เมื่อต้นปีเรายังได้ยินข่าวดีเกี่ยวกับมังคุดกันอยู่เลย…
เมื่อเอฟทีเอ (Free Trade Area หรือเขตการค้าเสรี) ช่วยดันส่งออกมังคุดไทยให้เติบโตแบบก้าวกระโดด แม้จะอยู่ในช่วงการค้าชะลอตัว ทว่ายอดส่งออกมังคุดไทยสามารถทำยอดส่งออกครึ่งแรกของปี 62 กว่า 325 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ถึง 220%
ปริมาณการส่งออกดังกล่าวมีตลาดหลักคือ จีน และอาเซียน ซึ่งได้แก่ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เมียนมา อินเดีย ชิลี เปรู และฮ่องกง ที่ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้ามังคุดจากไทย ทำให้ไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้ามังคุดอันดับต้นๆ ของโลก
มังคุดไทยนั้นได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักในฐานะราชินีแห่งผลไม้ ไม่นับประโยชน์สารพันจากการกินมังคุด อาทิ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอย มีฤทธิ์ในการจับอนุมูลอิสระต่างๆ ได้มากกว่าผลไม้ชนิดอื่น ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส แข็งแรง เสริมสร้างระบบภูมิต้านทานให้แข็งแรง ช่วยลดกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์ และใครที่ชอบกินทุเรียน--ราชาแห่งผลไม้ ก็ควรกินมังคุด--ราชินีแห่งผลไม้ ตามหลังไป จะช่วยเรื่องแก้ร้อนในได้อีกด้วย
แต่ข่าวดีมักผ่านไปไวเสมอ เพราะครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะราคามังคุดตอนนี้พบว่าดิ่งนรก เนื่องมาจากปริมาณผลผลิตมังคุด โดยเฉพาะทางภาคใต้ที่ออกสู่ตลาดมีปริมาณมาก รวมถึงส่งออกได้น้อยลงเนื่องจากคุณภาพไม่ผ่านมาตรฐาน เป็นเหตุให้พ่อค้าชะลอซื้อ และราคาหน้าสวนเหลือกิโลกรัมละไม่ถึง 7 บาท
ราคามังคุดดิ่งหนัก เช็กราคาตลาดไท
ในช่วงนี้มีปริมาณมังคุดเข้าสู่ตลาดไทเกือบวันละ 10,000 ตัน แม่ค้ามังคุดที่ตลาดไท บอกว่า ผลผลิตปีนี้เข้ามามากเกิน ทำให้ระบายไม่ทัน แต่ที่ต้องช่วยรับซื้อผลผลิตจากคู่ค้า เพราะซื้อกันมานาน นำมาจำหน่ายทั้งปลีกและส่งในประเทศเป็นหลัก
โดยราคารับซื้อมังคุดหน้าสวนคละขณะนี้อยู่ที่ กิโลกรัมละ 7 บาท ขณะที่ค่าจ้างขึ้นมังคุดอยู่ที่กิโลกรัมละ 5 บาท ทำให้ชาวสวนได้รับผลกระทบ ส่วนไซต์ส่งออกอยู่ที่กิโลกรัมละ 14-16 บาท ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่กิโลกรัมละ 80-100 บาท
“แต่ก่อนราคาขายส่งกิโลละ 40 บาท เดี๋ยวนี้เหลือแค่ 6 บาท มันต่างกันกี่เท่าคิดดู แล้วขายปลีกตอนนี้เหลือแค่ 20 กว่าๆ
“ราคามังคุดปีนี้ตกต่ำอย่างมากเนื่องจากผลผลิตออกมามาก และส่วนหนึ่งเป็นผลจากจีนเข้มงวดในการส่งออกผลไม้ไทย กำหนดให้มีทั้งมาตรฐาน GMP และ GAP ทำให้ผลไม้บางส่วนไม่สามารถส่งออกได้ เพราะผู้ซื้อชะลอการซื้อ เนื่องจากรอการรับรองจากกรมวิชาการเกษตร”
หากรัฐจะช่วยเหลือเกษตรกร โดยการรับซื้อเพียงบางส่วน ไม่สามารถดูดซับผลผลิตจำนวนมากที่ออกในช่วงนี้ได้ จึงควรช่วยเหลือด้วยการช่วยค่าขนส่งเกษตรกรกิโลกรัมละ 2 บาท ทำให้เกษตรกรขายมังคุดได้เพิ่มขึ้น
“ตอนนี้ถ้าจะช่วยเกษตรกรต้องช่วยให้ถึงมือ จะจ่ายเขาแบบไหนก็ได้ เพราะราคาตอนนี้ที่เขาได้ มันแค่ค่าได้ค่าเก็บผลผลิต ส่วนค่าปุ๋ยค่ายายังไม่ได้คืนเลย”
นายอดิศร์ ภัทรประสิทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการค้า บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ (ตลาดไท) ระบุว่า ขณะนี้มีปริมาณมังคุดภาคใต้เข้าตลาดไทวันละเกือบ 10,000 ตัน มีผู้ค้า 95 คน ที่ทำหน้าที่รับซื้อผลผลิตและกระจายสินค้าสู่พ่อค้ารายย่อยและผู้บริโภค ซึ่งตลาดยังมีการหาผู้ซื้อใหม่โดยประสานกลุ่มผู้ค้ารถเร่ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 1,000 กว่าราย รวมทั้งขยายช่องทางการกระจายสินค้าผ่านกลุ่มผู้ซื้อรายใหญ่รถสิบล้อ ไปยังภูมิภาคด้วย
เปิดจุดรับซื้อมังคุด ผ่านระบบสหกรณ์
