โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

ก้าวต่อไปในวัย 40 กะรัต ของแอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์

OK Magazine Thailand

เผยแพร่ 18 ก.ย 2562 เวลา 04.53 น.
ก้าวต่อไปในวัย 40 กะรัต ของแอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์
ก้าวต่อไปในวัย 40 กะรัต ของแอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์

โปรเจ็คต์เมื่อไหร่ ไม่เป๊ะ ไม่ปัง ไม่ดัง ไม่ใช่ แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ CEO ของบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) แน่นอน! ยิ่งในวัย 40 กะรัต ที่ชีวิตลงตัวในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการงาน การเงิน ความรัก รวมถึงเพศสภาพที่ขีดขึ้นด้วยมือเธอเอง สาวแกร่งคนนี้ยิ่งไม่พลาดที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนๆ ด้วยการถ่ายภาพสุดเซ็กซี่ที่ลั่นชัตเตอร์โดยช่างภาพฝีมืออันดับต้นๆ ของเมืองไทย ใหญ่-อมาตย์ นิมิตภาคย์ พร้อมประกาศว่า I’m every woman. เพราะตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้ว! นอกจากนี้คุณแอนยังได้มอบสิ่งดีๆ กลับคืนให้สังคมด้วยการตั้งมูลนิธิข้ามเพศบันดาลใจ (LIFT Foudation) เพื่อแสวงหาความเท่าเทียมทางเพศสำหรับชายและหญิงให้ได้รับสิทธิพลเมืองอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าผู้นั้นจะเกิดมาด้วยเพศใด รวมถึงมีความเท่าเทียมด้านโอกาสในการศึกษา การจ้างงาน และการสมรสในประเทศไทย ส่งเสริมความเข้าใจ การยอมรับ และหลอมรวมบุคคลข้ามเพศสู่สังคมไทย นอกจากนี้ยังมีเรื่องน่ายินดีกับเธออีกหนึ่งเรื่อง เพราะเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เธอยังได้รับรางวัล Woman of the Year ในงาน Content Asia Summit 2019 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมสื่อในเอเชียที่ประเทศสิงคโปร์อีกดว้ย ทราบมาว่าสาเหตที่เธอไดรั้บรางวัลนี้ก็เพราะการทำางานอย่างต่อเนื่องในการขยายคอนเทนต์ของประเทศไทยสู่ตลาดอื่นๆ เช่นเดียวกับการประสบความสำเร็จในการเปิดรับคอนเทนต์จากประเทศอื่นๆ ในเอเชียมาสู่ประเทศไทย อีกทั้งเธอยังเป็นบุคคลตัวอย่างในฐานะผู้นำด้านสื่อที่แสดงให้เห็นว่าความหลากหลายทางเพศไม่ใช่อุปสรรคครบเครื่องเรื่องสุดว้าวขนาดนี้ OK! เลยไม่พลาดที่จะพูดคุยกับเธอ พร้อมถามถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาและกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต แน่นอนว่าเรื่องความรักของเธอคนนี้ OK! ก็ไม่พลาดที่จะเจาะลึกมาฝากแฟนๆ คุณแอนเช่นกัน

