่จะสูงขึ้น !!!

Wealthy Thai

อัพเดต 04 ส.ค. 2566 เวลา 04.36 น. • เผยแพร่ 21 พ.ค. 2564 เวลา 11.52 น. • กฤษฎิ์ รัตนธีระธาดา

อย่างที่เราทราบกันดีว่า รัฐบาลในแต่ละประเทศได้มีออกนโยบายการเงินและการคลังรวมไปถึงมาตรการต่างๆ ทางเศรษฐกิจ เพื่อพยุงและกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชน หลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
ซึ่งนโยบายคง “อัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ” ก็เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ธนาคารกลางของแต่ละประเทศได้เห็นพ้องต้องกันที่จะรักษาอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวให้อยู่ในระดับต่ำไปอย่างน้อยอีก 1-2 ปี
ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัย อย่างตราสารหนี้ทั้งจากภาครัฐและเอกชน เงินฝาก ให้ผลตอบแทนที่ข้างต่ำหรือแทบจะไม่เห็นถึงการออกดอกออกผลของเงินต้น
การแสวงหาการจะลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น (Search for Yield) นักลงทุนไม่น้อยก็ได้หาช่องทางและโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงประเภทต่างๆ เข้าช่วยให้พอร์ตเพิ่มเติมเพื่อให้เงินมีการเติบโตขึ้น
ในวันนี้ทาง ‘Wealthy Thai’ จึงขอโอกาสนำเสนอมุมมองการลงทุนหรือการจัดพอร์ตโดยผู้เชี่ยวชาญในสายงานบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มาแชร์ให้แก่ผู้ที่สนใจและคนอ่านกันในครั้งนี้

“หุ้น” คือสินทรัพย์ที่น่าสนใจ…ในช่วงอัตราดอกเบี้ยต่ำ-ยีลด์ตราสารหนี้ไม่ขยับ

โดย “ดร.สมชัย อมรธรรม” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน และลูกค้าสัมพันธ์ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้ให้มุมมองว่า “สินทรัพย์เสี่ยง” อย่างตราสารทุน (หุ้น) ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจที่สุดในตลาด เนื่องด้วยในปัจจุบันผลตอบแทนจากสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเงินฝากและตราตราสารหนี้นั้นไม่เพียงพอหรือไม่สูงพอในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ

(ดร.สมชัย อมรธรรม)

“ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ นักลงทุนอาจจะไม่ชอบหรือยอมรับมากนัก เนื่องจากถือว่าเป็นการบีบบังคับให้นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้นก็ต้องขยับการลงทุนมายังสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น จากเดิมที่อาจจะลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยก็สามารถสร้างผลตอบแทนในระดับหนึ่ง”

สถานการณ์บังคับให้นักลงทุน…เข้าหา “สินทรัพย์เสี่ยง” มากขึ้น

แต่ด้วยภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำและผลตอบแทนจากสินทรัพย์มั่นคงต่ำ ก็อยากแนะนำให้นักลงทุนขยับการลงทุนยังสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ถึงแม้ว่าผลตอบแทนในปัจจุบันอาจจะยังไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับในอดีตแต่สินทรัพย์เสี่ยงก็ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ควรให้น้ำหนัก
“สำหรับราคาสินทรัพย์เสี่ยงในปัจจุบันคงต้องยอมรับว่าราคาค่อนข้างสูงหรือแพงมาในระดับหนึ่ง แต่เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่อัตราดอกเบี้ยต่ำไปอีกสักระยะนั้น ก็ทำให้มูลค่าที่เหมาะสมของสินทรัพย์เสี่ยงปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งที่นักลงทุนต้องระมัดระวังอย่างความผันผวนของราคา เนื่องจากสินทรัพย์ที่ปรับตัวขึ้นสูงก็มีโอกาสที่จะปรับลดลงมาแรงๆ ได้”

