จากรณี นางศิริพร เหมรัตนธร อายุ 59 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักแห่งหนึ่ง ซอยเจริญกรุง 107 แยก 5 กทม. เมื่อเข้าตรวจสอบพบศพ ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน นอกจากนี้ยังพบนายพิชัย ตังคศิวะกัล อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นสามีของผู้ตาย ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ และอัลไซเมอร์ และยังมีสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลสีขาวอีก 1 ตัว อยู่ภายในห้องดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จึงจะเข้าไปเพื่อตรวจสอบและพาสามีของผู้ตายออกมา แต่ถูกสุนัขของผู้ตายเห่าและขวางไม่ยอมให้เข้าไป
ทางเจ้าหน้าที่อาสาต้องใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง เพื่อต้อนสุนัขของผู้ตายเข้าไปขังไว้ในห้องเก็บของ ก่อนจะนำตัวสามีของผู้เสียชีวิต ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาล และนำศพของผู้ตายส่งชันสูตร ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
วันที่ 24 ม.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี สอบถาม นางอ่อน (นามสมมติ) แม่บ้านประจำหอพัก เปิดเผยว่า สองสามีภรรยาเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน สามีเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นอัมพฤกษ์ ส่วนตัวภรรยาทำงานเป็นพนักงานในโรงแรม แต่ก็ไม่ค่อยพูดคุยหรือสุสิงกับคนในหอพัก กระทั่งเมื่อช่วงเที่ยงของวานนี้ ตนเข้ามาทำความสะอาดหอพัก ได้กลิ่นเหม็นเน่ารุนแรง จึงไปเคาะประตูเรียกห้องของผู้เสียชีวิต แต่ไม่มีใครตอบกลับ จึงไปแจ้งเจ้าของหอให้มาเปิดห้อง พบผู้เสียชีวิตนอนอืดอยู่บนเตียง ส่วนสามีของผู้ตายก็นั่งอยู่ภายในห้อง จึงรีบโทรแจ้งตำรวจ
ส่วนสาเหตุ คิดว่าอาจเกิดจากโรคประจำตัวของผู้ตาย เพราะพักหลังผู้ตายดูหน้าซีดเซียวผิดปกติ ส่วนตัวของสามีที่ไม่ยอมตะโกนบอกให้คนช่วยนั้น อาจเป็นเพราะมีอาการป่วยเป็นอัลไซเมอร์ จึงไม่รู้ว่าภรรยาเสียชีวิตแล้วหลังจากนี้สามีของผู้ตายจะต้องอยู่ในความดูแลของโรงพยาบาล ส่วนสุนัขของผู้เสียชีวิตนั้น มีคนใจบุญอาสาจะรับสุนัขไปเลี้ยงต่อแล้ว
ด้าน นายอรรถพล รักร้อย อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า หลังจากที่เข้าไปเห็นสภาพภายในห้องก็รู้สึกหดหู่ใจอย่างมาก ศพของผู้เสียชีวิตนอนอยู่บนเตียง มีน้ำเหลืองไหลลงตามพื้นห้อง ส่วนบนพื้นนั้น พบสามีของผู้เสียชีวิตนอนตัวเปื้อนน้ำเหลืองเต็มตัว อีกทั้งยังมีสุนัขพุดเดิ้ลสีขาวอีกตัว ที่พยายามเห่าไล่เจ้าหน้าที่ และยืนขวางไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าใกล้ เหมือนกับหวงเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้วิธีหลอกล้อด้วยลูกชิ้น และนำไปขังไว้ที่ห้องเก็บของภายในหอพัก
ก่อนที่จะเข้าไปนำตัวสามีของผู้ตายอาบน้ำ ทาแป้งให้ โดยสามีของผู้เสียชีวิต ยังคงมีอาการมึนงง และบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ภรรยาของตนเองยังไม่ตาย เพราะเมื่อเช้ายังคุยกันอยู่ แต่เจ้าหน้าที่คาดว่าอาจเป็นเพราะอาการหลงลืมมากกว่า ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวสามีส่งโรงพยาบาล ซึ่งตัวสามีเอาแต่พูดขอบคุณเจ้าหน้าที่ และเป็นห่วงสุนัขของตนเองกลัวว่าจะไม่มีคนดูแล
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ คาดว่า สาเหตุการเสียชีวิตน่าจะเกิดจากโรคประจำตัว อีกทั้งจากข้อมูลของพี่สาวและลูกชายของผู้ตายแจ้งว่า ผู้ตายมีโรคประจำตัวเป็นหืดหอบ แต่หลังจากนี้จะต้องทำการนำศพส่งชันสูตรที่สถาบันนิตอวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์อีกครั้ง
https://youtu.be/SZ6FLkh9JLY