ช่วงวัย 40กะรัตของคุณแอน มีอะไรเกิดขึ้นมากเลยทีเดียวแล้วก็เหมือนจะลงตัวมากๆ ด้วย

ใช่ค่ะ อย่างแรก คือตอนนี้แอนเป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้ว เรารอเวลานี้มานานมาก เพราะรู้ตัวเองมาตั้งแต่ 5 ขวบว่าเราเป็นผู้หญิงแต่เกิดมาผิดร่าง เพียงแต่ก็ต้องอดทน ทำหน้าที่ของตัวเองให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งในปี 2015-2019 ก็ค่อยๆ เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นผู้หญิงขึ้นมาเรื่อยๆ เราแต่งหญิงไปที่เกาหลี เปลี่ยนหน้าเป็น Facial Feminization บอกคุณหมอว่าทำหน้าให้เป็นผู้หญิงทั้งหมดนะ แล้วก็ทำเลยทั้งหมด 18 ชม.10 อย่าง กินฮอร์โมนส์เมื่อปีที่แล้ว พอกินได้ประมาณ 7 เดือนก็ไปผ่าตัดแปลงเพศเป็นผู้หญิงเต็มตัว ถึงวันนี้ใช้เงินไปประมาณ 40 ล้าน และใช้หมอจาก 3 ที่ คือที่อเมริกา ที่เกาหลีส่วนแปลงเพศใช้ที่เมืองไทย เราบอกกับตัวเองว่าถึงเวลาสักทีเพราะทำหน้าที่จนถึงจุดที่ประสบความสำเร็จแล้ว ฉะนั้นวัย40 จึงเป็นเวลาที่ครบวงจร คือตกผลึกกับตัวเอง ทั้งในเรื่องความร่ำรวย ชื่อเสียง ครอบครัว คนรัก ตอนนี้ก็เป็นผู้หญิงแล้วด้วย เลยกลายเป็นวันนี้ที่รอคอยของเราค่ะ

คุณแอนมีโปรเจ็คต์ถ่ายภาพกับคุณใหญ่-อมาตย์ นิมิตภาคย์ด้วย เล่าถึงที่มาที่ไปให้ฟังหน่อยได้ไหม

แอนอายุ 40 แล้วและอยากจะทำอะไรให้คนรู้ว่า I’m every woman. ฉันเป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้วนะ ซึ่งเราอยากให้คุณใหญ่ มาช่วยถ่ายให้เพราะเขาเป็นเบอร์หนึ่ง เราเองก็รู้สึกปลอดภัยเพราะคอนเซ็ปต์ค่อนข้างเซ็กซี่ มันก็ต้องเป็นคนที่มีคุณภาพ การใช้เวลาดีที่สุดกับคนที่มีคุณภาพที่สุดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเลยเป็นคุณใหญ่ แล้วพอคุยกันปุ๊บ เขาก็เข้าใจเลยว่าควรต้องทำอย่างไร เพราะมันคือโปรเจ็คต์ที่คนข้ามเพศอยากจะแสดงตัวให้เห็นว่าเราคือผู้หญิง 100 เปอร์เซ็นต์ แล้วทุกชุดที่ถ่ายก็มาจากอินเดียหมด ต้องบอกเลยว่ามูลค่าชุดหลายล้านบาท มีหลายชุดมาก เช่น ชุดมหารานีนี่เพชรเต็มตัวเลย ชุดนาคิน นางพญางู ซึ่งเป็นละครของเราเองที่ออกอากาศทางช่อง 3 ชุดอาราเบียนปรินเซส ส่วนชุดแฟนตาซีอีกชุดเป็นคลีโอพัตรา เราต้องการจะสร้างความสตรองให้ทุกคนเห็น และใช้เป็นคอนเซ็ปต์ ดิน น้ำ ลม ไฟ หมายถึงธาตุทั้งสี่ที่ประกอบให้กลายเป็นโลกใบนี้ขึ้นมา เหมือนกับแอนซึ่งเป็นผู้หญิงข้ามเพศก็สามารถสร้างทุกอย่างขึ้นมาด้วยตัวเอง และสามารถประสบความสำเร็จได้เช่นกัน

