โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

กู้ศพ 2 แล้ว สาวฮอนด้าศาลาถล่ม! ญาติๆ รํ่าไห้ ปิดอีกหลัง สั่ง “ห้ามใช้” (คลิป)

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 18 ก.ค. 2562 เวลา 16.35 น. • เผยแพร่ 18 ก.ค. 2562 เวลา 22.20 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

ญาติร่ำไห้โฮรับศพสาวพนักงานโชว์รูมฮอนด้า เหยื่อรายสุดท้ายของศาลามรณะ หลังร่างผู้ตายโดนฝังใต้ซากศาลาปูนที่พังถล่มลงแม่น้ำแม่กลอง ทีมกู้ภัยงงกันเป็นแถว จู่ๆศพลอยอืดขึ้นมาเองอย่างน่าฉงน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้ระดมกำลังคนและเครื่องจักร พยายามเก็บกู้ซากมากว่า 36 ชั่วโมงแต่กลับไร้วี่แววจะกู้ศพขึ้นมาได้ง่ายๆ ตำรวจรอสอบพยานอีก 2 ปาก ก่อนสรุปสำนวนคดีหาว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ

กลายเป็นเหตุสะเทือนขวัญมีผู้เสียชีวิตถึง 2 ศพ ได้รับบาดเจ็บ 23 คน ภายหลังศาลาปูนที่พักริมแม่น้ำแม่กลอง ข้างวัดเพชรสมุทรวรวิหาร หรือวัดบ้านแหลม เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม พังถล่มลงในแม่น้ำพร้อมชาวบ้านกว่า 30 ชีวิตที่นั่งกินอาหารอยู่ในศาลา คาดสาเหตุเกิดจากเสาศาลาปูนถูกน้ำกัดกร่อนจนหักโค่นลง ทำให้ศาลาทั้งหลังพังครืนจมแม่น้ำ เหตุเกิดช่วงบ่ายวันที่ 16 ก.ค. ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้กู้ศพนางสุรี อุระชื่น อายุ 37 ปี แม่ค้าขายกาแฟขึ้นมาได้ ส่วนศพ น.ส.วิไลพร เสือเล็ก อายุ 24 ปี พนักงานบริษัทฮอนด้าแม่กลอง อยู่บ้านเลขที่ 114/2 หมู่ 7 ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม ยังติดอยู่ในซากศาลาที่จมใต้น้ำ ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติพี่น้องที่รอลุ้นใจจดจ่อ

ความคืบหน้าของการกู้ศพเหยื่อศาลามรณะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดช่วงเย็นวันที่ 17 ก.ค. ต่อเนื่องถึงกลางดึกคืนวันที่ 18 ก.ค. เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยจากมูลนิธิต่างๆ ยังระดมกำลังคนและเครื่องจักร เข้าเก็บกู้ซากศาลาริมน้ำที่พังถล่ม เพื่อกู้ร่าง น.ส.วิไลพรที่ติดค้างอยู่ในซากศาลาใต้น้ำ เนื่องจากมีแผ่นปูนและเสาปูนทับศพอยู่ การกู้ศพเป็นไปด้วยความยากทุลักทุเลเพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยวลงสู่ปากอ่าวแม่น้ำแม่กลอง เจ้าหน้าที่ต้องปรับแผนให้นักประดาน้ำมูลนิธิร่วมกตัญญู ดำลงไปรื้อโครงสร้างกระเบื้องโมเสกออกกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นสับเปลี่ยนให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างเบญจธรรม เพชรบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยอยุธยา ใช้สายเบลล์ผูกไม้แปรขนาดกว้าง 3 นิ้ว หนา 1 นิ้วครึ่ง ยาวประมาณ 6 เมตร สอดเข้าไปใต้แผ่นปูน ใช้รถเครนยกไม้ขึ้นเหนือผิวน้ำ

ระหว่างนั้นไม่มีใครคาดคิด ในช่วงเวลาประมาณ 01.40 น. จู่ๆศพของ น.ส.วิไลพรได้ผุดขึ้นมาจากใต้น้ำอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความฉงนของทีมกู้ภัยเพราะไม่คิดว่าศพจะลอยขึ้นมาได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้ทุ่มเทกำลังคนและเครื่องจักรเข้าเก็บกู้ซากศาลานานกว่า 36 ชั่วโมงเพื่อจะนำศพออกมา แต่กลับเป็นไปอย่างลำบาก สภาพศพขึ้นอืด ผู้ตายสวมเสื้อแขนยาวสีดำคลุมทับด้วยเสื้อแขนสั้นสีเลือดหมู นุ่งกระโปรงสีดำ หน่วยกู้ภัยต้องรีบนำเรือยางแล่นเข้าไปเก็บศพใส่รถนำส่งชันสูตรที่ รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ท่ามกลางญาติที่มารอเฝ้าดูศพด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ภายหลัง พญ.จันทนี ทวีโชติภัตร แพทย์เวร พร้อมด้วย ร.ต.อ.ธราทร จันทดิษฐ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรสงคราม เจ้าของคดี ร่วมชันสูตรพลิกศพแล้ว ได้มอบศพให้ ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดประจันตาราม อ.เมืองสมุทรสาคร

ภายหลังกู้ศพเหยื่อศาลาพังถล่มครบทั้ง 2 ศพแล้ว นายสุเมธ ธีรนิติ ปลัดจังหวัดสมุทรสงคราม หัวหน้าส่วนปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย ได้เป็นประธานแถลงปิดศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย มีหน่วยกู้ภัยที่ช่วยกันค้นหาศพผู้สูญหายรวม 270 คน สำหรับศาลาริมน้ำอีกหลังที่อยู่ใกล้กันและมีอายุเก่าแก่เท่ากันนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประจินต์ ธารศิริสิน รอง ผวจ.สมุทรสงคราม ได้มีคำสั่งให้หยุดใช้งานแล้วเพื่อความปลอดภัย และเตรียมจะรื้อถอนในช่วงปลายปี 62 เพื่อสร้างแนวกั้นน้ำทะเลหนุนตามแผนพัฒนาจังหวัด แต่กลับเกิดเหตุศาลาหลังแรกถล่มขึ้นก่อน

พ.ต.อ.จุมพล สิกเสน ผกก.สภ.เมืองสมุทรสงคราม กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนพยานที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงแค่ 2 คน จะมาให้การภายหลัง เนื่องจากติดภารกิจ ส่วนด้านตัวอาคารศาลาที่พังลงมาจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ต้องประสานงานไปยังสำนักโยธาธิการและผังเมือง ส่งวิศวกรผู้ชำนาญการ และสำนักป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม ร่วมตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงว่ามาจากสาเหตุอะไร ถึงจะสรุปคดีได้

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0