โดยปัจจัยที่ต้องตามหรืออาจกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยงนั้น คือสถานการณ์วิกฤตที่อยู่ความคาดการณ์ของตลาด หรือการฟุบตัวลงของเศรษฐกิจ ซึ่งคาดการณ์ว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากเนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากสถานการณ์ COVID-19ในหลายประเทศมีทิศทางขาขึ้นไปอีกหลายปีต่อจากนี้ ซึ่งระหว่างทางสินทรัพย์เสี่ยงก็อาจปรับตัวลดลงมาได้บ้างหรือ 5-10% โดยโอกาสที่จะปรับตัวลดลงมาแรงหรือถึงระดับ20-25% นั้นเป็นไปได้ยาก

แนะนำพอร์ตการลงทุนตามธีมให้มีความหลากหลาย

สำหรับคำแนะนำการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อยากให้นักลงทุนจัดพอร์ตการลงทุนเป็นธีมโดยที่ไม่ได้อิงเซกเตอร์ใดเซกเตอร์หนึ่ง โดยผสมไปด้วยธีมพลังงานสะอาด, ธีมเฮลธ์แคร์, ธีมเทคโนโลยีโดยตรง, ธีมESG เป็นต้น แต่หากมีเป้าหมายการลงทุนในระยะยาวหุ้นสหรัฐฯและหุ้นจีน ก็ยังเป็นหุ้นที่น่าสนใจเช่นกัน

ยันอีกหนึ่งเสียง “หุ้น” ยังน่าสนใจ…ทั้งในระยะสั้นและยาว

ทางด้าน “คมสัน ผลานุสนธิ” กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บลจ. แอสเซท พลัส จำกัด ได้ให้มุมมองในทิศทางเดียวกันว่า สินทรัพย์เสี่ยงหรือหุ้น ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจในการลงทุนไม่ว่าจะเป็นภาพระยะยาวหรือระยะสั้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากยังมีอัพไซต์จากปัจจัยต่างที่เข้ามาสนับสนุน

(คมสัน ผลานุสนธิ)

“ไม่ว่าจะด้วยนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ระดับต่ำไปอีกสักพัก และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีแนวโน้มไปต่อได้ดี โดยหากดูวัฏจักรการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอดีตหลังจากผ่านพ้นช่วงวิกฤตจะมีช่วงเวลาอยู่ที่ 10 ปี ที่เศรษฐกิจสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันพึ่งผ่านช่วงพื้นตัวได้ราว 1ปี จึงคาดว่าต่อจากนี้จะเป็นช่วงขาขึ้น”

ซื้อ “ถือยาว” อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ใช่…อยากหาผลตอบแทนต้องคอย “จับจังหวะตลาด”

แต่การจะแสวงหาโอกาสสร้างผลตอบแทนอาจจะเป็นรูปแบบการ “ซื้อและถือยาว” อย่างเดียวอาจจะไม่ตอบโจทย์ ซึ่งอาจจะต้องคอย“จับจังหวะลงทุน” ในช่วงที่ตลาดย่อตัวเพื่อเข้าซื้อและขายในจังหวะที่เหมาะสมหรือในระดับราคาที่พอใจ โดยคาดการณ์ว่าตลาดจะมีจังหวะให้นักลงทุนเข้าลงทุนได้พอสมควร แต่ที่สำคัญนักลงทุนจะต้องโฟกัสตลาดให้ถูกที่

ชูหุ้น Top Pick…ตลาดเวียดนาม ไทย อินเดีย และยุโรป

ซึ่งตลาดหุ้นที่น่าสนใจหรือแนะนำ อยากให้โฟกัสใน “ตลาดหุ้นเกิดใหม่” หรือเป็นรายประเทศประกอบไปด้วย เวียดนาม ไทย อินเดีย ขณะที่ประเทศจีนนั้นยังคงต้องติดตามเรื่องการเมืองในประเทศไป ส่วนประเทศพัฒนาแล้ว ยุโรป เองก็ถือว่าน่าสนใจเช่นกัน
“คงต้องยอมรับว่าในภาวะที่ ‘อัตราดอกเบี้ยต่ำติดดิน’ผลตอบแทนตราสารหนี้ไม่ขยับไปไหน การลงทุนในหุ้นคงเป็นทางเลือกที่น่าจะเหมาะสมและน่าสนใจหากจะแสวงหาโอกาสสร้างผลตอบแทน แม้ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่บีบบังคับให้เราก้าวเท้าเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น”

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0