ในขณะเดียวกันคุณแอนก็ยังตอบแทนสังคมด้วยการสร้างมูลนิธิข้ามเพศบันดาลใจ (LIFT Foundation) เพื่อความเท่าเทียมทางเพศ
ใช่ค่ะ แอนตั้งใจมอบทุนการศึกษาให้กับบุคคลข้ามเพศแต่ไม่มีโอกาสที่จะเรียนหนังสือสูงๆ ต้องยอมรับว่าที่เราสามารถผลักดันตัวเองมาได้ขนาดนี้ การศึกษาสำคัญมาก แอนอ่านหนังสือเยอะ เดินทางเยอะ ไปฟังสัมมนา มีโอกาสไปเรียนต่างประเทศ พูดภาษาอังกฤษได้ แต่หลายๆ คนไม่มีโอกาสเปิดหน้าต่างโลกแบบเรา เลยกลายเป็นแรงบันดาลใจว่าเราอยากจะให้น้องๆ มีโอกาสเติบโตได้เหมือนแอน วันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก็เพิ่งเปิดตัวโครงการข้ามเพศให้ถึงฝั่งฝันLIFT To Touch The Sky เปลี่ยนเพศ ต้องเปลี่ยนคำนำหน้า รณรงค์เปลี่ยนคำนำหน้าให้ตรงกับเพศสภาพด้วย คือ LGBTเนี่ยถ้าแยกออกมาจะแตกต่างกัน L (Lesbian) G (Gay) คือ Same Sex Marriage คนละแบบกับแอน เพราะเราเป็น Tคือ Transgender ซึ่งคนที่แปลงเพศแล้วต้องเปลี่ยนคำนำหน้า ไม่อย่างนั้นเราจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ภาพยนตร์เรื่อง Khejdi ข้ามเพศหัวใจทรนง คือภาพยนตร์ที่สอดคล้องกับสิ่งที่เราอยากจะนำเสนอพอดี ดังนั้นเราจึงใช้เรื่องนี้มาเปิดตัวแคมเปญของเรา

รู้สึกอย่างไรที่ประเทศไทยเปิดกว้างในเรื่อง LGBT+ แต่กลับยังไม่มีกฎหมายรองรับให้คนที่เปลี่ยนเพศแล้วสามารถเปลี่ยนคหน้าได้

แอนมองว่าเขาไม่ได้กีดกันนะ เพียงแต่ว่าเรื่องนี้มันยังไม่เป็นเรื่องสำคัญของประเทศ บ้านเราต้อนรับเพศที่สาม เสรี น่ารักจะตาย แต่ว่าการเปลี่ยนคำนำหน้าของคนที่เปลี่ยนเพศแล้ว ความจริงเป็นเรื่องที่ซีเรียสและจำเป็นต้องทำ เพราะมีปัญหาหลายอย่าง เช่น ถึงแม้เราจะผ่าตัดแปลงเพศแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะแต่งงานได้ อย่างแฟนแอนเป็นชาวต่างชาติ เขาไม่ใช่เกย์ แต่เราไม่สามารถจะแต่งงานกับคนเพศเดียวกันได้เพราะกฎหมายไม่รองรับ แต่ถ้าเปลี่ยนคำนำหน้าจากนายเป็นนางสาว พอแต่งงานแล้วก็ใช้นามสกุลเขา แล้วเขาก็มีวีซ่าที่อยู่เมืองไทยได้ หรือเรื่องการรับรองบุตร การทำธุรกิจ การมอบมรดก การเดินทาง พาสปอร์ต วีซ่า เวลาไปไหนต่อไหนก็ไม่ขัดแย้งกันกับข้อมูล เช่น เห็นเป็นผู้หญิงสวยๆแต่คำนำาหน้าคือมิสเตอร์ เขาก็คิดว่าเป็นโจรหรือเปล่า อีกอย่างในเมืองไทย คนข้ามเพศหรือผู้หญิงสวยๆ ที่แปลงเพศมาแล้วถ้าเขาถูกผู้ชายข่มขืน ผู้ชายคนนั้นไม่ผิดนะ เพราะเขายังเป็นนายไง แล้วจะอยู่กันอย่างไร มันไม่ปลอดภัย และนี่คือสาเหตุที่แอนลุกขึ้นมาทำ เพราะมองว่าศักยภาพที่เรามีตอนนี้สามารถทำได้ ซึ่งแอนก็คิดว่าจริงๆ แล้วรัฐบาลก็คงอยากจะสนับสนุนเหมือนกัน เพียงแต่ที่ผ่านมาอาจมีเรื่องติดขัดมากมาย แต่ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องรับเรื่องของพวกเราไปได้แล้ว

