โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

กูรูลงความเห็น หากสกัด ไวรัสโคโรนา ไม่สำเร็จ ศก.โลกเตรียมรับภาวะถดถอย

Businesstoday

เผยแพร่ 26 ก.พ. 2563 เวลา 03.32 น. • Businesstoday
กูรูลงความเห็น หากสกัด ไวรัสโคโรนา ไม่สำเร็จ ศก.โลกเตรียมรับภาวะถดถอย

บรรดานักเศรษฐศาสตร์ นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญ ต่างออกโรงแสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่ล้วนลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า หากยังไม่สามารถควบคุมไวรัสโคโรนาได้ภายในเร็ววันนี้ ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยก็เป็นสิ่งที่ทั่วโลกจำต้องเผชิญอย่างแน่นอนแล้ว

MarketWatch เว็บไซต์ติดตามรายงานความเคลื่อนไหวในแวดวงเศรษฐกิจทั่วโลก รายงานรวบรวมความเห็นของบรรดานักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำหลายแห่ง ที่พยายามจะประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและรุนแรงอยู่ในเวลานี้

รายงานระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญต่างมั่นใจแล้วว่า ขนาดของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่ขยายวงกว้างในขณะนี้ จะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกอย่างใหญ่หลวง เพียงแต่ยังไม่สามารถมั่นใจได้ว่า จะสร้างความเสียหายเลวร้ายเพียงใด และคิดเป็นมูลค่าเท่าใด เพราะความเคลื่อนไหวของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังสามารถเปลี่ยนแปลงพลิกผันได้อยู่ตลอดเวลา

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สถานการณ์ของไวรัสโคโรนา ทำให้นักลงทุนทั่วโลกผ่อนคลายความวิตกกังวล เนื่องจากมีสัญญาณบวก ที่บ่งชี้ได้ว่าทางการสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ทว่า เมื่อเร่ิมต้นสัปดาห์ใหม่ที่ผ่านมา ความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับถูกสั่นคลอน เมื่อมีรายงานพบการระบาดลามไปยังยุโรปและตะวันออกกลาง สร้างความตื่นตระหนก จนองค์การอนามัยโลก (WHO) ต้องออกมาคลายความกังวลด้วยการระบุว่า ไวรัสโคโรนายังไม่รุนแรงถึงขึ้นที่เป็นการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ได้

อย่างไรก็ตาม คำยืนยันของ WHO ก็ไม่ช่วยผ่อนคลายความกังวลใดๆ ของนักลงทุนทั่วโลก เห็นได้จากความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะดัชนีอุตสาหกรรมดาวน์โจนส์ ที่ปรับตัวดิ่งลงอย่างรุนแรง สวนทางกับราคาทองคำที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจนถึงกับมีการคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มจะทะลุ 2,000 ดอลลาร์สหรัฯ ต่อ ออนซ์

ขณะนี้ บรรดานักลงทุนต่างเริ่มคำนวนความเป็นไปได้ที่ภาวะเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว ซึ่งหากยึดมั่นว่า ทางการจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดในเร็ววันนี้ เศรษฐกิจโลกก็น่าจะแค่ชะลอตัว ก่อนสามารถกลับมาฟื้นตัวได้อย่างช้าๆ ในครึ่งปีหลัง แต่หากยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาด และลากยาวไปจนถึงเดือนเมษายน เศรษฐกิจโลกคงต้องเตรียมใจรับภาวะถดถอย เนื่องจากการระบาดจะส่งผลต่อกำลังการผลิตของแรงงาน และอาจทำให้ต้องมีการจัดระเบียบโลกกันใหม่

การคาดการณ์ประเมินความเสียหายของภาวะการณ์ต่างๆ ที่มีต่อเศรษฐกิจโลกนี้ ตามปกติ นักเศรษฐศาสตร์หรือนักวิเคราะห์ทั้งหลาย จะคิดคำนวน ด้วยการอ้างอิงเหตุการณ์คล้ายคลึงกันที่เกิดขึ้นในอดีต โดยในกรณีของไวรัสโคโรนา ส่วนใหญ่ต่างอิงเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสซาร์ส หรือ เมอร์ส

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ของโรคระบาดในอดีต กลับไม่ใช่ตัวอย่างที่เหมาะสมสำหรับสถานการณ์ของไวรัสโคโรนาในปัจจุบัน เพราะไวรัสโคโรนา แตกต่างจากไวรัสทั่วไปตรงที่ ไม่มีวัคซีนรักษา และไม่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมาติ มันแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว อยู่ในอากาศได้นาน และมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากอย่างรวดเร็วเกินระดับที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้

ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังซับซ้อนมากขึ้น เมื่อคนที่มีเชื้อแต่ไม่มีอาการป่วยใดๆ สามารถส่งผ่านเชื้อไปยังผู้อื่นได้ ทำให้ความพยายามในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดเป็นไปอย่างยากลำบากมากขึ้น

นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโรคร้ายแรงในอดีต เกิดขึ้นและจำกัดบริเวณอยู่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่สำหรับไวรัสโคโรนา กลับตรงกันข้าม เพราะอยู่ในยุคที่การเดินทางทางอากาศเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และราคาเข้าถึงได้ ทำให้ไวรัสโคโรนา สามารถแพร่กระจายไปในวงกว้าง ขณะที่เมื่อเอ่ยถึงผลกระทบในแง่เศรษฐกิจ ไวรัสโคโรนา ก็มีสิทธิออกฤทธิ์อาละวาดได้หนักกว่า รุนแรงกว่า การระบาดของโรคในอีดต เนื่องจากเทคโนโลยีนวัตกรรมทำให้การค้าการลงทุนระหว่างประเทศใกล้ชิดและผูกสัมพันธ์กันมากขึ้น

พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ การระบาดของไวรัสโคโรนาในครั้งนี้ จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในสัดส่วนที่มากเกินกว่านักเศรษฐศาสตร์หรือผู้เชี่ยวชาญจะสามารถประเมินได้

ขณะเดียวกัน ด้วยมาตรการที่นำมาใช้สกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในปัจจุบัน ที่มุ่งเน้นการกักกัน ปิดล็อกเป็นหลัก ทำให้เศรษฐกิจโดนปิด โดนกักกันไปด้วย ซึ่งแนวทางดังกล่าว ย่อมส่งผลต่อกระบวนการผลิต และการค้าการลงทุนในภาพรวม ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ภาวะชะงักงันที่เกิดขึ้น มีแนวโน้มฉุดให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ไม่ยาก จากที่ต้องชะลอตัวมาก่อนแล้ว เพราะ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สิ่งที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์ได้แต่ภาวนาและคาดหวังในขณะนี้ก็คือ ภาวะถดถอย เพราะไวรัสโคโรนา จะอยู่กับเศรษฐกิจโลกไม่นานนัก

 

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ดาวโจนส์ดิ่งวันที่สอง879.44จุด หลังอนามัยโลกเตือนทั่วโลกรับมือไวรัสโควิด-19

หวั่นไวรัสฉุดอิตาลีถดถอย หลังเจอผู้ติดเชื้อมากสุดนอกเอเชีย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0