จากเหตุการณ์ความเดือดร้อนของเกษตรกรมังคุดทั่วทุกพื้นที่อำเภอในจังหวัดนครศรีธรรมราช ราคาผลผลิตตกต่ำอย่างน่าตกใจ สาเหตุจากการเอารัดเอาเปรียบของกลุ่มพ่อค้าคนกลาง (ล้ง) ทั้งในและนอกพื้นที่ ด้วยกลวิธีต่างๆ ของพ่อค้าคนกลาง แผงรับซื้อรายใหญ่ๆ สร้างอิทธิพลเครือข่ายในการกำหนดกดราคารับซื้อ ไม่ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด
ด้วยการปั่นราคาผลผลิตให้ต่ำลง กระจายปูพรมตั้งจุดรับซื้อครอบคลุมทุกพื้นที่แบบถึงมือเกษตรกรตัดหน้าผู้รับซื้อที่ให้ราคาสูงกว่า เพื่อเป็นการกดดัน และกดราคาผลผลิตแบบไม่สามารถปฏิเสธได้ อีกทั้งไม่มีการแจ้งราคารับซื้อล่วงหน้าให้เกษตรกรได้รับทราบ
นายชาตรี เกตุเรน สหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า กระบวนการสหกรณ์ในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยสหกรณ์การเกษตรพระพรหม จำกัด นำโดยนายปานเทพ รัสมะโน ประธานกรรมการ คณะกรรมการดำเนินการ และเจ้าหน้าที่สหกรณ์ ร่วมกันเปิดจุดรับซื้อมังคุดเพื่อช่วยเหลือสมาชิกและเกษตรกรชาวสวนมังคุด จำหน่ายให้กับพ่อค้าชาวจีน
สหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จากการเปิดจุดรับซื้อของสหกรณ์การเกษตรพระพรหม จำกัด เป็นการนำร่องในการแก้ไขปัญหาโดยระบบสหกรณ์ ซี่งมีสหกรณ์ต่างๆ ในพื้นที่ อ.ลานสกา อ.พรหมคีรี ได้ดำเนินเปิดจุดรับซื้อในพื้นที่ และชี้นำราคามังคุดในพื้นที่ โดยพ่อค้าจะรอราคาของสหกรณ์ประกาศ และจะรับซื้ออในราคาที่สูงกว่าประมาณ 1-2 บาท
ไปรษณีย์ไทยร่วมด้วยช่วยอีกแรง
ที่ผ่านมามีหลายองค์กรตระหนักถึงปัญหาราคามังคุดตกต่ำสุดขีด และมีโครงการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม อย่างเช่นไปรษณีย์ไทย ที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือชาวสวนมังคุด อ.ลานสกา นครศรีธรรมราช ด้วยการช่วยขายมังคุด และจัดส่งให้ถึงมือผู้สั่งซื้อผ่านไลน์ และส่งสินค้าทางอีเอ็มเอส เพื่อระบายผลผลิต
จากปัญหามังคุดล้นตลาดในพื้นที่ อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช นั้น บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ได้เข้าไปช่วยเหลือชาวสวนมังคุด ด้วยการช่วยขายมังคุด และจัดส่งให้ถึงมือผู้สั่งซื้อ โดยผู้สนใจสั่งซื้อมังคุดลานสกา ซึ่งเป็นของดี จ.นครศรีธรรมราช หารับประทานยาก
ทั้งนี้ไปรษณีย์ไทย ได้จัดรถขนส่ง เพื่อกระจายผลผลิตมังคุดดังกล่าวผ่านโครงการ ‘ไปรษณีย์เพิ่มสุข’ ด้วยความตั้งใจที่จะช่วยขน ช่วยขาย ผลผลิตมังคุดคุณภาพดีจากมือเกษตรกรส่งตรงถึงผู้บริโภค ด้วยมาตรฐานบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ในประเทศโดยไม่เสียค่าจัดส่ง ระยะแรกจำนวน 100,000 กิโลกรัม และมีแผนจะเพิ่มปริมาณการขนส่งหากผู้บริโภคยังมีความต้องการสั่งผลผลิตมังคุดเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายผลผลิตและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน
เสียดายโครงการดังกล่าวสิ้นสุดระยะเวลาไปเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา ทว่าเป็นการปิดโครงการที่สัมฤทธิ์ผลดีมาก เกินเป้าหมาย เพราะช่วยชาวสวนให้ได้ราคาขายมังคุดดีขึ้นมาก ไม่ถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา และได้จํานวน Volume ขายที่ดีมากด้วย
ดอยคำลงพื้นที่ช่วยเหลือที่ชุมพร
บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด หนึ่งในโครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระชนกาธิเบศ พระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงตั้งขึ้นเพื่อรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร ในพื้นที่ภาคเหนือ และอีสาน มาแปรรูปผ่านโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปทั้ง 3 แห่ง เป็นผลิตภัณฑ์สินค้าตรา ‘ดอยคำ’
เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอด ตามพระปฐมบรมราชโองการ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ผ่านมาดอยคำจึงได้เดินทางมารับฟังปัญหาราคามังคุดตกต่ำ จาก นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ที่เปิดเผยว่า ปกติมังคุดออกมากในช่วง 5 สิงหาคม เป็นต้นไป แต่ด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงทำให้มีมังคุดออกมาอย่างรวดเร็วและมีปริมาณมาก ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางผู้รับซื้อรายใหญ่ต่างๆ ไม่ได้มีการรองรับการซื้อ แต่ปัจจุบันได้มีการขับเคลื่อนไปได้
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือช่วงวันที่ 10 สิงหาคมถึง 10 กันยายนนี้ จะมีมังคุดออกมาอีกจำนวนมาก จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทางดอยคำได้เข้ามาช่วยเหลือด้วยการรับซื้อ เพราะเชื่อว่าจะทำให้ราคามังคุดเป็นไปตามกลไกตลาด
นางชนันนัทธ์ พลปัถพี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านขายและตลาด บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เป็นบริษัทฯ ที่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 ที่ทรงตั้งขึ้นเพื่อรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร โดยครั้งนี้ เราได้เห็นความทุกข์ยากของเกษตรกรทางภาคใต้ ซึ่งประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด และขายไม่ได้ราคา จึงรีบเข้าช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาสถานการณ์ดังกล่าวโดยทันที
จากการประชุมและทำข้อตกลง สรุปว่าจะทำการรับซื้อในช่วงเวลา 10-20 สิงหาคม 2562 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยจะตั้งจุดรับซื้อ 2 จุดในจังหวัดชุมพร คือ ที่ว่าการอำเภอหลังสวน และที่ว่าการอำเภอพะโต๊ะ โดยผ่านการดำเนินการจัดซื้อจากการควบคุมดูแลของ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดชุมพร และสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ชุมพร เป็นผู้ดูแลและตรวจสอบการดำเนินงาน
“ภารกิจของดอยคำ คือ การแปรรูปผลผลิตจากเกษตรกรของไทย เมื่อเห็นถึงปัญหาจึงได้ลงมาดูแล เพื่อดูว่าจะสามารถช่วยเหลือด้านใดได้ ด้วยความหวังที่จะบรรเทาปัญหามังคุดที่มีปริมาณมาก
“จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทางดอยคำเตรียมตั้งศูนย์ในการรับซื้อ โดยมีส่วนราชการกำกับดูแล โดยดอยคำจะนำมังคุดที่รับซื้อไปแปรรูปเป็นน้ำมังคุดสกัดเข้มข้น ดอยคำ และน้ำมังคุด 100% ดอยคำ พร้อมทั้งนำมังคุดแบบสดไปกระจายเพื่อจำหน่ายตามสถานที่ต่างๆ
“ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (สำนักงานใหญ่) บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (สำนักงานใหญ่) ในเครือสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ร้านสุวรรณชาติ ทุกสาขา โลตัส ทุกสาขา รวมถึงร้านดอยคำ ทุกสาขา อาทิ สาขาราชเทวี สาขาโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สาขาโรงพยาบาลรามาธิบดี อันเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดในภาคใต้” นางชนันนัทธ์ พลปัถพี กล่าว
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด โทร. 0-2656-6992 หรือติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : ดอยคำ - Doi Kham
สำหรับเราท่าน ในฐานะผู้บริโภค วันนี้ถ้าคิดจะซื้อผลไม้สักอย่างกลับบ้าน ‘มังคุด’น่าจะเป็นตัวเลือกแรก เพราะนอกจากเป็นผลไม้ดีมีประโยชน์ ฤดูกาลนี้ยังมีผลผลิตออกมามาก ทำให้สามารถซื้อได้ในราคาถูกแสนถูก
อย่างน้อยการกินมังคุดวันนี้…เท่ากับคุณช่วยสร้างสรรค์สังคม แม้จะเพียงเสี้ยวกระผีก ทว่าช่วยต่อลมหายใจของพี่น้องเกษตรกร เติมขวัญ ให้กำลังใจกันและกันได้ง่ายๆ ทำได้…โดยการเริ่มที่ตัวเรา