ตอนนี้คุณแอนดูสวยขึ้นกว่าเดิมมาก เชื่อว่าความรักคงมีส่วนสคัญด้วย เล่าถึงหนุ่มคนนี้ให้ฟังหน่อยได้ไหม

จริงๆ เราเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว เขาเป็นคนอังกฤษ แอนเจอเขาตั้งแต่ตอนอายุ 35 ซึ่งเรายังไม่ได้เป็นผู้หญิงแบบนี้ เขามากับแฟน แล้วเราก็คบเขาเป็นเพื่อน ไม่ได้คิดอะไรเลยเพราะเราจะไปเป็นสเป็กเขาได้อย่างไรล่ะ แต่เห็นเขาก็หล่อดีจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันพักใหญ่เลย แอนก็ทำงานของตัวเองไปพาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ แล้วก็ค่อยๆ เปลี่ยนหน้าตาผิวพรรณ กินฮอร์โมนส์ ท้ายที่สุดก็มีหน้าอกและแปลงเพศกระทั่งมีอยู่วันหนึ่งแอนได้รับเชิญขึ้นไปพูดที่ต่างประเทศแล้วพอลงมาปุ๊บ เขาก็เดินมาทัก เราก็จำเขาได้อยู่แล้วล่ะเพราะเขาหล่อ (หัวเราะ) เขาก็ถามว่าจำเขาได้ไหม เราบอกจำได้ เธอหล่อจะตาย แต่เธอล่ะจำฉันได้หรือเปล่า เขาบอกว่าจำได้สิ เสียงเธอไม่เปลี่ยน ทำไมจะจำไม่ได้ แล้วใครๆ ก็รู้ ว่าเธอเป็น transwoman เป็น Andrew แล้วค่อยมาเปลี่ยนเป็น Anne พอทักทายกัน คุยไปคุยมาก็รู้ว่าเขาเลิกกับแฟนแล้ว แต่ว่าเขายังอยู่ในเอเชีย เป็นนักค้าคอนเทนต์ของบริษัทหนึ่ง ทุกอย่างก็เลยเริ่มจากตรงนั้น

จุดไหนที่รู้สึกคลิกกัน

เขาบอกว่าชอบเราที่สมอง ชอบความเป็นผู้ใหญ่ และการให้เกียรติกัน ที่สำคัญคือเราเป็นนักธุรกิจ เวลาทำงาน จะรู้เขารู้เรา แอนไม่ใช่ผู้หญิงประเภทตามผู้ชาย รู้สึกว่าต้องมีระยะมีความเหมาะสม เราคบกันก็มีไทม์มิ่งที่ดี จนมาถึงจุดที่เขา บอกกับเราว่า ฉันรู้สึกกับเธอมากกว่าความเป็นเพื่อนแล้ว เราก็คิดว่า ดีเหมือนกันนะ เพราะเราก็รู้สึกกับเขาเหมือนกัน ก็เลยคบกันมาเรื่อยๆ ค่ะ

งานยุ่งขนาดนี้ แล้วควอลิตี้ไทม์ที่จะมาเจอกันคือช่วงไหน

สลับกันไปหาค่ะ (หัวเราะ) นี่เดี๋ยวเขาก็จะมาอยู่เมืองไทยแล้ว เขาชอบ

ถึงแม้คุณแอนจะเปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่างในร่างกายของตัวเอง แต่เพราะอะไรถึงยืนยันว่าจะไม่เปลี่ยนเสียง

เพราะว่าแอนจะไม่โกหกว่าเราเป็นใคร เสียงของเราจะบอกให้คนอื่นรู้ว่า I’m a transwoman. แล้วเราก็บอกกับทุกคนว่าจักรพงษ์คือเจเคเอ็น เพราะฉะนั้นถ้าเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนเสียงมันก็ไม่ใช่เรา จิตวิญญาณเราเป็นผู้หญิง แต่การเรียนรู้ สมองและความสามารถของเรามาจากการที่แอนเป็นจักรพงษ์มาก่อน เพราะฉะนั้นเราก็อยากจะเก็บจักรพงษ์เอาไว้ ความเป็นจักรพงษ์ทำให้เรามีวันนี้ คือถ้าแอนเกิดมาเป็นผู้หญิง 100 เปอร์เซ็นต์ บอกเลยว่าจะไม่รวยเท่าวันนี้ และก็ไม่ประสบความสำเร็จขนาดนี้ แอนจะมองไม่เห็นเหตุทั้งสองด้านของชีวิตคน และจะไม่แกร่ง ถ้าเกิดเป็นผู้หญิงก็คงมีลูก มีสามีไปแล้ว ซึ่งแอนก็เคยถามหนุ่มคนนี้เหมือนกันว่าเขารับได้ไหมถ้าเราจะไม่เปลี่ยนเสียงและจะเป็นแบบนี้ เขาบอกว่าทำไมจะรับไม่ได้ เพราะเห็นมาตั้งแต่ตอนต้นแล้ว (หัวเราะ)

ถ้ามีคนที่อยากมีชีวิตที่เพียบพร้อมแบบคุณแอน คุณจะบอกกับเขาอย่างไร

อดทน หน้าที่มาก่อนสิทธิ จงทำตัวเองให้ดี ประสบความสำเร็จในเรื่องหน้าที่การงาน มีความรับผิดชอบ มุ่งมั่นตั้งใจ รางวัลจะมาหาเอง ไม่ต้องไปป่าวประกาศให้คนต้องมายอมรับในตัวตนของเธอเสียนักหนา ทำให้ดีแล้วเขาศรัทธาเอง ศรัทธาจากผลงาน เคารพจากความเป็นตัวเรา ฉะนั้นแอนบอกเลยว่าคนข้ามเพศรุ่นนี้สบายกว่ารุ่นแอนเยอะ (เสียงสูง) ไม่ต้องทำอะไรมากหรอก ทำตัวให้ดีก็พอ แล้วก็ไปผ่าตัดแปลงเพศอะไรต่างๆ เมื่อถึงเวลา แต่ต้องไปหาเงินเก็บตังค์เองนะ เพราะแอนจะไม่ให้ (หัวเราะ)

คุณแอนทงานตลอดเวลาอย่างนี้ มีวิธีรีเซ็ตตัวเองอย่างไร

พยายามนอนให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้ามีเวลา (หัวเราะ) นอนบนเครื่องบินบ้าง เป็นคนหลับง่ายเพราะมันเหนื่อย และเป็นคนวางแผนดี ตอนนี้แผนแอนไปถึงกลางปีหน้าแล้วว่ามีอะไรต้องทำบ้าง นัดอะไรต่างๆ จนถึงสิ้นปีคือเป๊ะหมดแล้วนะ รู้หมดเลยว่าอะไรเป็นอะไร เพราะฉะนั้นถ้าจะพัก จะพักทีเดียวยาวๆ นอกจากนี้เราควรจะต้องเอ็นจอยกับชีวิตในทุกๆ วัน Everyday should be your holiday. ถ้าคุณทำงานกับสิ่งที่คุณรัก คุณจะรู้สึกเลยว่าทุกวันคุณมีความสุข แต่ถ้าทำในสิ่งที่ไม่รัก คิดว่าเมื่อไรจะถึงวันหยุด เมื่อไรจะปีใหม่ เมื่อไรจะได้ไปเที่ยว ชีวิตจะไม่สนุก แล้วแอนก็เป็นสไตล์ Work & Travel ไปในตัวด้วย เช่น พอไปฝรั่งเศส 7 วัน อาจจะแวบเที่ยวสัก 2 วัน อีก 5 วันก็ทำงาน เรามีอิสระทางการเงินมากกว่าคนอื่น เพราะฉะนั้นก็ต้องแลกมาด้วยการทำงานที่หนักหน่วง หลายๆ คนก็บอกว่าอยากจะพัก แต่พอไปพักปุ๊บ ไม่มีเงิน ไม่รู้จะเที่ยวไหน ก็อยู่กับบ้าน อ้าว ก็ค่าเท่ากันไหม คือคนเราไม่มีอะไรดีที่สุดหรือแย่ที่สุดหรอกมันก็คือการบาลานซ์ให้ได้มากกว่า

คุณแอนเป็นคนที่มีความสุขตลอดเวลา เคล็ดลับของคุณแอนคืออะไร

ต้องคิดบวก คิดสร้างสรรค์ ต้องมีแรงบันดาลใจกับชีวิต และต้องเป็นคนมีอีคิวดีๆ เห็นอะไรก็แล้วแต่ สามารถเปลี่ยนให้เป็นความสุขในชีวิตได้ เช่น ขอบคุณจังเลยสำหรับบทเรียนนี้ที่สอนให้เราเก่งขึ้น เราจะได้เดินก้าวไปแล้วไม่พลาดอีก ต้องเป็นคนจิตใจดี คิดดี อารมณ์ดี ทุกคนเจออุปสรรคเหมือนกันหมด แต่ควรเปลี่ยนอุปสรรคให้กลายเป็นแรงบันดาลใจ แล้วก้าวด้วยแรงขับเคลื่อนที่ดีจะดีกว่า พูดง่ายๆ คือต้องฉลาดในการใช้ชีวิต ไม่อย่างนั้นอะไรก็ทำให้เราอารมณ์เสียไปหมดและแอนก็เป็นคนคิดดีมาตั้งแต่เด็ก เพราะเราต้องอยู่กับความทุกข์มาตั้งแต่เด็กเหมือนกัน (หัวเราะ) ถ้าไม่ทำตัวมีความสุข จะยิ่งแย่ คือแอนเลือกแล้วที่จะมีความสุข ความสุขมันเลือกได้นะ

เห็นว่าวางแผนไว้จนถึง 30ปีข้างหน้าแล้ว บอกได้ไหมว่าวันนั้นคุณแอนจะเป็นอย่างไร

แอนไม่เกษียณแน่นอน บอกได้เลยว่าจะทำงานจนถึงอายุ 80 ฉันเป็น workaholic เป็นคนทำงาน อยู่บ้านเฉยๆ ไม่เอาแน่ๆเบื่อ ชีวิตอย่างแอนคือได้ทั้งเที่ยว ทั้งเดินทาง มีลูกน้อง และได้อยู่ในสื่อ เป็นชีวิตที่คนอยากได้ แล้วแอนจะเกษียณทำไมและแอนก็อยากเห็นคอนเทนต์ไทยไปสู่สายตาคนทั่วโลก ซึ่งเรายังมีเวลา 30-40 ปี ที่จะท􀁖าให้ประสบความสำเร็จได้ นั่นล่ะค่ะคือความฝันและแรงบันดาลใจจนถึงอายุ 80 แล้วแอนอยากฝากสิ่งที่ดีๆ ให้กับคนบนโลก อยากเห็นว่า LIFT Foudation สามารถช่วยผู้หญิงข้ามเพศทั่วฟ้าเมืองไทยได้ อยากให้ลูกๆ หลานๆ ทุกคนจำได้ว่าป้าแอนคนนี้เป็นปูชนียบุคคลข้ามเพศเบอร์หนึ่งตลอดกาล และถ้าพวกเขาลืมแอน แอนก็จะเป็นคนไปจุดไฟเผาพวกเขาเองค่ะ (หัวเราะ)

ติดตาม OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
Website : www.okmagazine-thai.com
Instagram : @okmagazinethailand
Facebook : OK! Magazine Thailand
Twitter : @okthailand

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0